อดีต ผช.ผญบ. ย่องหาเมียชาวบ้าน หนีไม่ทันตกตึกดับ

อดีต ผช.ผญบ. แอบย่องหาเมียชาวบ้าน สามีเคาะห้องเรียก กลัวโดนจับได้รีบกระโดดอพาร์ตเมนต์ชั้น 5 ดับอนาถ ที่ปทุมธานี ตร.เร่งตรวจวงจรปิด หาสาเหตุการตายที่แท้จริง ...

เมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 29 ก.ค.55 พ.ต.ท.บัญชา มีเลิศ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุวัฒนะ (ป่อเต็กตึ๊งปทุมฯ) ว่ามีเหตุชายเสียชีวิตบริเวณลานจอดรถข้างกำแพง “วิชัยแมนชั่น” ตั้งอยู่เลขที่ 89/10 ซอยคริสตจักรปทุมธานี ต.บางปรอก อ.เมือง หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิชาญ ทองสุกแก้ว ผกก.ฯ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ (กระทรวงยุติธรรม) และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งอีกจำนวนหนึ่ง 

ที่เกิดเหตุซึ่ง เป็นสถานที่จอดรถของ วิชัยแมนชั่น ซึ่งเป็นพื้นดินกรวด ด้านข้างกำแพงพบศพชายวัยกลางคนสภาพศพนอนหงายสวมเสื้อยืดคอปกโปโลแขนสั้น สีดำสลับขาว นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน โดยที่เอวคาดเข็มขัดสีดำพร้อมซองโทรศัพท์มือ ใกล้กันพบรองเท้าแตะหนังสีดำตกอยู่ 1 คู่ ตรวจค้นภายในตัวพบบัตรประจำตัวประชาชน และเอกสารระบุชื่อนายทวี อ้อยบำรุง อายุ 54 ปี อยู่เลขที่ 141/1 หมู่ 8 ต.ลอ อ.จุน จ.พะเยา และ บัตรอดีต ผช.ผญบ.หมู่ 8 ต.ลอ อ.จุน จ.พะเยา จากการชันสูตรเบื้องต้นพบว่า หน้าขาซ้ายหัก หน้าผากแตก และแขนขวามีบาดแผลฉีก แพทย์ระบุน่าจะเกิดจากตกจากที่สูง คาดว่าเสียชีวิตไม่เกิน 6 ชั่วโมง เนื่องจากเนื้อตัวยังอุ่น ก่อนมอบศพให้มูลนิธิฯนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายให้ละเอียดอีกครั้ง

จากการสอบสวน น.ส.สนธนา เพชรไพร อายุ 30 ปี ซึ่งพักอยู่แมนชั่นฝั่งตรงข้ามกับจุดเกิดเหตุ ให้การว่าขณะที่ตนอาบน้ำเสร็จและกำลังนำผ้ามาตากที่หลังห้อง ก็มองเห็นชายคนหนึ่งนอนคว่ำหน้าอยู่ข้างกำแพงของวิชัยแมนชั่น จึงได้เดินลงมาดู ครั้งแรกคิดว่าคนเมามานอน แต่เมื่อเห็นว่าที่แขนมีเลือด จึงเรียกให้เพื่อนบ้านมาช่วยกันดู และเป็นจังหวะเดียวกับมี นายสุวิคม ชมเปราะ อายุ 26 ปี ขับรถผ่านมาและได้โทรศัพท์แจ้งไปยัง 1669 หน่วยแพทย์กู้ชีพ จากนั้นก็มีอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และหน่วยแพทย์กู้ชีพฯมาช่วยกันปฐมพยาบาล แต่เมื่อพลิกร่างชายดังกล่าวให้นอนหงาย ก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว และเมื่อสอบถามบรรดาชาวบ้านและผู้ที่พักในบริเวณดังกล่าวต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เคยมีผู้ใดรู้จัก หรือเคยเห็นหน้าผู้ตายมาก่อน

กระทั่งเมื่อ ทาง พ.ต.อ.พิชาญ ทองสุกแก้ว ผกก.ฯ พร้อม พนักงานสอบสวน ได้ขอขึ้นไปตรวจสอบตามห้องต่างๆ ของวิชัยแมนชั่น ที่มีระเบียงตรงกับร่างของผู้ตาย พบว่าที่ห้องเลขที่ 511 ชั้น 5 มีนายพีระศักดิ์ ใจกล้า อายุ 32 ปี และ น.ส.บุญปั้น ดวงติ๊บ อายุ 37 ปี สองสามีภรรยาอยู่ในห้อง โดยครั้งแรกทั้งคู่ให้การว่าไม่รู้จักผู้ตาย และไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่เมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามมากขึ้นก็พบว่า น.ส.บุญปั้น เริ่มให้การมีพิรุธ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเชิญตัวทั้งคู่มาสอบปากคำ ก่อนที่ น.ส.บุญปั้น จะยอมเปิดปากอย่างละเอียด

จากการสอบสวนเบื้องต้น น.ส.บุญปั้น ให้การว่ามีอาชีพอยู่ร้านนวดแผนโบราณแห่งหนึ่ง และผู้ตายเคยเป็นลูกค้าประจำ กระทั่งแอบเป็นกิ๊กกัน แต่ระยะหลังได้เหินห่างกันไป เพราะตนมีสามีแล้ว แต่ผู้ตายก็ยังไม่ยอมเลิกลา และล่าสุดได้โทรศัพท์มาหาตน พร้อมกับถามว่าแฟนอยู่หรือเปล่า ตนจึงบอกว่าแฟนไปทำงาน ก่อนที่ผู้ตายจะบอกว่าเดี๋ยวจะมาหา จากนั้นเวลาประมาณ 14.00 น. ผู้ตายก็มาหา ขณะที่อยู่กันในห้องสองต่อสอง ทันใดนั้นก็มีเสียงสามีตนมาเคาะห้องเรียก ด้วยความตกใจ ผู้ตายจึงรีบลุกจากที่นอนแล้วรีบสวมเสื้อผ้า ก่อนที่จะออกไปยืนด้านหลังห้อง พร้อมบอกกับตนว่าจะกระโดดลงไป ตนจึงบอกว่าไม่ต้องกระโดดมันสูง ก่อนที่ตนจะจะแกล้งตะโกนบอกสามีว่ารอเดี๋ยวกำลังอาบน้ำ จากนั้นจึงได้มาเปิดประตูห้อง โดยที่ไม่รู้ว่าผู้ตายกระโดดลงไปแล้ว ตนจึงแกล้งทำทีว่าลงไปซื้อน้ำแข็ง ก็พบว่ามีชาวบ้านมามุงดูว่ามีคนตายข้างแมนชั่นดังกล่าว

ด้าน พ.ต.ท.บัญชา มีเลิศ สารวัตรเวรฯ เจ้าของคดี กล่าวว่าในเบื้องต้นได้สอบปากคำและบันทึกภาพจากภายในห้องที่ผู้ตายได้หล่นลงไปสู่พื้นดินไว้แล้ว ส่วนการให้ปากคำของ น.ส.บุญปั้น นั้น จะสอดคล้องกับความเป็นจริงหรือไม่ คงต้องรอการผ่าชันสูตร จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ให้แน่ชัดเสียก่อน พร้อมจะทำการสอบปากคำนายพีระศักดิ์ และพยานอื่น พร้อมกับตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของแมนชั่นดังกล่าวอีกด้วย ว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่.

30 ก.ค. 55 เวลา 13:59 6,580 5 30
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...