เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2556 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่ากลุ่มเคลื่อนไหวในซีเรีย

กล่าวหาว่ากองกำลังฝ่ายรัฐบาลซีเรียก่อเหตุสังหารหมู่ประชาชนต่อต้านรัฐบาลด้วย

การรมแก๊สพิษเสียชีวิตหลายร้อยคน ขณะที่ทางด้านฝ่ายต่อต้านรัฐบาลอ้างมีผู้เสียชี

วิตจากการรมแก๊สพิษสูงถึง 1,300 คน

     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในพื้นที่รอบกรุงดามัสกัส ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของฝ่ายต่อต้าน

รัฐบาล นักเคลื่อนไหวด้านการเมืองที่เรียกตัวเองว่าคณะกรรมการประสานงานท้องถิ่น

ได้เปิดเผยว่า กองกำลังฝ่ายรัฐบาลซีเรียภายใต้การควบคุมของประธานาธิบดี บาชาร์

อัล อัสซาด ได้ใช้อาวุธเคมีสังหารหมู่ประชาชนฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ซึ่งก็คือการรมแก๊ส

พิษ และเลือกสังหารหมู่ในช่วงเวลาก่อนรุ่งสาง ซึ่งครอบครัวของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลกำ

ลังนอนหลับไม่เว้นแม้แต่เด็ก โดยที่หลังเกิดเหตุก็มีภาพศพของประชาชนและเด็กนับ

ร้อยถูกเผยแพร่ออกมาตามสื่อ แต่ละคนเสียชีวิตคล้ายกับคนนอนหลับไม่มีบาดแผล

หรือแม้แต่รอยช้ำใดๆ ตามร่างกาย เป็นภาพที่น่าสลดใจเป็นอย่างยิ่ง

      จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้จัดการ

ประชุมฉุกเฉินที่สำนักงานใหญ่มหานครนิวยอร์ก เพื่อหารือเกี่ยวกับความรุนแรงใน

ซีเรียครั้งนี้ โดยระบุว่าจะต้องมีการสอบสวนเหตุรุนแรงครั้งนี้และต้องติดตามสถาน

การณ์อย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ดีมีแนวโน้มว่าคณะมนตรีความมั่นคงอาจไม่มีมาตรการ

ขั้นเด็ดขาดใดๆ เพื่อจัดการกับรัฐบาลซีเรีย เนื่องจากซีเรียยังคงได้รับการหนุนหลัง

จากชาติมหาอำนาจอย่างจีนและรัสเซีย ซึ่งออกมาปกป้องรัฐบาลซีเรียโดยตลอดว่า

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากการยั่วยุของฝ่ายต่อต้านรัฐบาล

     ขณะทางสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส ร่วมกับประเทศอื่นๆกว่า 35

ประเทศ ได้เรียกร้องให้คณะผู้ตรวจสอบการใช้อาวุธเคมีของสหประชาชาติซึ่งอยู่ใน

พื้นที่ที่มีรายงานการใช้อาวุธเคมีฆ่าประชาชนเข้าสืบสวนเหตุการณ์นี้ให้เร็วที่สุด ส่วน

ทางด้านนายวิลเลี่ยม เฮก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของอังกฤษก็ได้ออกมา

แสดงความเห็นว่า เขาหวังว่าเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นนี้จะทำให้ผู้ที่ยังสนับสนุน

รัฐบาลซีเรียภายใต้การควบคุมของนายบาชาร์ อัล อัสซาด จะได้พิจารณาอีกครั้งถึง

ความป่าเถื่อนของรัฐบาลนี้

นับว่าประเทศของเรายังดีที่ยังไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น

ขอให้ทุกคนในประเทศเรามีความสามัคคี

และอย่าได้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับประเทศของเราเลย