มาดูความเก่งกาจของปรมาจารย์ผู้ก่อตั้ง คาราเต้สายเคียวคุชินกัน

Masutatsu Oyama (มาสุทาสุ โอยามะ ) 10 ดั้ง เรียกได้ว่า เป็น ปรมาจารย์ ผู้ก่อตั้ง คาราเต้สายเคียวคุชิน เลยทีเดียว อีกทั้งยังเป็น อาจารย์ของ เคนจิ คุโรซากิ 5 ดั้ง ที่มาโดน จรวดทัพฟ้า ของไทย สับศอก ใส่จนฟันโยกทั้งปาก นั่นแหละ โดย อาจารย์ โอยาม่า เกิดมาเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 1923 ในประเทศเกาหลี และเสียชีวิต ลงในวันที่ 26 เมษา 1994 รวมอายุได้ 71 ปี โดยได้รับสัญชาติญี่ปุ่น เมื่อปี 1964

อาจารย์ โอยาม่า ได้ก่อตั้งสำนักคาราเต้ ขึ้นในปี 1953 และได้เดินทางไปเผยแพร่คาราเต้ทั่วโลก รวมถึงการสังหารวัวด้วยมือเปล่าอันเป็นตำนาน ของวงการคาราเต้เลยทีเดียว หลังจากนั้นอีก 4 ปี ก็ ได้ สถาปนา คาราเต้สายเคียวคุชิน ขึ้นในญี่ปุ่น ในปี 1957 มาสุทาสุ โอยาม่า 10 ดั้ง ประสบความสำเร็จอย่างมากมายในการสร้างโรงฝึกคาราเต้ โดยได้ เผยแพร่ คาราเต้สายเคียวคุชิน ไปทั่วโลก ไม่ว่า จะเป็น อเมริกา อังกฤษ ฮอลแลนด์ ออสเตรเลีย และ บราซิล และได้จัดการแข่งขัน ที่มีชื่อว่า
" The All Japan Full Contact Karate Open Championships " ขึ้นทุกปี อันเป็นการประลองคาราเต้ โดยไม่กำหนดสายของวิชา อันที่เราได้ยินกันคุ้นหูในชื่อ คาราเต้ฟูลคอนแท๊ค นั่นเอง

ในบั้น ปลายของชีวิต อาจารย์โอยาม่า ได้ศึกษายูโด เพิ่มเติม จนได้เป็น ยูโดสายดำ 4 ดั้ง อีก 1 ตำแหน่ง ก่อนที่จะเสียชีวิต ไม่นาน อาจารย์โอยาม่า ก็ได้ก่อตั้ง Tokyo-based International Karate Organization,  โดยมีสาขา 120 ประเทศ มีสมาชิกมากกว่า 10 ล้านคนทั่วโลก

 

ประวัติ :


        "มาซึทัทสึ โอยาม่า เคียวคูชิน (Masutatsu (Mas) Oyama  Kyokushin) เกิดเมื่อวันที่ 27กรกฎาคม 1923  เริ่มเรียนศิลปะป้องกันตัว Chinese Kempo เมื่ออายุได้ 9 ขวบ  จนเมื่ออายุครบ15 ปี มาซึทัทสึ โอยาม่า (Oyama) เริ่มที่จะให้ความสนใจอย่างจริงจังกับศิลปะป้องกันตัวแ  จึงได้เรียนรู้วิชาชองยูโด และคาราเต้  และเมื่อได้เล่นคาราเต้เป็นครั้งแรกก็เกิดความหลงใหลขึ้นทันที  โดยที่โอยาม่าฝึกคาราเต้ภายใต้การสอนของ Gishin Funakoshi ผู้ก่อตั้งShotokan  ด้วยพรสวรรค์ที่มีมากับธรรมชาติ เพียงอายุแค่ 20 ปี ก็สามารถได้สายดำ 4th Dan  และอีกคนหนึ่งซึ่งมีอิทธิพลเป็นอย่างมากต่อโอยาม่า คือ Gogen Yamaguchi ผู้ก่อตั้งGoju-Kai   ที่ได้ถ่ายทอดความรู้ความสามารถต่างๆ ให้กับโอยาม่า 

