7 สุดยอดการ์ตูนที่ถูกแบน

การ์ตูนอนิเมชั่นบางครั้งก็ ไม่ใช่สื่ออิสรเสรีอย่างที่คิด เพราะว่าบางครั้งผู้ทำต้องคำนึงถึงสิ่งที่จะใส่ไปว่ามันมีผลกระทบต่อผู้ชม หรือไม่ แม้ภาพออกมานั้นไม่โหดร้ายทารุณเลือดสาด แต่สิ่งที่นำเสนอนั้นบางครั้งอาจส่งผลจิตใจต่อเด็กและสตรีมีครรภ์ได้(ในบาง ครั้ง) และวันนี้เราขอนำเสนอการ์ตูนต้องห้ามที่ถูกแบน มาดูกันว่าเป็นเพราะอะไร

อันดับ 7 Popeye The Sailorman – Spinach Fer’ Britain: จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อยอดกะลาสีเรือ ป๊อปอาย ระหว่างเดินทางนั้นเขาเกิดไปพบทหารนาซีเข้า....และพบกับเพลงประจำตัวของป๊อป อายที่ยังคงคลาสสิกจนถึงปัจจุบัน ...ป๊อปอายเป็นตัวละครการ์ตูนวีรบุรุษสมมุติปรากฏในสื่อต่างๆ มาช้านานตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 1919  วาดโดย EC Segar(แน่นอนภายหลัง เปลี่ยนคนวาด) เรื่องราวแรกๆ ของป๊อปอายคือเป็นกะลาสีเรือที่ต้องท่องไปรอบโลกและหลายสถานที่ และเขามักพบเจอศัตรูต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ทะเล โจรสลัด หรือแม้แต่ทหารนาซี ในช่วงสงครามโลกป๊อปอายก็เคยเป็นทหารเรือในการต่อสู้กับจักรวรรดิญี่ปุ่น ด้วย ส่วนคลิปที่เอามาให้ดูนั้นไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นของปีใด(แต่ถ้าให้ผมเดา น่าจะเป็นช่วงสงครามโลก เนื่องจากช่วงเวลานั้นการ์ตูนอเมริกาส่วนใหญ่มักมีเนื้อหาแนวต่อสู้นาซี, จักรวรรดิญี่ปุ่นเพื่อปลุกใจเด็กอเมริกัน)


อันดับ 6 Donald Duck – The Spirit Of ‘43: โรนัลด์ ดั๊กได้ตระหนักถึงสงครามที่มีผลกระทบต่อเงินในกระเป๋าของตน...... “The Spirit Of ‘43”นั้นเป็น ภาพยนตร์ที่ฉายในสงครามโลก ที่เป็นโฆษณาชวนเชื่อ สร้างโดยวอลท์ดีสนีย์สตูดิโอปี 1943 ยาวประมาณ 5:48 นาที ที่ตัวเอกเป็นโรนัลด์ ดั๊ก โดยวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ชาวอเมริกันรักชาติและจ่ายภาษีให้รัฐทุก 3 เดือนเพื่อช่วยสนับสนุนสงคราม และโรนัลด์ ดั๊ก เป็นไม่กี่ตัวละครในกลุ่มเพื่อนมิกกี้เมาส์ที่อยู่ในเหตุการณ์สงครามโลก และมีหลายตอนที่มีเนื้อหาโฆษณาชวนเชื่อในสงครามโลกหากแต่ถูกแบนออกเนื่อง ด้วยไม่ใช้ของดีสนีย์ ส่วนเนื้อหาอมิเนชั่นการ์ตูนเรื่องนี้ก็ตรงตัวอยู่แล้วเมื่อโรนัลด์ ดั๊กได้รับเงินรายสัปดาห์ของเขาเป็นจำนวนมาก และแล้วเขากะพบอาการทางจิตใจของตน เมื่อมีเป็ด(คาดว่าจะเป็นลุงของเขา)ที่สำเนียงสก็อตและแต่งชุดชาวสก็อตประจำ ชาติ มาเรียกร้องให้เขาประหยัดเงิน ไม่ให้สุรุ่ยสุร่าย และให้จ่ายภาษีเพื่อช่วยเหลืออเมริกันในช่วงสงครามโลก

