รวมเกร็ด Captain America: The Winter Soldier ที่คุณไม่เคยรู้ ภาค 1 (Part 1)

รู้ก็ได้ ! ไม่รู้ก็ได้ ! รวมเกร็ด Captain America: The Winter Soldier ภาค 1

 

 

 

ลาโรงกันไปแล้วสำหรับหนังซุปเปอร์ฮีโร่ภาคต่อฟอร์มยักษ์แห่งปี อย่าง Captain America: The Winter Soldier ซึ่งก็เป็นภาคต่อของ Captain America: The First Avenger ที่เคยฉายไปเมื่อปี 2011 สำหรับการกลับมาในครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็น เฟส 2 ของเหล่ายอดมนุษย์ที่เราชอบใน The Avengers เลยก็ว่าได้ หลังจากที่ปล่อยให้เพื่อนร่วมค่าย ออกมากู้โลกไปสองครั้งแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Iron man 3 , Thor 2 ครั้งนี้ถือเป็นทีของขวัญใจเด็กๆอย่าง กัปตันอเมริกา ภาคนี้ถือว่ากวาดเงินและคำชมไปไม่น้อยเลยทีเดียว 

 

 

 

สำหรับเรื่องราวในภาคนี้ เราได้ คริส อีแวนส์ (Chris Evans) กลับมารับบท สตีฟ โรเจอร์ส  (Captain America/Steve Rogers) สุดยอดทหารจากยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ต้องรับมือกับบททดสอบและความยากลำบากของโลกยุคปัจจุบัน และด้วยความช่วยเหลือจาก นิค ฟิวรี่ หัวหน้าหน่วยชีลด์ (แซมมูเอล เอล. แจ็คสัน Samuel L. Jackson) สตีฟต้องกลับมาสวมชุดกัปตันอเมริกาอีกครั้ง โดยร่วมกับ แบล็กวิโดว์ นักฆ่าสาวสุดเซ็กซี่  (สกาเล็ตต์ โยฮันสัน Scarlett Johansson) และ ฟัลคอน คู่หูคนใหม่ (แอนโทนี่ แม็กกี้ Anthony Mackie) เพื่อโค่นอำนาจผู้นำระดับสูงของหน่วยชีลด์ ซึ่งได้ โรเบิร์ต เรดฟอร์ด (โรเบิร์ด เรดฟอร์ด Robert Redford) นักแสดง-ผู้กำกับระดับตำนานของฮอลลีวูด ให้เกียรติมารับบทบาท นอกจากนี้ สตีฟยังต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่ร้ายกาจอย่าง "วินเทอร์โซลเยอร์" (เซบาสเตียน สแตน Sebastian Stan) อีกด้วย

 

 

เป็นเอกลักษณ์ของ ค่าย Marvel ไปซะแล้ว สำหรับการนำหนังแต่ละภาคมาเชื่อมต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นการนำไปเชี่อมกับภาคที่เคยออกมาแล้ว หรือการทิ้งปริศนาไว้ให้คนได้ติดตามในภาคต่อๆไป กับหนัง Captain America: The Winter Soldier ก็เช่นกัน มีปริศนาให้เราได้คิดกันมากมาย หลายๆคนที่เข้าไปชมอาจจะดูไม่ทันบ้าง นึกไม่ทันบ้าง ทางเราก็ได้เก็บเอาข้อมูลมาฝากกัน เรียกได้ว่าแน่นเอี๊ยดสุดๆ จนหลายๆคนอาจจะต้องไปหยิบหนังภาคก่อนมาเชคเลยทีเดียว นอกจากนั้นก็ยังมีเกร็ดเบื้องหลังเล็กๆน้อยๆมาฝากกันด้วย

 


คำเตือน มีการ สปอยล์ เนื้อหาในหนัง ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยชม Captain America: The Winter Soldier Iron man 3 , Thor 2, The Avengers ,Agent of S.H.I.E.L.D  


 

 

 

1.ที่ชุดออกรบของฟัลค่อน มีโลโก้ของสตาร์ก อินดัสตรีอยู่ด้วย

 

 

2. ในเรื่อง นิก ฟิวรี่ ได้พูดถึงเรื่องที่ปู่ของเขาทำงานเป็นคนเปิดประตูลิฟท์ ซึ่งในชีวิตจริงพ่อของ Samuel L. Jacksonก็ทำงานเป็นคนเปิดประตูลิฟท์เช่นกัน

