สงครามโลกครั้งที่ 1 ในภาพสี

ทหาร เอลจีเรีย ที่ฝรั่งเศสเกณฑ์มารบถึง 370,000 คน พวกนี้ขึ้นชื่อด้านความบ้าระห่ำสุดๆ

ทหาร เซเนกัล จาก อาณานิคม ฝรั่งเศส

ต้นแบบ ปืนครกใน ปัจจุบัน สมัยนั้นเรียกเล่นๆกันว่า "flying pig"

"มาตาฮารี" ลูกครึ่ง ดัสซ์+ อินโดนีเซีย ต้นแบบ sex spy คนแรกของโลก โดนฝรั่งเศส จับได้และประหารในปี 1917

พิธีเปลี่ยนประจำการทหารของเยอรมัน

chauny เมืองฝรั่งเศส ที่ยับเยินจากสงครามที่สุดเมืองนึงใน สงครามนี้

ทหาร คอสแซก ของฟรั่งเศส ตอนต้นของสงคราม ที่ยังเป็นแบบ สงคราม ศต.ที่ 19 ต่อมา เกราะ พวกนี้ก็ถูกถอดออกหมดเพราะ ใส่ไปก็เปล่าประโยชน์...

sharp shooter ต้นแบบ sniper ในปัจจุบัน (คนที่กำลังวิ่ง) ตอนนั้นยังไม่มีแนวคิดเรื่องการพรางตัว พวกเขาจะห้อยดาบไม้ เอาไว้ไต่เขา ซุ่มจากที่ได้เปรียบก็พอ..

ทหารสก็อตแลนด์ และกระโปรง ที่เป็นเอกลักษณ์

ต้นแบบ ปืนต่อต้านอากาศยาน ยิงได้ทีละนัด แถมต้องเล็ง ที่ เครื่องยนต์ ไม่ก็คนขับ

เรือเหาะของเยอรมัน ที่โดนยิงร่วงอย่างง่ายดาย จนต้องเลิกใช้ไปในที่สุด

ต้นแบบ armor car ไม่มีอะไรมากไปกว่า เอาเหล็กมาติดรถ -*-

ทหาร คอสแซก ของ รัสเซีย ชนชั้นพิเศษของสังคมที่ไม่ต้องจ่ายภาษี แต่ต้องหาม้าและเลี้ยงม้าด้วยตัวเอง.. ในภาพเป็นการตั้งขบวนโจมตีเป็นวงกลม แต่เปล่าประโยชน์เมื่อเจอปืนกลของ เยอรมัน..

ทหารรัสเซีย ติดดาบปลายปืนที่ใหญ่และยาว พวกนี้เก่งด้านการรบประชิดมาก.. แต่ พวกเขาไม่เคยได้ใช้ความสามารถนั้นเลย -

ทหารอินเดีย 70,000 นาย (รวม บังคลาเทศ กุรข่าน ศรีลังกา)ก็โดนเกณฑ์ มาสงครามนี้ด้วย..

กองทัพ อเมริกัน เข้าสงครามปี 1918 (ปีสุดท้ายของสงคราม) เยอรมัน ไม่มีแรงจะรบแล้ว..

ปืนกลแบบเคลื่อนย้ายได้เป็น นวัตกรรม ของไอ้กันโดยแท้ (เปลี่ยนทีเป็นแท่งๆเลย หุๆๆ)เพราะปืนกลสมัยแรกๆ หนักแล้วต้องใช้น้ำหล่อลำกล้องตลอดเวลา.

หมวกกองทัพ เยอรมัน สมัยแรกๆ มี เขาแหลมๆเอาไว้ด้วย เจอหน้าเมื่อไรโขกบันลือโลกแบบซีดานเลยเข้าท้องทีเดียวดับ ไม่ก็ถ้ากระสุนหมดถอดหมวกมาไล่ฟาดกันเลย-*- ต่อมาก็ตัดมันออก

นี่เป็นปืนกลแขกอินตระเดีย หน้าตาของแม็กกาซีนประหลาดดี เป็นแผ่นๆยื่นออกมาดื้อๆเป็นนี้แหละ ใครจะทำไม?ฉานก็ยิงของฉานได้ก็แล้วกัน ยีห้อ Benet-Mercie Model 1909