อันดับ 5 The Flintstones - Smoke Winstons: ยัป ปาดั่บป่ะดู้ .... เมื่อมนุษย์หินฟลิ้นท์สโตนสองคน ที่เราคุ้นเคยกันดี นั่งพักจากการหายเหนื่อยด้วยการสูบบุหรี่ยี่ห้อสายฝน…..เอ้ย Winstonต่างหาก ....โดนเต็มๆ ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาแฝง, ตัวละครสูบบุหรี่ และมนุษย์หินฟลิ้นท์สโตนก็เป็นอีกหนึ่งในการ์ตูนที่มีอิทธิพลต่อ สังคมอเมริกาอีกเรื่องหนึ่งซะด้วยสิ……บุหรี่ที่มนุษย์หินทั้งสอง กำลังสูบนั้นมีชื่อว่า Winston เปิดตัวในปี 2497 และเป็นหนึ่งในบุหรี่ชนิดก้นกรองแรกๆ ของโลก ปัจจุบันเป็นบุหรี่ที่ขายดีเป็นอันดับ 2 ของโลก Winston มีจำหน่ายในกว่า 80 ประเทศทั่วโลก ในสมัยก่อนนั้นการโฆษณาบุหรี่มีความเข้มข้นมาก โดยบริษัทบุหรี่ถึงขั้นให้บุหรี่ยี่ห้อของตนปรากฏหนังในฮอลลีวู้ดเลยทีเดียว โดยมีสัญญาลับว่า “ให้ภาพยนตร์บางเรื่องมีการใช้บุหรี่ของตนประกอบฉาก และเจาะจงให้นักแสดงบางคนสูบบุหรี่ในฉาก” และยี่ห้อ Winston  ก็มีดาราชูโรงอย่าง จอห์น เลนนอนเป็นตัวเรียกคะแนนความนิยม ปัจจุบันมีการร้องให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ยุติการส่งเสริมให้มีภาพการสูบ บุหรี่ของตัวแสดงรวมถึงภาพของผลิตภัณฑ์ที่มีเครื่องหมายยี่ห้อบุหรี่ใน ภาพยนตร์

 อันดับ 4 Donald Duck – Der Fuehrer’s Face: เมื่อโรนัลด์ดั๊กต้องฝันร้ายจากการไปสมัครเป็นทหารนาซี แถมยังบูชาฮิตเลอร์, เบนิโต มุสโสลินี และสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตด้วย(..... Der Fuehrer’s Face เป็นอนิเมชั่นที่สร้างในปี 1943 ยาวประมาณ 7 :56 นาทีจากวอลท์ดีสนีย์สตูดิโอ กำกับโดย Jack Kinney ฉายในวันที่ 1 มกราคม เป็นโฆษณาชวนเชื่อเพื่อแสดงให้เห็นว่านาซีเป็นพวกล้างสมองและงี่เง่า การ์ตูนเรื่องนี้ได้รับรางวัล Academy Award for Animated Short Film และได้รางวัลออสการ์ในปี 1994 และถูกรับเลือกเป็น 50 การ์ตูนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด(อันดับ 22 )จากภาพเราได้เห็นทหารของพวกอักษะที่รูปร่างไม่สมส่วนเสียเลย บางคนตูดใหญ่, บางคนผอมอย่างกับก้างเสียบผี, บางคนฟันเหยิน, บางคนอ้วนลงพุง ที่เป็นขบวนดนตรีดุริยางค์ที่ร้องเพลง จากนั้นเขาก็ไปทำงานในโรงงานผลิตอาวุธในนาซีปรากฏว่างานที่นั้นหนักมาก(และ บางฉากมีการโฆษณาชวนเชื้อเกี่ยวกับเชื้อชาติอารยันด้วย) การ์ตูนนี้จบลงด้วยโรนัลด์ ดั๊กตื่นขึ้นและพบว่ามันเป็นเพียงแค่ฝันร้าย เขาเป็นชาวอเมริกันต่างหาก “ผมรักอเมริกันครับ” และฉากสุดท้ายคือฉากฮิตเลอร์เปื้อนหน้ามะเขือเทศ

