10 สัตว์แวมไพร์กระหายเลือด

Haematophagy เป็นนิสัยของสัตว์บางชนิดที่ชอบกินหรือดูดเลือดเป็นอาหาร เนื่องจากเลือดเป็นของเหลวที่มีคุณค่าทางโภชนาการและมีโปรตีนที่ดี ซึ่งบนโลกดังกล่าวมีสิ่งมีชีวิตหลายชนิดที่มีพฤติกรรมดังกล่าว  จนหลายคนมัก นำพวกมันไปเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างภาพยนตร์สยองขวัญมาแล้ว และนี้คือ 10 สิ่งมีชีวิตที่ถูกเรียกว่า “แวมไพร์”

 

10. Flea

  

หมัด เป็นแมลงที่เกาะอาศัย และหากินกับสัตว์เลือดอุ่น เช่นสุนัข แมว หนู เป็นต้น หมัด จัดเป็นแมลงที่ไม่มีปีแต่สามารถเคลื่อนที่ได้รวดเร็ว เนื่องจากมีขาคู่หลังที่ใหญ่ และแข็งแรง เพื่อใช้ในการกระโดด ด้วยสาเหตุนี้ ทำให้หมัด สามารถแพร่กระจายได้ง่าย และรวดเร็ว นอกจากนี้ลำตัวของหมัด ยังมีลักษณะสอบแบนด้านข้าง เพื่อให้สามารถเคลื่อนตัวไปมา ระหว่างเส้นขน ได้อย่างรวดเร็ว อาหารของหมัด คือเลือดจากสิ่งมีชีวิตที่หมัดไปอยู่อาศัย หมัดส่วนมากจะพบอยู่บริเวณกลางหลัง และโคนหาง ของสัตว์ และเมื่อหมัดเมื่อโตตัวเต็มวัยจะวางไข่ในบริเวณขนของสัตว์ หรือ บริเวณที่สัตว์นอนอยู่ โดยวางไข่ครั้งละ 3-18 ฟอง ซึ่งตลอดช่วงอายุของตัวเมียจะวางไข่ได้หลายร้อยฟอง

 


                9. Bedbugs

 

เรือด เป็นแมลงมวนชนิดหนึ่ง ตัวเล็ก(ประมาณ 3-5 ซม.) รูปร่างรูปไข่ ตัวแบน ปล้อง ปากเป็นแบบเจาะ-ดูด มีลักษณะโค้งงอและสามารถพับเก็บภายในร่องด้านหน้าส่วน หัวได้ ขาของเรือดเป็นแบบขาเกี่ยว เรือดเป็นแมลงที่อาศัยตามร่องเพดานหรือรอยแตกของพื้นบ้าน เตียงไม้ และซอกตะเข็บของที่นอน เรือดเป็นแมลงที่แพร่กระจายได้รวดเร็ว แพร่จากบ้านหนึ่งไปยังอีกบ้านหนึ่งโดยไต่ไปตามฝาผนัง ท่อน้ำ การระบาดของเรือดมักพบที่บริเวณที่อยู่อาศัยที่ขาดการดูแลและเอาใจใส่เรื่อง ของความสะอาดของเครื่องนอน รวมไปถึงอาคารที่สาธารณะต่างๆ เช่นโรงภาพยนตร์ โรงแรม โรงเรียน ในพื้นที่สกปรก เรือดเป็นปรสิตที่ไม่ได้อยู่กับ host แต่จะกัดhost เมื่อรู้สึกหิว โดยดูดกินเลือดสัตว์และคนเป็นอาหารโดยมักออกมาดูดเลือดในเวลากลางคืน โดยผู้ถูกกินเลือดจะรู้สึกเจ็บในบริเวณที่ถูกดัดโดยมองไม่เห็นโดนเรือดแต่จะ ทิ้งรอยผื่นแดงเอาไว้  


8. Vampire moths

  