นี่เป็นปืนกลหนัก Vickers หล่อเย็นลำกล้องด้วยน้ำที่อยู่ในท่อรอบๆลำกล้องนั่นแหละครับ ยิงไปมากๆน้ำระเหยออกหมด บางที่ต้องฉี่ใส่แทนน้ำก็มีไ ม่งั้นลำกล้องขยายตัวมากจนกระสุนหล่นอยู่แค่ 5-6 เมตรแถวปากลำกล้อง 555+สุดยอดมั้ยละ

ทหาร แอฟริกาเหนือ ที่แต่งตัวเหมือนลิเก..

นี่ๆครับจากไอ้ที่ ปตอ. ที่ไว้สอยเชฟล้าสมัยเค้าก็เลยเอานี่มาให้แทนครับ ของไทยยังมีใช้อยู่เลย

รูปนี้ เป็นภาพทหารฝรั่งเศส ตอนเข้าตะลุมบอล (ไม่รู้ไอ้คนถ่ายมันรอดรึเปล่า..

สงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นสงครามสนามเพลาะครับ ระหว่างช่องสนามเพลาะก็คือ no-man land แบบนี้แหละครับ

รถถังMark-1 ครับใครเคยดูอินเดียหน้าโจร3 ก็จะเห็นครับ ความเร็วสูงสุด4ไมล์/ชม. ช้าพอๆกะเต่า กราะหนา4 ซม. รุ่นนี้อิตมากครับเป็นรถถังที่มีมากที่สุดในโลก ใช้มาจนถึงเกือบจะกลางสงครามโลกครั้งที่2

บรรยากาศ สงครามสนามเพลาะ กิน-อยู่-สู้-ตายมันตรงนี้ ครบวงจร.

รูปรถถังของเยอรมันในสมัยสงครามโลกครั้งที่1 ซึ่งเป็นการนำเจ้า Mark-1ของอังกฤษมาดัดแปลงใหม่ครับ คันนี้ละครับที่ได้ฉายาไฟแช๊กรอนสัน

ทหาร อเมริกัน เยอรมันเล่นไพ่ ทหารฝรั่งเศสผ่อนคลายด้วยการดูหนัง -*-

เค้าบอกว่างานอิดเรกของทหารเวลาอยู่ในสนามเพลาะมี2อย่างที่ทำแล้วมีประโยชน์ คือ ฆ่าเห็มหมัดตามเสื้อผ้า และก็ 2 กำจัดหนู เค้าบอกมาว่า หมัดฝ่ายอังกฤษมีสีแดง หมัดฝ่ายเยอรมันมีสีน้ำตาล เวลาจะฆ่าแบบสนุกๆคือ เอาฝาน้ำยาขัดรองเท้าไปเผาจนแดงแล้วจับหมัดเคราะห์ร้ายหย่อนลงไป จะมีเสียงดังฉู่ ฉี่ พร้อมกลิ่นหอม แต่ไม่มีหลักฐานว่ามีคนเคยกินหมัดทอดไปมั่งรึยัง แล้วก็เค้าบอกมาว่าคนที่มีหมัดในตัวเยอะที่สุดเป็นทหาเยอรมัน มีหมัดในตัว 18000 กว่าตัว ผมพิมพ์ไม่ผิดหรอกครับ แฮะๆๆเหลือเชื่อสุดๆ

ทหาร อินโดจีน (น่าจะเป็นเวียตนาม) ก็ถูกฝรั่งเศส เกณฑ์ ไปรบด้วยเหมือนกัน

  อันนี้คือ บาร์ ลอยน้ำของ ฝรั่งเศส อีกแล้วครับ

ไหนๆก็ตายกันทุกวันอยู่แล้ว เอาบาทหลวงมาเป็นทหารเลยดีกว่า เหอๆๆ

คนที่โดน แก็ซ มัสตาส เผา จะขึ้นเป็ฯตุ่มน้ำดำๆ แล้วก็แตกเป็นแบบนี้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

6 ส.ค. 54 เวลา 09:47 7,990 7 150
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...