 

 

และในปี1946 โอยาม่าได้ตัดสิดใจที่จะอุทิศตนใช้เวลาคนเดียวตามลำพังบนภูเขา  ทั้งยังพยายามที่จะพิสูจน์และทดสอบตัวเองให้ถึงจุดสูงสุดทั้งร่างกายและจิตใจ  มีเพียงคนเดียวที่สามารถพบตัวเขาได้ คือ คนที่ส่งอาหารให้เดือนละครั้ง 

     

 

หลังจากที่ใช้เวลากับธรรมชาติและความเงียบสงบ ในปีต่อมาเขากลับมาและเข้าร่วมการแข่งขัน และเขาก็สามารถคว้าแชมป์ในการแข่งขัน The 1st All Japan Karate Championship  ทำให้เขารู้สึกถึงอะไรบางอย่าง  จึงตัดสินใจที่จะกลับไปบนเขาอีกครั้งหนึ่งในปี 1948  โดยครั้งนี้ใช้เวลานานถึงหนึ่งปีกับแปดเดือน  ในขณะเดียวกันก็พิสูจน์ความแข็งแรงด้วยการสู้กับวัวกระทิงด้วยมือเปล่า  พร้อมทั้งหักเขากระทิงถึงสี่สิบเก้าตัวและฆ่าอีกสามตัว

 

 

  


ในปี 1952  อ.โอยาม่าได้เดินทางไปยังอเมริกาเปรียบเสมือนเป็นตัวแทนนักคาราเต้ ชาวญี่ปุ่นพร้อมทั้งสาธิตคาราเต้ทั่วประเทศอเมริกาทั้งหมดกว่า 270 ครั้ง  โดยในระหว่างการแสดงเขาทำให้ผู้ชมเหล่านั้นรู้สึกประหลาดใจกับความสามารถในการทำลายสิ่งต่างๆ ด้วยมือเปล่า  และเป็นที่รู้จักในนาม God Hand  อีกทั้งยังได้ทำการแสดงการต่อสู้กับนักมวย นักมวยปล้ำและอื่นๆ อีกมาก  ทำให้คาราเต้เป็นที่น่าสนใจอย่างมากในสายตาของคนอเมริกัน

แรกเริ่มเดิมทีนั้นก่อนที่จะมาเป็น Kyokushin ในปี1964   ก่อนหน้านั้นหนึ่งปี อ. โอยาม่าเรียกชื่อสำนักตัวเองว่า Oyama Karate และมีสำนักงาน Honbu Dojoในเขต Nishi Ikebukuro ของกรุงโตเกียว  ซึ่งปัจจุบันเป็นตึกอนุสรณ์ของ อ.โอยาม่า (Memorial Hall of Mas Oyama) จึงได้มีการสร้างโดโจแห่งใหม่ขึ้นและได้กลายเป็น World Headquarter of Kyokushin และทุกวันนี้สำนักคาราเต้ของโอยาม่าก็แพร่หลายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว

                      

Mas Oyama ได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 26 เมษายน 1994 ด้วยอายุ 70 ปี  นับเป็นการสูญเสียอันใหญ่หลวง และสร้างความสะเทือนใจอย่างมากให้แก่วงการคาราเต้  โดยเฉพาะลูกศิษย์และบุคคลที่เคารพในตัว อ.โอยาม่า  แต่อย่างไรก็ตาม Kyokushinkai ก็ยังต้องดำเนินสืบต่อไป "


http://karatedo.yolasite.com/my-blog/master-oyama-masutatsu-oct-19-2009-1-38-49-am-49

ชอบยาวๆตามไปอ่านต่อเอาเองครับ

http://www.dragon-press.com/content-บทที่1มูซาชิแห่งยุคโชวะ-4-5878-89186-1.html
 


กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...