 

 

 

3. ในเรื่อง นาตาชา โรมานอฟ/แบล็กวิโดว์  พูดถึงหน่วยงานที่แคนาดา ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำการทดลองWolverine และเป็นหน่วยงานที่บรรจุโลหะอะดาแมนเทียมเข้าไปในกระดูกของเขา 

 

 

 

4. ในหนัง นาตาชา โรมานอฟ/แบล็กวิโดว์  สวมสร้อยคอที่เป็นรูปลูกศร นี่เป็นการอ้างอิงถึงเพื่อนร่วมทีม (และคนรัก?) อย่าง คลินท์ บาร์ตัน/ฮอว์กอายส์ สร้อยคอนี้มาจากความคิดของสาวสการ์เล็ตเอง

 

 

 

5. คริส อีแวนส์ กับ สการ์เล็ต เป็นคนเขียนบทของตัวเองสำหรับหลายๆฉากที่พวกเขาเล่นด้วยกัน

 

 

 

6.ฉากที่ถูกตัดจาก The Avengers (2012) ตอนที่ สตีฟ โรเจอร์ รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับ เพ็กกี้ คาร์เตอร์ และหน่วยปฏิบัติการของเขา ได้กลายเป็นฉากหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้แทน

 

 

 

7. ตอนที่ แฮริแคริเออร์ เปิดตัวในเรื่อง นิก ฟิวรี่ ได้พูดถึงการเปลี่ยนใบพัดของเครื่องซึ่งได้ความช่วยเหลือจากบริษัท สตาร์ก อินดรัสทรี นั่นเป็นสาเหตุมาจากความเสียหายของใบพัดใน The Avenger (2012) ตอนนั้นได้ไอรอนแมน/โทนี่ สตาร์ก เป็นคนซ่อม

 

 

 

8. ตอนที่ แฮริแคริเออร์ มองหาเป้าหมาย หนึ่งในพื้นที่ที่ถูกตรวจสอบมี ตึกสตาร์กทาวเวอร์ อยู่ด้วย ซึ่งฉากในหนังเราจะเห็นว่าคำว่า STARK  ที่เคยอยู่หน้าตึก ได้ถูกเปลี่ยนเป็น ตัว A ตัวเดียว ซึ่งมาจาก Avenger  ตรงกับที่  Kevin Feige ประธานของมาเวลได้เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ถึงภาคต่อของหนังว่า  “S.H.I.E.L.D. ไม่มีอยู่ต่อไปแล้ว ฉะนั้นเมื่อ The Avengers มารวมตัวกันในหนังภาคต่อไป จะมีแค่พวกเขาเท่านั้น เราคิดว่าน่าจะสนุกดีที่จะใช้ตรงนี้มาเปลี่ยนเป็นพลังขับเคลื่อนของ The Avengers”  และเสริมว่า “โทนี่ สตาร์ก ยึด The Avengersไป ตามที่เคยเป็นผู้สนับสนุนให้ในฉบับคอมมิค…คุณสังเกตไหมว่ามีช็อตแว้บๆ ที่ฉายให้เห็นสตาร์กทาวเวอร์ในหนัง มันเปลี่ยนจากเดิมแล้ว มีตัว A ตัวใหญ่อยู่บนตึกนั้นแล้ว“

 

 

 

9. Captain America: The Winter Soldier แตกต่างจากหนังเรื่องอื่นๆของมาร์เวลตรงที่ ทีมงานพยายามที่จะลดการใช้งานของ Visual effects ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แอนโทนี่ แม็กกี้ ผู้รับบท ฟัลค่อน ได้บอกไว้ว่า รุสโซ่ทั้งสอง (ผู้กำกับ) ต้องการคงความเป็นหนังแอคชั่นแบบยุคเก่าไว้ให้ได้มากที่สุด ถ้าพวกเขาสามารถสร้างได้ พวกเขาก็จะสร้างมัน ถ้าพวกเขาสามารถทำได้ พวกเขาก็จะทำมัน ผู้กำกับต้องการให้ใช้ CG ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นั่นเป็นเหตุผลที่หนังเรื่องนี้ออกมาดูดีมากๆ 

 

 

 

