กัญชา

 

ผู้โพสต์ขอบอกก่อนว่า การโพสต์นี้มิได้โพสต์เพื่อเป็น สิ่งจูงใจหรือชี้แนะแต่อย่างใด ขอให้คิดว่าเป็นความรู้ แขนงหนึ่งนะค๊ะ

 

...ประวัติกัญชา ประเทศสหรัฐอเมริกา...

 

 1906 : สหรัฐอเมริกา ผ่านกฎหมายอาหารและยาทั่วทั้งประเทศ ยาทุกชนิดต่องขึ้นทะเบียนรวมทั้งกัญชาด้วย

 

 1910 – 1920 : หลังการปฏิวัติเม็กซิโก ชาวแม็กซิกันแห่ข้ามชายแดนใต้มาอยู่ในสหรัฐอเมริกาพร้อมกับนำวิธีการใช้กัญชาเพื่อความเพลิดเพลินเข้ามาด้วย

 

 1931 : 29 รัฐประกาศให้กัญชา เป็นยาเสพติดผิดกฎหมาย

 

 1932 : สหรัฐอเมริกาออกกฎหมายควบคุมยาเสพติด ทำให้กัญชาผิดกฎหมายทั่วทั้งประเทศ

 

 1936 : “Reefer Madness” หนังต่อต้านกัญชาชื่อดังออกฉาย

 

 1940′s : กระทรวงเกษตร มีแผนงานปลุกเร้าให้เกษตรกรปลูกกัญชากันมากขึ้นเพื่อสนับสนุนด้านสงคราม

 

 1944 : สถาบันเภสัชนิวยอร์ค รายงานว่ากัญชาไม่ได้มีผลทำให้เป็นบ้า ก่อความรุนแรง ข่มขืน หรือเสพติด

 

 1970 : สภาคองเกรสส์ ยกเลิกกฏหมายยาเสพติดหลายฉบับที่ใช้มาตั้งแต่ยุด 50

 

 1972 : ในการสัมมนาของประธานาธิบดี ริชาร์ด นอกสัน มีการแนะให้ลดโทษแก่ผู้ใช่กัญชาเป็นการส่วนตัว

 1973 : โอเรกอนเป็นรัฐแรกที่ประกาศลดโทษในกฎหมายที่ว่าด้วยกัญชา

 

 1986 : ประธานาธิบดี โรนัลด์ แรแกน เซ็นลงนามกฎหมายต่อต้านยาเสพติด ทำให้โทษเกี่ยวกับกัญชารุนแรงและหนักขึ้น   

 

 1996 : กัญชาถูกประกาศให้ถูกกฎหมาย ในฐานะเป็นยาเพื่อใช้ในการแพทย์ ในแคลิเฟอร์เนีย แต่ยังคงไม่ถูกกฎหมายหากเอามาใช้ส่วนตัว

 

ข้อมูลจาก : http://www.flagfrog.com/ประวัติกัญชา-ในอเมริกา/

 

 

...กัญชา สมุนไพรสีเขียว...

 

 

    ทุกคนคงทราบกันนะครับว่ากัญชาเป็นยาเสพติดชนิดโบราณ และก็ผิดกฎหมายแหงๆอยู่แล้ว แต่เมื่อไม่นานมานี้ สหรัฐอเมริกา เจ้าแห่งโลกเสรีทุนนิยม เพิ่งอนุญาติให้มีการค้าขายกัญชาอย่างถูกกฎหมายได้ เลยจะพาเพื่อนๆมารู้จักกับเจ้าสมุนไพรสีเขียวตัวนี้ ว่าจากยาเสพติดกลายมาเป็นของถูกกฎหมายมันจะเวิร์คจริงหรือและทำไมธุรกิจพืชพรรณโบราณชนิดนี้ ถึงสามารถทำเงินได้มหาศาลในขณะที่ก่อนหน้านี้มันจะผิดกฎหมายอยู่ก็ตาม

    ในรัฐโคโลราโด คือรัฐที่ถูกจับตาโดยรัฐอื่นในสหรัฐอเมริกาเพื่อดูว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปกับการปล่อยให้ใช้กัญชาอย่างถูกกฎหมาย เพราะไม่เคยมีรัฐใดทำแบบนี้ขณะที่กัญชาถูกโหวตให้ถูกกฎหมายมาตั้งแต่ธันวาคม 2012 และวันที่ 1 มกราคม 2013 คือวันแรกที่มีการซื้อ – ขายกัญชาได้อย่างถูกกฎหมายในสหรัฐอเมริกา

 

    ตอนนี้ประชาชนที่อายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป สามารถหาซื้อกัญชาได้ 1 ออนซ์ในแต่ละครั้ง แต่ก็คงมีคนไปซื้อตามร้านอื่นๆแล้วตุนเอาไว้ อย่างไรก็ตามยังมีการห้ามไม่ให้พกพาไปไหนข้ามรัฐ วิธีซื้อหาก็ไม่มีอะไรมาก แค่โชว์บัตรประชาชน เลือกสินค้าที่ต้องการ ซึ่งจะมาในหีบห่อพ้นสายตาเยาวชน กับป้ายกำกับความแรงของฤทธิ์ยา รวมทั้งบอกด้วยว่าใช้สารเคมีใดบ้างในการปลูก

 

...แหล่งขายกัญชาใน USA...

