ตุ๊กตา หน้าเป๊นเป็น .. ขอเป็นแมวเชื่่องๆ เคียงข้างแฟนรวย


หุ่นนี้ทำให้ชายทั้งโลกยอม สยบ เหวียนหง็อกจีง (Nguyen Ngoc Trinh) กล่าวว่า คนเราไม่สามารถกินดินได้ มีรักต้องมีเงินด้วย เธอภาคภูมิใจแม้ว่าจะต้องพึ่งพากระเป๋าของแฟน รู้สึกตัวเองโชคดีกว่าหญิงอีกหลายคน ยินดีที่จะเป็นเพียงแค่ "แมวเชื่องๆ" อยู่เคียงข้างแฟนรวยของเธอ. -- นิตยสาร MARS/เม.ย.2555.

เหวียนหง็อกจีง "ตุ๊กตาหน้าเป็น" ของแฟน กระฉ่อนอีกครั้งหนึ่ง สังคมออนไลน์จับกลุ่มวิพากษ์เธอมาข้ามสัปดาห์หลังการสัมภาษณ์ครั้งล่าสุด เกี่ยวกับสัมพันธ์ระหว่างเงินกับความรัก พูดถึงรสนิยมของผู้ชายที่เธอพบและรู้จัก ซึ่งนางแบบสาวกล่าวว่า จำเป็นจะต้องเลือกแฟนรวยๆ และยินดีที่จะเป็นแมวเชื่องๆ ตัวหนึ่งอยู่เคียงข้างแฟนรวยของเธอ 
   
   
คำ ให้สัมภาษณ์ล่าสุดนี้สะท้อนสิ่งที่พูดให้สังคมฮือฮาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเธอระบุว่า "ชาตินี้ไม่ขอแต่งกับชายจนๆ" และ "ความยากจนน่าชิงชัง" และ "รักกับหนูต้องจ่ายแพงนะ" ข้ามสัปดาห์มานี้ชาวเน็ตๆ นับร้อยๆ คนในเวียดนาม ขว้างก้อนหินใส่คำพูดของเธอ แต่ก็มีอีกจำนวนไม่น้อยที่กล่าวว่า ตุ๊กตาพูดตรงไปตรงมาและจริงใจไม่ปิดบัง ไม่มีอะไรแอบแฝง
     
ระหว่าง มาถ่ายแบบให้กับนิตยสาร MARS ที่ จ.ภูเก็ต เมื่อต้นปีนี้ ตุ๊กตาไม่ปฏิเสธว่า เธออยู่กินกับแฟนหนุ่มที่ร่ำรวยโดยที่ยังไม่ได้แต่งงานกัน แม้จะยอมรับว่าไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีสำหรับใครๆ ให้สัมภาษณ์สัปดาห์ที่แล้ว เธอยืนยันในเรื่องนี้  "ความรักที่ไม่มีเงินเหรอคะ... คนเรากินดินได้หรือเปล่าละคะ" นางแบบฮอตตอบคำถามซื่อๆ ที่กระเทือนอารมณ์ของกลายฝ่าย ขณะที่กองเชียร์บอกว่า เธอพูดได้ตรงใจและกินใจ "เห็นๆ กันอยู่แล้วว่าคนอย่างหนู งานที่หนูทำไม่มีความมั่นคง หนูไม่อาจจะดูแลตัวเองได้" ตุ๊กตากล่าวเสริม จากที่เคยอธิบายให้ชาวเน็ตฟังมาแล้วว่า เหตุที่เธอเลือกรักกับชายหนุ่มที่ร่ำรวยก็เนื่องจากอดีตที่ยากจนติดดินของ ครอบครัวและตัวเธอเอง
     
"ความจนมันเป็นฝันร้ายสำหรับหนู คนจะดูถูกเหยียดหยามในยามที่สิ้นไร้ ตอนหนูเป็นเด็กหนูจึงใฝ่ฝันว่าอนาคตจะต้องรวยให้ได้" ตุ๊กตากล่าว

ดูนุ่มนวลอ่อนหวาน แต่ตรงไปตรงมาและไม่ปิดบังในยามที่จะต้องพูด "ตุ๊กตาหน้าเป็น" ของชาวเน็ตเวียดนาม กลับมาเป็นข่าวอื้อฉาวอีกครั้ง เมื่อพูดถึงเรื่องเดิมๆ .. เงินกับความรัก หลายคนเรียกเธอว่า "บ้าวัตถุ" อีกจำนวนหนึ่งเรียกว่า "นังหน้าเงิน".