อันดับ 3 Bugs Bunny – Herr Meets Hare: เมื่อ บักส์ บันนีปลอมตัวเป็นฮิตเลอร์ด่านายพรานเยอรมันที่ตามล่าเขา.........โครตฮ่าเลย จำได้สมัยก่อนผมได้ดูอนิเมชั่นตอนนี้พอดี ตอนบักส์ บันนีปลอมเป็นฮิตเลอร์ฮ่ามาก Herr Meets Hare เป็นอนิเมชั่นใน 13 มกราคม ปี 1945 ที่ฉายไม่กี่เดือนก่อนการล่มสลายนาซี เป็นหนึ่งในการ์ตูนที่มีเนื้อหาสงครามที่ยิ่งใหญ่ของ Warner Brothers ยาว 7 นาที 15 วินาที ตัวการ์ตูนเปิดตัวด้วยเสียงปลายสายของเยอรมันและนายพรานที่อ้วนฉุ พร้อมสุนัขพันธุ์ไส้กรอกกำลังล่ากระต่ายที่ป่า และแล้วเขาก็ได้เจอบักส์ บันนีที่โผล่จากหลุม ก่อนที่จะมหกรรมแมวจับหนูจะเริ่มขึ้น แต่ฉากที่หลายคนติดใจมากที่สุดคือบักส์ บันนีแต่งตัวเป็นผู้นำเยอรมัน “ฮิตเลอร์” และแสดงท่าทางล้อเลียน ตลก เมื่อนายพรานเห็นเขาก็กลับไปเปลี่ยนชุดใหม่เป็นทหารที่เต็มไปด้วยเหรียญตา และยศทหารนาซีสูง แต่ฮิตเลอร์(ในคราบบักส์ บันนี)ด่าเขาและนายพรานก็กอดเขาแบบรักใคร่ก่อนที่นายพรานคนนั้นจะหายโง่ใน ที่สุด  ซึ่งส่วนใหญ่เวลามีเรื่องมีราวบักส์ บันนีจะกลายผู้ชนะเสมอ (โดยปกติ ผู้ชนะมักจะเป็นฝ่ายที่ก้าวร้าวกว่า)  และ บักส์ บันนีถือว่าเป็นการ์ตูนที่มีอิทธิพลต่อสังคมอเมริกาในเวลานั้นยิ่งในช่วงสง ครามโลกบักส์ บันนีออกมาเยอะมาก อนิเมชั่นตอนนี้ถูกเซ็นเซอร์ออก ในปี 2001 ก่อนที่จะปรากฏอีกครั้งในปี 2007

อันดับ 2 Bugs Bunny – Tokyo Jokio: การ์ตูนลูนี่ตูนส์ที่นำเสนอความ ติ๊งต๊องของจักรวรรดิญี่ปุ่นอีกหนึ่งในอนิเมชั่นโฆษณาชวนเชื่อที่ฉายในปี 1943 โฆษณาชวนเชื่อ (Propaganda) มีความหมายว่า เผยแพร่อุดมการณ์หรือความคิดเห็น ด้วยกลอุบายต่าง ๆ เช่นนำเสนอฝ่ายเราให้ดูดี ส่วนฝ่ายศัตรูภาพลักษ์แย่ เพื่อโน้มน้าวจิตใจผู้อื่นให้เห็นคล้อยตาม ในสงครามโลกครั้งที่ 2 การโฆษณาชวนเชื่อ ถือว่ามีอิทธิพลอย่างมากในการควบคุมจิตของผู้ฟัง,ผู้ดูในการสร้างความรู้สึกซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินเกิด จวบจนกระทั่งใช้ในผลประโยชน์ทางการเมือง ที่ต้องโน้มน้าวประชาชนพลเรือนนอกเหนือจากทหารให้เข้ามามีส่วนร่วมและสนับ สนุนการเข้าทำสงครามของประเทศตน อย่างที่เห็นในภาพภาพลักษณ์ของทหารจักรวรรดิญี่ปุ่นออกมาดูแย่มากๆ ตาตี๋ ใส่แว่นหนา ฟันเหยิน หน้าตาอัปลักษณ์ โง่อย่างรุนแรง และทำสงครามได้ห่วยแตกมาก

อันดับ 1 Walt Disney – Hitler’s Children: เด็กของฮิตเลอร์หรือมีชี่ออีก อย่างว่า Education for Death  เป็นอนิเมชั่นสั้นผลิต โดยดีสนีย์ออกฉายในปี 1943 กำกับโดย Clyde Geronimi  ยาว 10 นาทีไม่ขาดไม่เกิน เนื้อหาเกี่ยวกับเด็กที่เติบโตมาเพื่อเป็นทหารนาซีเยอรมัน  ซึ่ง ใช้หลักสายเลือดอารยันในการคัดเลือกเด็กแต่ภาพปรากฏออกมานั้นค่องข้างขบขัน มากกว่าจะจริงๆ จัง ไม่ว่าจะเป็นฉากการสอนในห้องเรียน ที่เด็กไม่มีตอบคำถามอาจารย์ไม่ได้ผลคืออาจารย์(ที่คาดสายนาซี)โกรธมากและลง โทษให้สวมหมวกคนโง่ ส่วนเด็กที่พูดสนุบสนุนแนวคิดฮิตเลอร์นั้นได้คำชมแทน ฮิตเลอร์ปรากฏตัวเป็นอัศวินผู้กล้าที่งี่เง่าและขี้บ่น ที่น่าสังเกตคือเสียงพากษ์ในอนิเมชั่นเบามาก ส่วนเสียงประกอบนั้นดัง  ก่อนที่ฉากสุดท้ายจะเป็นฉากหลุมฝังศพของเหล่าทหารนาซี

 

เนื้อหาจากเว็บ

http://engforum.pravda.ru/showthread.php?283186-Top-8-Banned-Classic-Cartoons

16 ก.ค. 53 เวลา 22:10 7,414 4 128
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...