ที่มา...ป่อเต็กตึ๊ง

ที่มา...ป่อเต็กตึ๊ง



เจ้าสัวอุเทน เตชะไพบูลย์ เริ่มทำงานสาธารณกุศลเมื่ออายุ 24 ปี เป็นผู้บุกเบิกมูลนิธิฮั่วเคี้ยวป่อเต็กเซี่ยงตึ๊ง หรือมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เมื่อปี 2480 

"ป่อเต็กตึ๊ง" หมายถึง "สนองพระคุณ"

ในหนังสือ "อุเทน เตชะไพบูลย์ เจ้าสัว ผู้ปลูกกุศลไว้ในแผ่นดิน" บอกเล่าความเป็นมาโดยย่อของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ว่า แต่เดิมเป็นเพียงคณะเก็บศพไต้ฮงกง พ่อค้าชาวจีน 12 คน ร่วมกันจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2452 ในปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 



คอยเก็บศพไร้ญาติทุกชาติภาษา ราวปีละ 2,000 ศพ นำไปฝังป่าช้าจีน หรือ "งี่ซัวเต๊ง" ย่านวัดดอน 

การเก็บศพของคณะนี้ ดำเนินตามแบบอย่างของ ไต้ฮงโจวซือ หรือไต้ฮงกง พระภิกษุจีนสมัยราชวงศ์ซ่ง 

ไต้ฮงโจวซือ เป็นพระภิกษุนักสังคมสงเคราะห์ และพระนักพัฒนา คอยช่วยเหลือคนยากจน ผู้ประสบภัยพิบัติ ด้วยการแจกทาน ยารักษาโรค เก็บศพไร้ญาติไปฝังพร้อมประกอบพิธีส่งวิญญาณ

ชาวจีนตอนใต้ทุกยุคทุกสมัยเลื่อมใสศรัทธาไต้ฮงกงมานับพันปี พร้อมใจกันสร้างศาลป่อเต็กตึ๊ง เป็นอนุสรณ์รำลึกถึงพระคุณท่านถึง 237 แห่งในประเทศจีน และอีก 40 แห่งในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

เมื่อร้อยปีก่อน นายเบ๊ยุ่น ชาวจีนแต้จิ๋วอัญเชิญรูปเคารพของท่านมาจากอำเภอเตี้ยเอี้ยมายังกรุงเทพฯ ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่ศาลป่อเต็กตึ๊ง ถนนพลับพลาไชย 

คณะเก็บศพไต้ฮงกงเป็นที่รู้จักดีของชาวกรุงสมัยนั้นว่า "ป๋องแป๋ง" หรือที่พระยาอนุมานราชธน เรียกว่า "เจ๊กต๋องแต๋ง" ตามเสียงสัญญาณที่จีนลากรถเก็บศพเคาะมาตลอดทาง



30 ปีแรก คณะเก็บศพไต้ฮงกงเป็นกิจการขนาดเล็กดำรงอยู่ได้ด้วยเงินบริจาค แต่ก็แทบไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย กระทั่งปี 2480 กลุ่มนักธุรกิจนำโดย เยกวงเอี่ยม แต้จือปิง (บิดาอุเทน) ตันเกงชวน เข้าร่วมกับสมาคมจีนและหนังสือพิมพ์จีน ปฏิรูปคณะเก็บศพไต้ฮงกง 

ด้วยจิตที่เป็นกุศลอยู่แล้ว อุเทน เตชะไพบูลย์ ในวัยหนุ่มอาสาเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ ทำเรื่องขออนุญาตจัดตั้ง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เป็นผลสำเร็จเมื่อ 21 ม.ค.2480 ด้วยทุนจดทะเบียน 2,000 บาท 



เยกวงเอี่ยม เป็นประธานกรรมการคนแรก อุเทนเป็นรองประธาน 

อีกสองปีต่อมา เยกวงเอี่ยมซึ่งเป็นแกนนำต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่นต่อประเทศจีน ถูกลอบยิงหน้าโรงงิ้วฮั้งจิว ถนนเยาวราช อุเทนในวัยเบญจเพสต้องเข้าแบกรับภาระแทน 

"ตอนนั้นผมอายุเพียง 25 ปี ก็หนักใจอยู่มากที่ต้องรับตำแหน่งประธานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กรรมการเขาอาวุโสกว่าผมทุกคน แต่เมื่อตั้งใจไว้แล้วว่าจะทุ่มเทชีวิตเพื่อการกุศล ผมก็เตรียมพร้อม ผมไม่กลัว!"

