ช็อคตำรวจชี้ แจ็คสัน โดนหมอฆาตกรรม

 

สื่ออังกฤษระบุ พบรอยเข็มฉีดยาแม้กระทั่งข้อพบหลังหัวเข่าและหว่างนิ้วเท้า ตำรวจเตรียมตั้งข้อหาแพทย์ที่จ่ายยาทำให้แจ็คสันตาย สื่อแท็บลอยด์ของอังกฤษ รายงานว่า ร่องรอยของเข็มฉีดยาที่พบบนร่างกายของไมเคิล แจ็คสัน ราชาเพลงป๊อบนั้น มีแม้กระทั่งที่ข้อพับด้านหลังหัวเข่าทั้งสองข้างและนิ้วเท้า

แหล่งข่าวคนหนึ่งเปิดเผยต่อเดอะซันว่า ร่างกายของแจ็คสันมีสภาพเหมือนกับหมอนปักเข็มตอนที่เขาเสียชีวิต ใครก็ตามที่จ่ายยาให้เขาได้ทำทั้งที่รู้ดีว่า เขาติดยาถึงขั้นรุนแรง และการที่หลอดเลือดดำที่แขนทั้งสองข้างของแจ็คสันตีบหมดทำให้แพทย์ที่ไว้ใจไม่ได้เหล่านี้ ใช้วิธีฉีดยาแก้ปวดเข้าทางเส้นเลือดดำที่ยังใช้การได้เท่าที่จะหาได้

ผลการชันสูตรศพ พบว่า มีรอยเข็มถูกฉีดเข้าไปยังหลอดเลือดดำที่ด้านหลังหัวเขาทั้งสองข้าง รวมถึงรอยบริเวณหว่างนิ้วเท้า ซึ่งเป็นวิธีที่พวกติดยาเสพติดนิยมใช้กัน ซึ่งการค้นพบครั้งนี้ มีขึ้นในช่วงที่ตำรวจกำลังสืบสวนอย่างเข้มข้นไปสู่ประเด็นที่ว่า พวกแพทย์ที่ใกล้ชิดกับแจ็คสัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายแพทย์ส่วนตัวของเขา คือ ดร.คอนราด เมอร์เรย์ และดร.อาร์โนลด์ ไคลน์ แพทย์ผิวหนัง

ด้านนิวส์ ออฟ เดอะเวิร์ลด์ รายงานว่า จากการชันสูตรศพพบว่า แจ็คสันเสียชีวิตจากการฉีดยาที่มีฤทธิ์แก้ปวดรุนแรงอย่าง ดิพริแวน และตำรวจได้แจ้งต่อครอบครัวของเขาว่า กำลังเตรียมจะตั้งข้อหาคนที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายยาให้แจ็คสัน ภายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งอาจจะเป็นคนเดียวหรือมากกว่า และจะมีการดำเนินคดีอาญาด้วย ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ลา โทย่า พี่สาวของแจ็คสัน เพิ่งจะเปิดเผยว่าเธอทราบว่าใครฆ่าน้องชายของเธอ

เมื่อวานนี้ เทอร์รี่ ฮาร์วีย์ เพื่อสนิทของครอบครัวแจ็คสัน ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ผลการชันสูตรศพได้แสดงให้เห็นว่า แจ็คสันเสียชีวิตเพราะใช้ยาดีพริแวนเกินขนาด และยังพบยาอีกหลายชนิดในกระเพาะอาหารมีรอยเข็มที่คอและทั่วทุกส่วนของร่างกาย และตำรวจได้แจ้งต่อครอบครัวว่า สำนักงานปราบปรามยาเสพติด หรือ DEA กำลังเตรียมเล่นงานในคดีอาญา ที่รวมถึงข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา จากการจ่ายยาที่นำไปสู่การเสียชีวิตของแจ็คสัน ซึ่งครอบครัวแจ็คสันกำลังร่วมมือกับ DEA และตำรวจลอสแองเจลิส เพื่อจัดการกับแพทย์ที่จ่ายยาอันตรายเหล่านี้ให้แจ็คสัน ฮาร์วีย์ ยังระบุด้วยว่า ครอบครัวแจ็คสันได้เตรียมจะยื่นฟ้อง AEG บริษัทโปรโมเตอร์ที่อยู่เบื้องหลังการจัดคอนเสิร์ตที่สนามกีฬาโอทู เรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 30 ปอนด์ ที่ทำให้แจ็คสันต้องจบชีวิตลงก่อนเวลาอันควร โดยโจ พ่อของแจ็คสัน กล่าวว่า ผู้บริหารของ AEG ไม่ได้ใส่ใจดูแลแจ็คสันอย่างที่ควรจะเป็น ที่อาจจะรักษาชีวิตของเขาเอาไว้ได้ ฮาร์วีย์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นโปรโมเตอร์ ที่ได้รับการยอมรับและทำงานร่วมกับวง TLC ระบุว่า ครอบครัวแจ็คสันมีหลักฐานเพียงพอที่จะใช้เล่นงานทั้ง AEG และแพทย์ที่เกี่ยวข้อง

