รู้กันไหม ? ทำไมเห็นเลือดแล้วจะเป็นลม

อ้าว...ไหนใครกลัวเลือดบ้าง? ใครรู้สึกตัวเบาๆ หวิวๆ เวลาเห็นเลือดบ้าง? ใคร ที่ถึงขั้นว่า เลือดเป็นภาพสุดท้ายที่ได้เห็นก่อนทุกอย่างจะดับวูบไปบ้าง? เอ...ทำไมหลายๆ คนถึงเป็นลมล้มพับไปเมื่อเห็นเลือดกันนะ ? เคยสงสัยกันบ้างไหม....

รู้กันไหม ? ทำไมเห็นเลือดแล้วจะเป็นลม

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเราล้วนมีที่มา และเหตุผลทั้งนั้น อยู่แค่ว่าเราเข้าใจกลไกของสิ่งที่เกิดขึ้นหรือยังเท่านั้นแหละจ๊ะ เรื่องนี้ก็รวมไปถึงอาการหน้ามืด เป็นลม เพราะกลัวเลือดด้วยนะค่ะ

อาการกลัวเลือด มีชื่อฝรั่งเท่ๆ ว่า Hemophobia ซึ่งมาจากภาษากรีกสองคำ โดย hemo (หรือ haemo) มาจากคำว่า haima แปลว่าเลือด และ phobos แปลว่า ความกลัว นั่นเอง ซึ่งจริงๆ ความรู้สึกกลัวเลือดมีติดตัวอยู่ในทุกๆ คน ซึ่งมีการทดลองให้กลุ่มอาสาสมัครนั่งดูภาพตับไตไส้พุงสยดสยองแล้วตรวดวัดข้อมูลต่างๆ ณ เวลานั้นก็พบว่า ทุกคนมีอาการตอบสนองต่อสิ่งที่เห็นไปในทางเดียวกัน เพียงแค่ดีกรีของการออกอาการมากน้อยไม่เท่ากันแค่นั้นเองค่ะ ส่วนกลุ่มที่บอกว่า "ฉันไม่กลัวเลือด" คือกลุ่มที่สามารถสะกดควบคุมอาการที่เกิดจากการเห็นเลือดได้ดีนั่นเอง

ส่วนในรายที่รู้สึกหวิว ใจสั่น วิงเวียน หน้ามืด รวมถึงวูบไปเลยนั้น ก็อย่าเพิ่งรู้สึกอายกับสิ่งที่เป็นนะ เพราะนี่ไม่ใช่ความผิด หรือความขี้ขลาดของคุณๆ ทั้งหลาย มันเป็นแค่กลไกการป้องกันตัวของร่างกายที่ออกจะ...ชาญฉลาดด้วยซ้ำ

สมองของเราจะจำทุกอย่างเป็นระบบสัญลักษณ์ สิ่งนี้สื่อถึงสิ่งนั้น ส่วนสิ่งแบบนั้นเป็นตัวแทนของสิ่งแบบนี้ ไม่ว่าจะใบหน้าคน ท่าทางที่ดูคุกคาม หรือภาพสัตว์ร้ายที่แยกเขี้ยว สมองของเราจะเอาภาพสัญลักษณ์นั้นไปตีความ และเชื่อมโยงเข้ากับข้อมูลจากประสพการณ์ที่มีว่าแบบนี้ แปลว่าดี แบบนี้หมายถึงอันตราย...เมื่อคุณเห็น "เลือด" ก็เหมือนกัน

เลือดสีแดงฉาน เป็นของที่ไม่ควรจะออกมาให้เห็นในภาวะปกติ ดังนั้นเมื่อเห็นเลือด ย่อมแปลว่ามีแผลเปิด หรือได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นเลือดจึงเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่ทรงพลังกับเราทุกคน ด้วยความทรงพลังของความหมายนี้เอง ทำให้สมองของเราทุกๆ คนจดจำเชื่อมโยงเลือดกับความผิดปกติ จนกระทั่งไม่ว่าเลือดนั้นจะเป็นของใครก็ตาม สมองจะสนองตอบทันทีที่เห็น...เลย

แล้วทำไมการตอบสนองต่อเลือด ถึงออกมาในแนวว่าเป็นลมล้มพับไปเสียแบบนั้นล่ะ?


ย้อนกลับไปเรื่องของร่างกายของเรา...อย่างที่บอกว่าร่างกายเราทำงานเป็นเหตุเป็นผลแบบที่เราไม่ต้องเข้าใจ มันก็ยังเป็นไปแบบนั้นโดยอัตโนมัติ เมื่อเลือดออก ร่างกายจะทำทุกทางให้เลือดหยุด ทางที่ค่อยเป็นค่อยไปคือการสมานแผลที่เกิด แต่ทางที่เร็วที่สุดที่ร่างกายพึงจะทำได้คือ ลดความดันเลือดลง เดี๋ยวนี้!!

กลไกนี้ไปพ้องกับการตอบสนองต่อความเครียดของเรา เมื่อเราเครียด รู้สึกไม่สบายใจ สมองของเราจะสั่งให้หัวใจเต้นช้าลง (เกิดจากการกระตุ้นระบบประสาท parasympathetic ที่จะยั้งให้การทำงานของร่างกายช้าลง) และหลอดเลือดจะขยายตัว (เกิดจากการยับยังระบบประสาท sympathetic ที่จะเร่งการทำงานของร่างกาย) ทำให้ความดันที่ลดลงจากหัวใจเต้นช้าอยู่แล้วลดลงไปอีก เพื่อป้องกันการ "โอเวอร์โหลด" จากภาวะเครียดนั้นนั่นเองค่ะ

เมื่อสมองเราใช้กลไกที่ว่ามานี้ลดความดันเลือดของเรา เพื่อหวังให้เราเลือดออกน้อยลง (นึกถึงหนังสยองขวัญที่เลือดพุ่งปรี๊ดออกมาเป็นปี๊บๆ สิค่ะ เลิกกินก๋วยเตี๋ยวน้ำตกกันไปเลย) ผลที่ตามมาก็คือสมองที่อยู่บนสุดของร่างกายพาลจะไม่มีเลือดมาเลี้ยง เพราะความดันลดลง เลือดก็ฉีดขึ้นมาสูงๆ ไม่ไหว...ทำไงล่ะ? ร่างกายก็มีทางออกแบบอัตโนมัติอีกนั่นแหละ ในเมื่อความดันไม่พอฉีดเลือดขึ้นที่สูง ก็สั่งให้เรานอนลงเสีย การนอนลงที่ไวที่สุด (อืม...คือบางทีร่างกายเราก็ไม่ได้คิดเผื่อครบทุกด้านนะจ๊ะ) ก็คือการตัดเรี่ยวแรงให้ยุบฮวบลงมาทั้งร่างนั่นเอง อีกทั้งการ สั่ง-ให้-หยุด-แล้ว-อยู่นิ่งๆ ยังช่วยลดความบาดเจ็บซ้ำ ลดความต้องการพลังงานจากเลือดอีกทางด้วยเช่นกันนะจ๊ะ

คราวนี้สำหรับผู้ที่แพ้เลือด หน้าซีดหน้าเซียว รวมถึงพวกที่ยังปลุกไม่ลุก ก็ภูมิใจกันได้แล้วนะค่ะว่า การตอบสนองของร่างกายของเราน่าทึ่งกว่าที่คิดทีเดียว...

23 พ.ย. 57 เวลา 20:46 1,840
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...