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งถือกำเนิดและเติบโตขึ้น โดยที่อุเทนเองก็ไม่คิดว่า จะผูกโยงกับชีวิตของตัวเองอย่างแยกไม่ออก 

ขณะที่ด้านธุรกิจ อุเทนก็ยืนอยู่บนหลักความพอเพียง ไม่ยึดติดในสมบัติพัสถาน ลาภ ยศ สรรเสริญ

อุเทน เตชะไพูบูลย์ ให้คำนิยามเกี่ยวกับความร่ำรวยในเชิงปรัชญาว่า

"คนที่รู้จักพอ เป็นคนรวยทุกคน!"เก็บเรื่องมาเล่า


 งานบรรเทาสาธารณภัย และ ฌาปนกิจ    เป็นงานแขนงหนึ่งซึ่งได้ริเริ่มมาตั้งแต่สมัยหลวงปู่ไต้ฮงยังมีชีวิต  และสืบทอดต่อมาโดยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง     ด้วยแรงศรัทธาสนับสนุนของสาธุชนทั้งหลาย  งานบรรเทาสาธารณภัยและฌาปนกิจ    ได้ขยายขอบข่ายงานกว้างขวางออกไป    มีศักยภาพในการปฏิบัติงาน  และพร้อมมูลด้วยพาหนะ  เครื่องมือ  อุปกรณ์ที่ทันสมัย    ในระยะแรกทั้งสองส่วนเป็นกิจกรรมที่รับผิดชอบร่วมกันในนาม แผนกบรรเทาสาธารณภัย   ปัจจุบันเปลี่ยน   

                                   ชื่อว่า “แผนกบรรเทาสาธารณภัย-ฌาปนกิจ” 

                                  แผนกบรรเทาสาธารณภัย

 ที่รู้จักในคำว่า  “หน่วยกู้ภัย”

            งานบรรเทาสาธารณภัย  ในระยะแรกเรียกกันว่า  หน่วยกู้ภัย ซึ่งยังติดปากกันถึงทุกวันนี้แม้จะเปลี่ยนชื่อมาแล้วนานแสนนาน  ไม่เว้นแม้แต่เจ้าหน้าที่บ้านเมือง ทั้งเจ้าพนักงานตำรวจทหาร หรือ เจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยไม่ว่าจะเรียกขานในนามใดหน้าที่ของพวกเขาก็คงเดิมกล่าวคือ

                        1. เก็บศพที่ตายผิดปกติ  ณ ที่เกิดเหตุ  ทั้งทางบก และ ทางน้ำ  ส่งโรงพยาบาลตำรวจ  โรงพยาบาลที่เป็นศูนย์ชันสูตรศพ  เพื่อทำการชันสูตร

                        2. เมื่อมีอุบัติภัยที่กระทบกับมวลชนเป็นวงกว้าง  มูลนิธิฯ ถือเป็นภารกิจที่ต้องยื่นมือเข้าบรรเทา  ที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ทั่วทุกจุดของประเทศ   เมื่อได้รับการตรวจสอบแล้วจะรีบรุดไปปฏิบัติภารกิจนั้นทันที  เช่น  เพลิงไหม้ / ภัย สึนามิ / ตึกถล่ม  ฯ
                        3. ช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจบันทึกภาพพยานหลักฐานประกอบคดี ช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาพื้นที่เกิดเหตุให้คงสภาพเดิม  เพื่อเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
                        4. บริการประชาชนในในงานต่าง ๆ เช่น  แนะนำขั้นตอน - ระเบียบต่าง ๆ ในการแจ้งเพื่อทำใบมรณบัตรช่วยเหลือประชาชนในด้านต่าง ๆ ตามที่เจ้าพนักงานตำรวจร้องขอ เช่น  ช่วยจับงูเงี้ยวเข้าบ้าน  ช่วยลากรถที่เสียไปหาช่าง
                        5. การนำผู้บาดเจ็บ  ณ  ที่เกิดเหตุส่งสถานพยาบาลเพื่อเยียวยาช่วยชีวิต  มีบุคลากร และ  อุปกรณ์ พร้อมมูล  สามารถดำเนินการช่วยชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ หรือ นำส่งโรงพยาบาล ซึ่งมูลนิธิฯ มีทั้ง  รถพยาบาลช่วยชีวิตขั้นสูง(รถAdvance)ในนามหัวเฉียวพิทักษ์ชีพประจำที่โรงพยาบาลหัวเฉียว      และ  กู้ชีพขั้นพื้นฐาน(รถ Basic) ในนาม ป่อเต็กตึ๊งพิทักษ์ชีพ ขึ้นกับแผนกบรรเทาสาธารณภัยฯ