1. โคโลราโด

    เทือกเขาร็อคกี้ คือแห่งแรกที่หลังจากโหวตให้กัญชาถูกกฎหมาย และมีการนำมาค้าขายกัน มี 136 ร้านที่มีใชอนุญาตส่วนใหญ่อยู่ในแดนเวอร์ และพอเริ่มถูกกฎหมายมันก็ทำเงินให้มโหฬาร ซึ่งรวมถึงภาษีมหาศาลที่รัฐจะเก็บได้ด้วย

 

 

2. แคลิฟอร์เนีย

    รัฐแคลิฟอร์เนียเป็นรัฐแรกที่อนุญาตให้ใช้กัญชาอย่างถูกกฎหมายได้ในทางการแพทย์ มาตั้งแต่ปี 1996 แต่การลงประชามติให้ใช้กันทั่วไปอย่างถูกกฎหมายแพ้โหวตเมื่อปี 2010 แต่มีไว้ใช้เพื่อการส่วนตัวก็ยังถือว่าถูกกฎหมาย

 

 

 

3.วอชิงตัน

 

    ขี้ยานักพี้แถวนั้นหากเป็นเมื่อก่อนต้องข้ามจากวอชิงตันไปยังแวนคูเวอร์ หรือที่เรียกว่า “แวนเตอร์ดัม” เพื่อหาเนื้อสูบแต่ไม่นานหลังจากขายกันได้ก็ไม่มีใครต้องข้ามไปอีก เงินตราไม่รั่วไหลไปต่างแดน อย่างไรก็ตาม รัฐนี้ไม่อนุญาติให้สูบในที่สาธารณะ

 

 

4. โอเรกอน

    โอเรกอนไม่ใช่แค่เป็นรัฐแรกที่กัญชากลายเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย แต่เป็นรัฐแรกที่คนแถวนั้นพยายามทำให้การครอบครองกัญชาถูกกฎหมายตั้งแต่ 1997 คาดว่าจะเป็นแหล่งใหญ่ขายกัญชาแห่งอเมริกาอีกไม่นานมานี้

 

 

5. ฟลอริดา

    มีหลายอย่างเอื้อให้ฟลอริดาเป็นแหล่งกัญชาที่ถูกกฎหมาย แต่การโหวตจะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะอนุญาติให้ถูกกฎหมายในการใช้เพื่อการแพทย์ ผู้สนับสนุนยังต้องดิ้นรน รณรงค์เรียกร้องกันต่อไปจนกว่าจะถึงวันนั้น

 

 

...กัญชาตราโสมแดง...

    ไม่อยากจะเชื่อก็จงเชื่อ ในเกาหลีเหนือ ดินแดนที่เผด็จการ เรืองอำนาจ และการใช้กฎหมายกดหัวคนมีอยู่ทั่วไปเสรีภาพนั้นหายากเย็น แต่กัญชากลับมีให้ซื้อหากันง่ายๆในตลาด จะนั่งดูดตรงไหนก็ตามใจไม่ต้องคอยหลอนกลัวใครจะสนใจหรือม๋าต๋าจะมาจับ แถมราคายังถูกกว่าบุหรี่เพราะมันมีขึ้นอยู่ทั่วไปในป่า

 

 

...เหล่าคนดังขาพี้...

วิลลี เนลสัน

    ตำนานเพลงคันทรี และรู้กันดีว่านิยมดูดกัญชา แถมยังเป็นคนเดียวกับที่ตั้งชื่อหนังสืออัตชีวประวัติตัวเองแปลความหมายได้ว่า “มวนผมแล้วสูบถ้าหากผมตาย” ในวัย 80 ปี เขายังคงจุดพันลำอยู่ต่อไป “กัญชาไม่เคยทำให้ใครตาย ยกเว้นคุณจะกลืนห่อมันเข้าไป” คุณปู่เนลสันกล่าว

จอร์จ วอชิงตัน

    ประธานาธิบดีคนแรกของอเมริกา เคยปลูกกัญชาเป็นเรื่องเป็นราวในที่ของตนเพื่อใช้ทำผ้าแคนวาส และกระดาษนอกจากนั้นยังเคยสูบตั้งเยอะแยะเพราะกัญชาของเขามีระดับความเมาที่น้อยเกินไป