 "อย่างไรก็ตามการมีความสัมพันธ์กับใครสักคนหนึ่ง จำเป็นจะต้องมีความรักจากทั้งสองฝ่าย หากจะคิดถึงเงินอย่างเดียว หนูคงจะไปทำอย่างอื่นเพื่อจะได้รวยกว่านี้ งานนางแบบมันเต็มไปด้วยอารมณ์ความอ่อนไหว" สาวสวยกล่าว นางแบบสาวสวยวัย 22 ปี ยังบอกอีกว่าภาคภูมิใจในตัวเอง แม้ว่าจะต้องพึ่งพากระเป๋าแฟนหนุ่มอย่างเต็มที่ก็ตาม
     
"ทุก คนอยากจะมีอิสระ แต่จะให้หนูทำไงละคะ เมื่อมันอิสระไม่ได้ จะให้หนูทำไงหากรายได้ของหนูไม่พอกระทั่งจะซื้อกระเป๋าสักใบ แล้วหนูจะดูแลครอบครัวได้อย่างไร? หนูพึ่งแฟนของหนู แต่หนูก็ภูมิใจค่ะ มีความสุขและรู้สึกว่าตัวเองโชคดีกว่าผู้หญิงอีกหลายคนค่ะ""แม้ในยามที่หนู ไม่มีงานทำ หนูก็ยังมีชีวิตที่ดีได้ เพราะหนูมีแฟนที่ดูแลหนูได้.. หนูพอใจที่จะเป็นแมวเชื่องๆ ตัวหนึ่งอยู่ข้างๆ แฟนหนูค่ะ" หง็อกจีงกล่าว
     
เธอ ประกาศเมื่อปีที่แล้วว่า งานวันเกิดแต่ละปีของบเธอหมายถึงการเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่ เธอสะใจที่ซื้อกระเป๋าชาแนลราคา 3,000 ดอลลาร์ ถึง 2 ใบ เพราะชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าจะได้มีโอกาส  ในวงการทราบดีว่า ตุ๊กตาเป็นนางแบบค่าตัวแพงที่สุดคนหนึ่ง ครั้งละ 3,000 ดอลลาร์ต่องาน แต่ก็คงไม่พอสำหรับชีวิตที่ฟุ้งเฟ้อและหรูหราของเธอ ชาวเน็ตคนหนึ่งเรียกเธอว่า "พวกบ้าวัตถุ" อีกคนประณามว่า "นังหน้าเงิน"

เกิดที่ จ.จ่าวีง (Tra Vinh) ในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขง กำพร้าแม่ มีแม่เลี้ยงเลี้ยงดูมากับน้องๆ ที่เกิดใหม่อีก 1 โขยง เธอเดินทางเข้านครโฮจิมินห์หางานทำตั้งแต่อายุ 15 เข้าสู่วงการตอนอายุ 16 ชายที่ให้เธอได้ทุกอย่างในวันนี้ก็คือ หวูคั๊กเตียบ (Vu Khac Tiep) ผู้อำนวยการบริษัทโมเดลลิงที่เธอสังกัดนั่นเอง
     
"สิ่ง ที่หนูทำได้ก็คือ ทำให้ดีที่สุดเพื่อเป็นคนรักที่ดี หนูเชื่อทุกอย่างที่แฟนหนูพูด เพราะหนูไม่ได้รู้ละเอียดเกี่ยวกับงานของเขา หนูพอใจทุกสิ่งที่แฟนหนูให้และไม่เคยขอมากกว่านั้น"
     
"ผู้หญิง สวยมีมากมายจนนับไม่หมด แต่หนูว่าไม่ง่ายที่จะหาผู้หญิงทั้งสวยทั้งกิริยามารยาทดี ผู้ชายเขาต้องการหญิงที่สวย ดีและซื่อสัตย์ พวกเขาไม่สนใจหรอกว่าผู้หญิงจะเก่งทั้งการงานและการเรือนหรือไม่" สาวสวยกล่าว
     
ปี 2554 ทั้งปีตุ๊กตาอื้อฉาวมาเป็นระยะๆ จนกลายเป็นปรากฏการณ์หนึ่งในวงการ ได้เป็นมิสโกลบอลเวียดนาม (Miss Global Vietnam 2011) ซึ่งประกวดเป็นครั้งแรกในสหรัฐฯ เปิดโอกาสให้หญิงสาวชาวเวียดนามจากทั่วโลกให้เข้าร่วม หง็อกจีงคว้ามงกุฎกับเงินรางวัลอีก 30,000 ดอลลาร์ แต่ก็ก็มิวายถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างเสียๆ หายๆ
     
ตุ๊กตา ให้สัมภาษณ์กับ "แมเนเจอร์ไลท์" เมื่อต้นปีนี้ว่า เหตุการณ์ที่เศร้าใจที่สุดก็คือ เมื่อถูกใส่ร้าย ซึ่งทำให้งานที่กำลังหลั่งไหลเข้ามาถูกถอนไปหมด เธอหมายถึงในเดือน ต.ค.2554 เมื่อมีภาพเปลือยของ "สาวหน้าเหมือน" ออกมาชุดหนึ่ง ซึ่งทำให้หมดกำลังที่จะต่อสู้
     
"หนูได้แต่ร้องไห้ แต่เพื่อนปลอบใจว่า คนชอบจะปาก้อนหินใส่อะไรก็ตามที่มีดูวาววับ หนูจึงตั้งสติได้และบอกกับตัวเองว่า จะต้องดำเนินชีวิตในวิถีของตัวเองต่อไปให้ได้" ตุ๊กตากล่าว
 
 กับผู้ชายของเธอ...
 กับผู้ชายของเธอ..

 

 

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...