ก่อนหน้านี้ โจ พ่อของแจ็คสัน ได้ใช้ความพยายามที่จะเอาแจ็คสันไปเข้ารับการบำบัดตอนที่เขาเตรียมตัวเล่นคอนเสิร์ตที่ลอนดอน แต่คำถามก็คือ ทางผู้จัดคอนเสิร์ตรู้เรื่องแจ็คสันมีปัญหาเรื่องการใช้ยาพวกนี้มากน้อยเพียงใด และใครเป็นคนให้จ่ายยาให้เขา AEG อ้างว่า ได้ทำทุกอย่างเพื่อช่วยแจ็คสันในการเตรียมตัวสำหรับคอนเสิร์ต 50 รอบ และยืนยันว่าแจ็คสันยังฟิต และมีสุขภาพสมบูรณ์ดีตอนที่ซ้อม ซึ่งฮาร์วีย์นั้น เป็นสมาชิกคนแรกในกลุ่มคนที่ใกล้ชิดแจ็คสัน ที่ยืนยันว่าแจ็คสันติดยาตามใบสั่งแพทย์ และระบุว่า แจ็คสันเสียชีวิตเพราะยาดิพริแวน หรือในชื่อที่รู้จักกันว่า โพรโพฟอล และยาฉีดระงับปวดอีกชนิดหนึ่งคือ วิสทาริล ยังไม่รวมถึงยาเม็ดจำนวนมากที่เขาต้องกินทุกวัน ทั้งยาคลายกล้ามเนื้อซาแน็กซ์, ยาคลายเครียดโพรแซ็ค และยาช่วยย่อยพริโลเซ็ค ซึ่งฮาร์วีย์ ยืนยันว่า แจ็คสันเริ่มใช้ยาเมื่อปี 2527 หลังจากได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุระหว่างการถ่ายโฆษณาเป๊ปซี่ และเริ่มควบคุมไม่ได้ถึงขั้นที่บางครั้งลงมือฉีดยาให้ตัวเอง แต่เขาไม่เชื่อว่ารอยเข็มที่คอจะเป็นการฉีดยาให้ตัวเองของแจ็คสัน ดร.ไซริล เวชท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพยาธิวิทยา ที่เคยร่วมสืบสวนคดีการใช้ยาของแอนนา นิโคล สมิธ กล่าวว่า ถ้ามีแพทย์สั่งยาดิพริแวนให้แจ็คสัน และปล่อยให้เขาใช้เองหรือมีคนฉีดให้เขาที่บ้านจนถึงขั้นปล่อยปละละเลย ทั้งที่ผู้ฉีดให้จะต้องเป็นวิสัญญีแพทย์ที่ผ่านอบรมมาอย่างดี และต้องทำกันในโรงพยาบาลเท่านั้นเนื่องจากอาจส่งผลให้มีการปนเปื้อนของแบ็คทีเรีย ก็ถือว่าเป็นความผิดฐานฆ่าคนตายได้

#ดารา #ซุบซิบ
sunny99
ช่างเทคนิค
19 ม.ค. 53 เวลา 09:10 1,310 8 66
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...