Calyptra เป็นสกุลผีเสื้อกลางคืนพบมากที่ประเทศมาเลเซียในเทือกเขายูแร็ล สและภาคใต้ของยุโรป  โดยส่วนใหญ่หลายคนรู้จักในชื่อสามัญว่าผีเสื้อแวมไพร์ เนื่องจากมันมีงวงที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษในการที่สามารถเจาะผิวหนังของสัตว์ เลี้ยงลูกด้วยนมหรือแม้แต่ผิวหนังของมนุษย์ได้   แต่อย่างไรผีเสื้อดังกล่าว ไม่มีอันตรายต่อมนุษย์แต่อย่างใด เพื่อดื่มเลือดของสัตว์ และจากการศึกษาก็ พบเรื่องประหลาดใจเนื่องจากผีเสื้อชนิดดังกล่าวที่ดูดเลือดมนุษย์จะเป็นเพศ ผู้เท่านั้นโดยมีวัตถุประสงค์กินเลือดเป็นอาหาร(ส่วนผีเสื้อกลางคืนตัวเมีย ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการพักผ่อนและรอคอยการจับคู่ผสมพันธุ์มากกว่า) แตกต่างจากยุงที่มีเฉพาะตัวเมียเท่านั้นที่กินเลือดมนุษย์เพื่อใช้ในการวาง ไข่


7. Leeches

  

               ปลิง และทากดูดเลือด เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ลักษณะลำตัวเป็นข้อปล้องและยืดหยุ่น ชอบอยู่ในน้ำนิ่งตามหนอง(สำหรับปลิง) และอยู่ตามพื้นที่ชื้นแฉะเช่นบริเวณป่าดงดิบเขตร้อน(สำหรับทากดูดเลือด) ดำรงชีพโดยการดูดเลือดจากสัตว์สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม, สัตว์เลื้อยคลาน ปลาบางชนิดเป็นอาหาร รวมไปถึงมนุษย์ และเนื่องจากไม่มีดวงตาจึงอาศัยการจับแรงสั่นสะเทือนจากการเคลื่อนไหวของ เหยื่อด้วยแรงสั่นสะเทือนในน้ำ(สำหรับปลิง) และสำหรบทากดูดเลือดมันจะคอยชูตัวอยู่ตามพื้นดินหรือไต่ขึ้นไปบนกิ่งไม้ มีสัมผัสที่ไวต่อกลิ่นและอุณหภูมิ เมื่อเหยื่อเข้าใกล้มันจะใช้อวัยวะที่เรียกว่าแว่นดูดเกาะเข้ากับตัวเหยื่อ ซึ่งอวัยวะนี้มีทั้งด้านหน้าและด้านท้าย โดยมันจะใช้แว่นท้ายในการยึดเกาะเมื่อมันสามารถเกาะผิวเนื้อของเหยื่อแล้ว มันจะค่อยๆ ไต่อย่างแผ่วเบาเพื่อหาที่ซ่อนตัว (ในช่วงนี้ใช้เวลาประมาณ 80-90 วินาที ที่เราจะปัดหรือดึงปลิงออกโดยไม่ต้องเสียเลือด) หลังจากนั้นมันจะใช้แว่นหน้าลงบนผิวเนื้อของเหยื่อเพื่อดูดเลือด โดยปลิงจะปล่อยสารชนิดหนึ่งคล้ายกับยาชาและเวลาที่ปลิงดูดเลือดมันจะปล่อย สารออกมา 2 ชนิด ซึ่งได้แก่ สารฮีสตามีนช่วยกระตุ้นให้หลอดเลือดขยายตัว และสารฮีรูดีนมีคุณสมบัติต้านทานการแข็งตัวของเลือด (ด้วยเหตุนี้เลือดของเหยื่อจะไหลไม่หยุด) เมื่อปลิงหรือทากดูดเลือดอิ่มจนมีลักษณะตัวอ้วนบวมแล้ว มันจะปล่อยตัวร่วงลงสู่พื้นดินเอง สำหรับปลงในวงการแพทย์สมัยโบราณมีการนำปลิงมาดูดพิษหรือเลือดเสียออกจากร่าง กาย ในปัจจุบันแพทย์นำคุณสมบัติของปลิงมาทำให้เส้นเลือดในร่างกายไม่อุดตัน โดยเฉพาะเส้นเลือดหัวใจหรือนำมาช่วยให้เลือดในร่างกายหมุนเวียนได้ดีขึ้น

 

6. Vampire Bats

  

