บอร์ด
กระทู้: การร่วมมือกันระหว่าง สารัชถ์ รัตนาวะดี และ สโมสรบุรีรัมย์ในโครงการ Gulf Football Camp

การร่วมมือกันระหว่าง สารัชถ์ รัตนาวะดี และ สโมสรบุรีรัมย์ในโครงการ Gulf Football Camp

นับว่าเป็นข่าวดีไม่น้อยเลยสำหรับวงการฟุตบอลไทย เมื่อ ผู้ผลิตพลังงานชั้นนำในประเทศไทย กลุ่มบริษัท กัลฟ์ ที่มีคุณ สารัชถ์ รัตนาวะดี (Mr. sarath ratanavadi) เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ร่วมกันกับสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลชื่อดังของเมืองไทยที่เชื่อหลาย ๆ คนรู้จักกันเป็นอย่างดี

โดยทั้งสององค์กรนั้นได้ร่วมมือกันดำเนินโครงการ “Gulf Football Camp : ชาร์จพลังปลุกฝันนักเตะเยาวชน” พร้อมจัด Trial Tournament เพื่อคัดเลือกเยาวชนอายุ 10-14 ปีที่มีความสามารถทางด้านฟุตบอล พร้อมสนับสนุนเข้าสู่วงการนักฟุตบอลอาชีพ

 

ธนญ ตันติสุนทร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานกิจการองค์กร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กลุ่มบริษัท กัลฟ์ เล็งเห็นความสำคัญของการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพเยาวชนที่มีใจรักด้านกีฬา ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเรามีโครงการสนับสนุนทีมฟุตบอลไทยและจัดกิจกรรมฟุตบอลคลินิกในชุมชนที่ กัลฟ์ เข้าไปดำเนินธุรกิจและในปีนี้เรายังคงเดินหน้าพัฒนาเยาวชนรุ่นใหม่สำหรับวงการฟุตบอลอย่างต่อเนื่อง จึงจัดโครงการ “Gulf Football Camp: ชาร์จพลังปลุกฝันนักเตะเยาวชน” ขึ้นเป็นปีแรก ซึ่งได้จับมือกับพันธมิตรที่เป็นอันดับหนึ่งในวงการฟุตบอลไทย อย่าง สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพื่อมอบโอกาสให้เยาวชนที่มีใจรักฟุตบอลและมีความมุ่งมั่นได้พัฒนาทักษะกีฬาฟุตบอล”

 

 

ด้านนายเนวิน ชิดชอบ ประธาน บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด ได้กล่าวว่า  “โครงการนี้นับเป็นก้าวสำคัญของวงการฟุตบอลไทย สำหรับบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ไม่ได้เห็นความสำคัญของชัยชนะหรือการเป็นแชมป์เพียงเท่านั้น แต่การสร้างบุคคลากรเพื่อให้เป็นนักเตะมืออาชีพสำหรับทีมชาติไทยก็เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญ”

 

“แต่ละสโมสรมีการคัดเลือกเด็กเข้าสู่ระบบอะคาเดมีอย่างเข้มข้น ซึ่งถือว่าเดินกันมาถูกทางแล้ว และแน่นอนว่าจะเป็นการส่งผลดีต่อการพัฒนาฝีเท้าของนักเตะระดับเยาวชน เพื่อเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติไทยในอนาคต ดังนั้น นักเตะเยาวชนจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนระเบียบวินัย เพื่อทำให้พัฒนาขึ้นมาเป็นเยาวชนแถวหน้าของวงการฟุตบอลไทย โดยเน้นการเล่นฟุตบอลแบบสมัยใหม่ มีแนวทาง และรูปแบบการเล่นแบบเดียวกับทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชุดใหญ่”

 

ขณะที่ คาร์สเทน คราเมอร์ (Carsten Cramer) ผู้บริหารฝ่ายการตลาด สโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กล่าวว่า “สโมสรมีความยินดีที่ได้มีส่วนร่วมและแบ่งปันประสบการณ์ เทคนิคและความเชี่ยวชาญของเราให้แก่เยาวชนไทยโดยเยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับประสบการณ์จากศูนย์ฝึกซ้อม ‘Hohenbuschei’ ของสโมสรที่ขึ้นชื่อเรื่องนวัตกรรมการฝึกฝนทักษะฟุตบอลและได้รับการยอมรับว่าเป็นศูนย์ฝึกที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป เราเชื่อว่านักเตะเยาวชนของไทยจะได้รับการพัฒนาและประสบการณ์อันล้ำค่า จากสโมสรดอร์ทมุนด์อย่างแน่นอน”

และนายธนญ กล่าวว่า “กัลฟ์ ตระหนักดีว่าการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไม่ว่าจะด้านใดก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านกีฬาให้ไปถึงระดับสากลนั้น จำเป็นต้องส่งเสริมความพร้อมอย่างรอบด้าน ซึ่งนอกจากความพร้อมด้านทักษะพื้นฐาน สถานที่ และอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานแล้วนั้นสิ่งสำคัญเพื่อช่วยให้เยาวชนไทยพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง คือ การสร้างเยาวชนต้นแบบเพื่อปลุกกระแสและเป็นแรงบันดาลใจในหมู่เยาวชนด้วยกันเอง ดังนั้น กัลฟ์ จึงพร้อมเป็นพลังหลักในการสนับสนุนเยาวชนที่มีใจรักการเล่นกีฬา และจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้พัฒนาศักยภาพ พร้อมปลุกพลังความมุ่งมั่นทุ่มเท เพื่อทำฝันของตนให้เป็นจริง”

 

สำหรับทีมฟุตบอลและเยาวชนที่สนใจเข้าร่วม Trial Tournament สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลการสมัครเข้าร่วมได้ที่ฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บริษัทบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เบอร์ 02-658-3768, 081-705-4454 หรืออีเมล GulfBRUTD@gulf.co.th และติดตามความเคลื่อนไหวของกิจกรรมในโครงการ “Gulf Football Camp: ชาร์จพลังปลุกฝันนักเตะเยาวชน” ได้ที่เฟซบุ๊ก www.facebook.com/GulfSpark.TH

 

ส่วนผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมปรับปรุงสนามฟุตบอลเก่าในชุมชนให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น สามารถส่งข้อมูลส่วนตัวและบอกเล่าสาเหตุที่อยากให้มีการปรับปรุง พร้อมแนบภาพถ่ายสภาพสนามในปัจจุบัน ขนาดไฟล์แต่ละภาพไม่เกิน 500 KB จำนวน 2 รูป มาที่ อีเมลGulfBRUTD@gulf.co.th หรือส่งจดหมายมาที่ ฝ่ายภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) 87 อาคาร เอ็มไทย ทาวเวอร์ ออลซีซั่น เพลส ชั้น 11 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

22 พ.ค. 62 เวลา 21:25 331