 การพัฒนาการในงานเก็บศพ  ของ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง   

เมื่อ  100  ปีก่อน กรุงเทพ ยังไม่เจริญ  พื้นที่ส่วนใหญ่เป็น คู  คลอง  เต็มไปด้วยเรือกสวนผลไม้อุดมสมบูรณ์   ประชาชนสัญจรทางเรือ  พายเรือหรือแจวขึ้นล่อง การเก็บศพทางน้ำ  ก็อาศัยเรือชาวบ้านนำศพขึ้นฝั่งแล้วนำขึ้นรถลาก ซึ่งเป็นรถที่มูลนิธิ ฯ สร้างขึ้นเอง   ลักษณะคล้ายเกวียนขนาดเล็ก ล้อไม้ 2 ล้อ  มีหลังคา  มีช่องพอดีสำหรับวางหีบศพ  ใช้คนลาก 1 คน ช่วยดันข้างหลังอีก 1  คน ระหว่างทางนำศพไปฝังจะเคาะกระป๋องขอทางคล้ายระฆังดัง“ป๋องแป๋ง ๆ”  เสียงวังเวง ชาวบ้านทั่วไปจึงเรียกรถเก็บศพ ว่า รถ“ป๋องแป๋ง”  เรียก ป่อเต็กตึ๊ง ว่า มูลนิธิป๋องแป๋ง

ต่อมาในสมัยรัชการที่  5- 6 บ้านเมืองพัฒนาเจริญขึ้น  การตัดถนนหนทางเพิ่มขึ้นมากมาย   ถนนเจริญกรุงเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาเสร็จ  มีรถรางวิ่งจากหลักเมือง สุดทางที่ถนนตก  การสัญจรสะดวกสบายขึ้น   แต่รถยนต์มีน้อยนับคันได้   รถเก็บศพของป่อเต็กตึ๊งยังเป็นรถลากเช่นเดิม   และมีรถสามล้อเพิ่มขึ้นมา

 รถสามล้อที่ปัจจุบัน เรียกว่าสามล้อแดงที่ชาวบ้านใช้ส่งสินค้า ส่งน้ำแข็ง ตามตรอกซอกซอยในปัจจุบันนั่นเอง  แต่คงใช้ไม่สู้สะดวก  ต่อมาจึงใช้รถยนต์ตู้   และ รถปิคอัพแทน    ส่วนเรือเก็บศพทางน้ำ  ได้เปลี่ยนจากเรือพายขนาดเล็ก  เปลี่ยนเป็น  เรือขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์  เจ้าหน้าที่เก็บศพทางน้ำมีเครื่องมือมนุษย์กบ  มีเครื่องช่วยหายใจ   ส่วนการกู้ภัยทางบกนั้นมีเครื่องมือเพิ่มขึ้น  มีเครื่องตัดถ่าง  เครื่องปั๊มลม   มีรถกู้ภัยเอนกประสงค์ที่มีเครื่องมือต่าง ๆ สำหรับงานกู้ภัย มีหัวฉีดน้ำ และ ถังบรรจุน้ำสำหรับงานดับเพลิง  มีดวงโคมขนาดใหญ่กำลังไฟหลายพันแรงเทียน สำหรับใช้งานพื้นที่เกิดเหตุที่ต้องการแสงสว่างสูง  เป็นต้น

การติดต่อสื่อสารระหว่างเจ้าพนักงานตำรวจ กับ หน่วยกู้ภัย ก็รวดเร็วขึ้น  มีการประสานการฏิบัติงานด้วยการสื่อสารทันสมัย ผ่าน ศูนย์วิทยุกรุงเทพฯ ที่ตั้งขึ้นมานั้น  มีส่วนอย่างมากในการเกื้อหนุนงานกู้ภัยให้ได้รับความสำเร็จสมดังเจตนาคณะกรรมการมูลนิธิ ฯ คาดหวังไว้.

15 ก.ค. 53 เวลา 21:16 5,393 2 90
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...