ค้างคาวดูดเลือด ค้างคาวดูดเลือด เป็นค้างคาวชนิดหนึ่งมีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ (ตั้งแต่เม็กซิโกไปจนถึงบราซิล ชิลีและอาร์เจนตินา) มักอาศัยอยู่ตามเพิงหินหรือตามโพรงไม้ ชอบอยู่รวมกัน เป็นฝูง นอกจากมีพฤติกรรมชอบดูดเลือดสัตว์ชนิดอื่นเป็นอาหารหลังจากพระอาทิตย์ตกดิน แล้วโดยค้างคาวดังกล่าวมีฟันหน้าที่คมกริบเพื่อใช้กรีดผิวหนังเหยื่อ โดยเวลาเจอเหยื่อค้างคาวจะบินเข้าไปใกล้เหยื่อและจะเกาะบนพื้นก่อนที่จะ ค่อยๆ คลานเข้าไปหาเหยื่อ และจะทำให้เกาะเหยื่อได้โดยที่เหยื่อไม่รู้สึกตัว(ส่วนมากจะเลือกเหยื่อที่ นอนหลับ) และใช้ฟันหน้าที่คมกรีดผิวหนังเหยื่อบริเวณที่ไม่มีขน พร้อมทั้งปล่อยสารกันเลือดแข็ง ทำให้เลือด แข็งตัวช้า แล้วจึงค่อยๆ เลียกินเลือดที่ไหลออกมาจนอิ่ม จนมีลำตัวกลมป้อม หรือได้จนกว่ามันจะพอใจก่อนที่จะจากไป เหยื่อของค้างคาวดูดเลือดส่วนมากเป็นสัตว์เลี้ยง เช่น วัว ควาย แพะ ม้า หมู หรือแม้กระทั่งคน เหยื่อที่ถูกค้างคาวกัดและกินเลือด จะไม่ได้รับอันตรายถึงตายแต่อย่างใด แต่รอยแผลที่เกิดจากค้างคาวกัด อาจมีเชื้อโรคหรือจะมีแมลงเข้าไปไข่ไว้ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายหากไม่ป้องกัน ไว้ก่อนจากพฤติกรรมของค้างคาวดูดเลือดนี้เอง ที่ส่งผลให้มีผู้เขียนนวนิยายนำมาดัดแปลงเป็น แวมไพร์ผีดูดเลือด ในเวลาต่อมา ซึ่งความจริงแล้วค้างคาวดึงกล่าวไม่ได้ดูดเลือดแต่มันเลียเลือดจากแผลต่าง หาก

ดูคลิปที่ http://www.youtube.com/watch?v=9Va9ull44yw

 

                 5. Lampreys

                   

                แลมป์เพรย์ เป็นปลาปรสิตชนิดหนึ่ง(และบางชนิดก็ไม่ ปรสิต)และเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังที่เก่าแก่อีกชนิดของโลกที่มีชีวิตจากโลก ล้านที่ครั้งนั้นปกครองโดยหอบและแมลงมาแล้ว) อาศัยมีทั้งในน้ำจืดและน้ำทะเลและมีกระจายอยู่ทั่วโลก คือ อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ยุโรป แอฟริกาตะวันตก ญี่ปุ่น ชิลี นิวซีแลนด์ และ ทาสเมเนียลำตัวยาวลักษณะคล้ายปลาไหล ลำตัวด้านหลังมักจะเป็นสีดำ มีครีบหลังและครีบหาง แต่ไม่มีครีบคู่ ไม่มีเกล็ด ปากจะอยู่ค่อนลงมาทางด้านท้อง มีลักษณะคล้ายแว่นใช้สำหรับดูดที่มีฟันเล็กๆ มากมาย โดยปลาชนิดนี้มีพฤติกรรมกินอาหารโดยใช้ปากและฟันการเจาะเข้าไปในเนื้อแล้ว กินเลือดปลาตัวอื่น(บางชนิดก็ไม่กินเนื้อหรือเลือดปลาตัวอื่น) คือเมื่อมันพบเจอเหยื่อมันจะใช้ปากเกาะเหยื่อและใช้ฟันและลิ้นครูดเอาเนื้อ ออก และให้เลือดของเหยื่อไหลผ่านได้สะดวก นอกจากนี้มันยังสามารถที่จะสร้างสารป้องกันการตกตะกอนของเลือดส่งไปที่ปาก แผล ทำให้เลือดเหยื่อไหลเรื่อยโดยไม่หยุด เมื่อดูดเลือดของเหยื่อจนตัวเหยื่อแห้งก็จะปล่อยแล้วหาเหยื่อใหม่