สนูป ด็อก

    เคยโดนจับ 8 ครั้งในข้อหาเดิมๆ คือมีกัญชาไว้ในครอบครอง รวมถึงห้ามเข้านอร์เวย์ 2 ปี เมื่อก่อนเคยตกเป็นข่าวในออสเตรเลีย เพราะเปิดสัญญาณเตือนไฟในโรงแรมเล่นก่อนจะจบลงด้วยการถ่ายภาพของเขากับกัญชาอีกเหมือนเดิม

ชาร์ลิช ทีรอน

    คนสวยแสดงหนังเก่ง แถมยังเซ็กซี่อีกต่างหาก เคยถูกจับภาพได้ครั้งหนึ่งขณะเธอกำลังดูดบ้องแอปเปิล เธอไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้ เลยเอาเอาว่าเธอน่าจะเป็นพวกนิยมมังสวิรัติรึเปล่าน้า

สตีเฟน คิง

    นักเขียนนิยายสยองขวัญ – ลี้ลับชื่อดังเคยยอมรับว่าเมื่อก่อนเขาก็สูบกัญชาและสนับสนุนให้กัญชาถูกกฎหมาย “ผมคิดว่ากัญชาจะเป็นอุตสาหกรรมขนาดย่อยๆได้ดีเลยหล่ะ” เขาว่า

อาโนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์

    อดีตพระเอกนักบู๊ร่างยักษ์ และผู้ว่าแคลิฟอร์เนีย เคยบอกไว้ใช้ “Pumping iron” หนังสารคดีเมื่อปี 1977 ที่เล่าถึงการเพาะการของเขาว่า “กัญชาไม่ใช่ยาเสพติด แต่เป็นใบไม้”

จอร์จ คลูนีย์

    ตอนเดินทางไปถ่าย “Ocean’s Twelve” ในกรุงอันสเเตอร์ดัม แหล่งสำคัญของกัญชาถูกกฎหมาย เขาเดินเข้าไปใช้บริการคาเฟ่กัญชาแห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าของร้านบอกว่า เท่าที่เห็นคุณคลูนีย์ดูจะคุ้นเคยกับกัญชาพอสมควร

 

 Bob Marley  คนนี้เค้าต้นตำหรับตัวจริง

 

ข้อมูลจาก : http://www.flagfrog.com/กัญชา-สมุนไพรสีเขียว/

 

 

 

...กัญชาแปลรูป... หวานคอกัญชา

 

    หลายปีมาแล้วที่มีการนำกัญชามาใช้ในทางการแพทย์ แล้วผลิตออกมาดินได้ ซึ่งต่างจากบราวนี่ช็อกโกแลตธรรมดาดิกซี่ขายช็อกโกแลตทรัฟเฟิล และมินต์ที่จะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย “ดีสำหรับทุกที่เพลิดเพลินทุกเวลา” อย่างที่ว่าไว้ในเว็บไซต์ ส่วนร้านอื่นๆ ก็มีช็อกโกแลตที่มีแผ้งคุกกี้ผสมกัญชา โดยอนุญาติให้มีระดับความเมาจากช่อดอกกัญชาได้ 100 มิลลิกรัม ต่อหนึ่งอัน ส่วนที่เวิร์ลลิง ฮิปปี้ก็มีชีสเค้กกัญชาไว้ขายด้วย

 

...ขนมนักพี้...

 

 

    การสูบกัญชาในโคโลราโดยังถือว่าผิดกฎหมาย แต่ถ้าเดินถือ คลอดีแบร์ เยลลี่รูปหมีขนาด 30 กรัม ที่มีความเมาจากกัญชา 100 มล.ก. หรือขนมคบเคี้ยวหนึบ ชีบา ชิวส์ ที่มีกัญชา 175 มล.ก. ผสมอยู่ก็ไม่มีใครว่า แต่อาจทำให้ฟันผุหรือไม่ก็อาจจะเพี้ยนเสียก่อน ถ้ารับประทานมากเกินไป

 

...กัญชาดื่มได้...

 

 

    ดิกซี่ยังมีเครื่องดื่มรสพืช, บลูเบอร์รี และอื่นๆ ที่ผสมกัญชา เจลอาบน้ำผสมกัญชา นอกจากนี้เจ้าอื่นก็ยังมีกรีนทีผสมกัญชาออกมาขานด้วย ส่วนเบียร์กับเหล้ายังไม่มีแต่อย่างใด แต่ตราบใดคนเราไม่เคยรู้จัดหยุดเมา วันหนึ่งก็น่าจะเป็นไปได้นะ

 

ข้อมูลจาก : http://www.flagfrog.com/กัญชาแปลรูป/

 

 

แต่ยังไง "กัญชา" ก็เป็นยาเสพติด

 

อย่าคิดและลองเลยค่ะ

 

18 ก.ย. 57 เวลา 22:01 7,783 1
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...