4. Torpedo snails

   

บางทีอันดับดังกล่าวอาจไม่ใช่สัตว์แวมไพร์ Cancellaria cooperi เป็นสปีชีส์ของหอยทากทะเล หรือเรียกสั้นๆ  ว่าหอยตอร์ปิโต เป็นหอยที่พบเห็นในทิศตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก โดยกินเลือดสัตว์ทะเลเป็นอาหาร โดยมันมีความสามารถพิเศษคือปล่อยกระแสไฟฟ้าคล้ายกับกรณีของปลากระเบน มันสามารถปล่อยไฟฟ้าได้ถึง 220 โวลต์ทำให้เหยื่อที่เป็นปลาเป็นอัมพาตอย่างง่ายดาย และหลังจากนั้นมันจะใช้ หลอดที่บากมันสูบฉีดเลือดเหยื่อเพื่อเป็นอาหารสำหรับมันต่อไป



3. Candiru

  

ปลาแคนดิรูดหรือปลาดุกเลือดเป็นปลาชนิดหนึ่งที่มีขนาด เล็กมากและโปร่งใส คือยาวประมาณ 1-2.5 นิ้ว มีถิ่นอาศัยอยู่ในบริเวณลุ่มน้ำอเมซอนและแม่น้ำ Orinoco ทวีปอเมริกาใต้ พวกมันไม่ชอบแสงแดดและมักจะฝังตัวอยู่กับโคลนหรือทราย บริเวณท้องแม่น้ำใต้ขอนไม้หรือใต้หิน และชาวพื้นเมืองในบริเวณแถบนั้นกลัว ปลาชนิดนี้มากเนื่องจากเป็นเป็นปลาปรสิตที่กระหายเลือดปลา สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมรวมถึงมนุษย์ด้วย โดยพฤติกรรมส่วนใหญ่ของมันจะหาปลาที่จะเป็นเจ้าบ้าน(ส่วนมันเป็นปรสิต) โดยการว่ายตามหากระแสน้ำที่ผ่านเหงือกปลา เมื่อเจอแล้วมันจะแทรกตัวเข้าไปในแผ่นปิดเหงือก หลังจากนั้นมันจะใช้เงี่ยงรอบๆ หัวของมันเกาะยึดกับปลาและใช้ปากดูดเลือดเพื่อเป็นอาหาร และหากเป็นมนุษย์ มันจะโจมตีมนุษย์เมื่อลงไปปัสสาวะในน้ำ เจ้าปลาชนิดนี้เมื่อรับรู้ถึงกระแสน้ำที่มีปัสสาวะปนมาด้วย มันจึงว่ายตามหาที่มาของกระแสน้ำนั้น เมื่อมันว่ายมาเจอรูทวารมันจะมุดเข้าไปในทางเดินปัสสาวะพร้อมกับฝังตัวและ ดูดเลือดและเนื้อเยื่อเป็นอาหาร จนลำตัวมีขนาดใหญ่ขึ้น เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่เคยผ่านเหตุการณ์เหล่านี้มาก่อน ต่างกล่าวว่ามันเป็นความเจ็บปวดที่แสนจะทุกข์ทรมานและเป็นการยากมากที่จะเอา ปลาชนิดนี้ออกจากร่างกายของคนครั้งหนึ่ง เมื่อนักวิทยาศาสตร์จับเจ้าปลาแคนดิรูดได้ แต่มันดันเข้าไปในบาดแผลเปิดที่มือของเขา มันเคลื่อนที่อยู่ใต้ผิวหนังเพื่อว่ายไปหาเส้นเลือดดำ!!

 

2. Finches Vampire

  

ณ หมู่เกาะกาลาปากอสมีชื่อเสียงความหลากหลายชีวพันธ์ ณ ที่แห่งนี้มีสัตว์ต่างๆ มากมายที่แปลกประหลาดที่หลายคนไม่รู้จักมาก่อนและมีอยู่ใน ณ ที่แห่งนี้อย่างเดียว และสัตว์หลายชีวิตที่พยายามปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมเหล่านั้น และ “นกกระจิบแวมไพร์” ก็คือหนึ่งในสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น มันเป็นนกขนาดเล็กสีดำ(ตัวเมียสีเทาปนน้ำตาลหน่อย)มีงอยปากแหลมและใหญ่ โดยชื่อแวมไพร์นั้นมาจากการพฤติกรรมแปลกๆ ของมัน โดยอาหารของมันคือเลือดสดๆ นกขนาดใหญ่บนเกาะ(นก Nazca Booby และ นก Blue-footed Booby)โดยมันจะจอยปากที่คมจิกที่ผิวของนกเหล่านั้นแล้วก็ลิ้มรสเลือดอุ่นๆ จากแผลของนกดังกล่าวอย่างเอร็ดอร่อย และที่น่าแปลกคือนกที่ถูกจิกเหล่านั้นไม่ได้ต่อต้านอะไรเลยจากการกระทำของนก กระจิบแวมไพร์ (อาจเป็นเพราะนกดังกล่าวไม่สนใจหรือไม่รู้สึกเจ็บ) ส่วนสาเหตุที่มันมีพฤติกรรมเหล่านี้ก็มีหลายสาเหตุ แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นการเอาตัวรอดของนกกระจิบเนื่องจากอาหารบนเกาะเริ่มลด น้อยลง

 


1.Flies

  

Diptera หรือ Fly เป็นสกุลแมลงที่บินได้หลากหลายสายพันธุ์ โดยแมลงที่ดูดเลือดเราที่รู้จักกันดีนั้นก็คือยุง ยุง เป็นแมลงที่พบได้ทั่วโลกแต่พบมากในเขตร้อนและเขตอบอุ่น โดยปกติ ตัวเมียมักจะกินเลือดเป็นอาหาร ส่วนตัวผู้มักจะกินน้ำหวานในดอกไม้ ยุงยังเป็นแมลงที่เป็นพาหะแพร่เชื้อโรคอีกด้วย เช่น โรคมาเลเรีย , ไข้เลือดออก , เวสต์ไนล์ไวรัส , สีเหลืองไข้ , ไข้สมองอักเสบ ยุงทั่วโลกมีอยู่ประมาณ 3,450 ชนิด

นอกจากนี้ตัวเหลือบยังเป็นสกุลแมลงวันก็เป็นแมลงอีกชนิดที่ดูดเลือด มนุษย์เพื่อเป็นอาหารที่น่ากลัวพอๆ กับยุง โดยเหลือบนั้นมีรูปร่างคล้ายแมลงวัน แต่ตัวโตกว่าและบินเสียงดังกล่าว พบทั่วไปทั่วโ,ก(ยกเว้นขั้วโลกเหนือและใต้) มีปีกคู่เดียวซึ่งมักใส มีหลายสีแล้วแต่ชนิด เช่น นํ้าตาล  นํ้าเงิน โดยมีเพียงตัวเมียเท่านั้นที่จะดูดเลือดมนุษย์และสัตว์(เกือบทุกชนิด) โดยมันมีปากเป็นแผ่นคมคล้ายใบมีดเพื่อตัดเนื้อให้ขาด และมันมีอวัยวะเป็นท่อดูดของเหลวกิน โดยมันเป็นพาหรนะนำโรคพอๆ กับยุง และสัตว์หลายชนิดสูญเสียเลือดจากการการถูกเหลือบดูดกินเลือด สัตว์บางชนิดมีรายงานว่าสูญเสียเลือดถึง 300 มิลลิลิตรในการถูกเหลือบฝูงใหญ่โจมตี

เครดิต:CAMMY 

เนื้อหาจัดอันดับโดยบทความ Top 10 Vampiric Creatures

http://www.toptenz.net/top-10-vampiric-creatures.php

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก

http://www.scitour.most.go.th/index.php?option=com_content&task=view&id=519&Itemid=1

http://www.kapank.com/pets/contents/fish/vampirefish_candiru/vampirefish_candiru.html

http://www.ppmnorth.com/index.php?lay=show&ac=article&Ntype=2&Id=538614525

http://brightlives.th.88db.com/pets/pets_flea.htm

วิกิพีเดียไทย-อังกฤษ

14 พ.ค. 54 เวลา 11:32 4,873 9 120
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...