10.ฉากการต่อสู้ในลิฟท์ ทีมสไตรค์ พยายามที่จะจับกัปตันไปเป็นนักโทษนั้น สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นการคารวะ ฉากหนึ่งในคอมมิคอย่าง ตอนที่เกิด Civil War ว่าด้วยเรื่องของรัฐบาลที่ต้องการจะตั้ง “กฏหมายลงทะเบียนฮีโร่” คือให้ฮีโร่ทุกคนระบุตัวตนที่เเท้จริงของตัวเองเพื่อความโปร่งใส เเน่นอนว่าเเนวคิดนี้ทำให้ฮีโร่ที่ปกปิดตัวตนจริงไม่พอใจ รวมทั้ง“Captain America” ที่ปฏิเสธแนวคิดนี้เพราะเชื่อว่ากฏหมายนี้จะนำพาความเเตกเเยกมาสู่เหล่าฮีโร่ด้วยกันเอง จนเกิดการปะทะกับหน่วยรบของ “S.H.I.E.L.D.” ที่พยายามจะลากเอากัปตันไปร่วมประชุมด้วย ซึ่งที่สุดเเล้วกัปตันก็หนีจากการตามจับของหน่วยชิลด์ไปได้

 

 

 

11. เซบาสเตียน สแตน ผุ้รับบท วินเทอร์ โซลด์เยอร์ ต้องผ่านการฝึกฝนการต่อสู้และการใช้อาวุธอย่างเข้มงวด เขาได้รับคำชมมากมายจากเพื่อนนักแสดงของเขา เพราะเขาจะเดินไปรอบๆตลอดทั้งวันเพื่อฝึกการเคลื่อนไหวของเขากับมีด พลาสติก เพราะเขาต้องการให้การเคลื่อนไหวของเขาเป็นธรรมชาติ

 

 

 

 

12. ขณะที่เจ้าหน้าที่ ซิทเวล สอบสวนนั้น เขาได้พูดถึงกลุ่มบุคคลที่เป็นเป้าหมายของอินไซด์ "เพื่อจัดการคนอย่าง สตีเฟ่น สเตนจ์ หรือ บรูช แบนเนอร์ ยังไงล่ะ"   ในคอมมิค Stephen Strange ก็คือ Doctor Strange หรือsorcerrer supreme ผู้ที่มีอาคมแข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล

 

 

 

13. โรเบิร์ต เรดฟอร์ด (รับบท อเล็กซานเดอร์ เพีร์ซ) อยากจะมีส่วนร่วมในหนังเรื่องนี้ เพราะหลานของเขาเป็นหนึ่งในแฟนคลับของMarvel และอยากเห็นเขาในหนังของมาเวลสักครั้ง 

 

 

14. เพื่อเตรียมความพร้อมในการที่จะเป็น Winter Solder เซบาสเตียน สแตน ใช้เวลาห้าเดือนสำหรับเตรียมตัวทางกายภาพ และ ศึกษา ประวัติศาสตร์  "ผมศึกษาเกี่ยวกับประวัติของสงครามเย็น ดูหนังเกี่ยวกับสายลับ แล้วก็ยังศึกษาประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับการล้างสมองอีกด้วย"

 

15. ฉากที่กัปตันอเมริกากระโดดออกมาจากเครื่องบินโดยไม่ต้องใช้ร่มชูชีพ เป็นการอ้างอิงจากฉาก ในคอมมิค เรื่อง The Ultimates เล่มแรก

 

 


16.สำหรับคำถามที่ว่า ทำไม ไอรอนแมน, บรูซ แบนเนอร์ หรือคนในทีมอเวนเจอร์ไม่ถูกเรียกให้มาช่วยกัปตันอเมริกา กับ แบล็กวิโดว์ในหนัง ผู้เขียนบทได้บอกเอาไว้ว่า เหตุการณ์ทั้งหมดในหนังเรื่องนี้เกิดขึ้นแค่ประมาณสามวันเท่านั้น ดังนั้นตัวละครในเรื่องจึงคิดว่าไม่จำเป็นที่จะต้องเรียกทุกคนมาในเวลานั้น

 

17. ขณะที่เขียนบทสำหรับหนังเรื่องนี้ เกิดความเป็นไปได้มากมายที่ คลินท์ บาร์ตัน/ฮอว์กอายส์ จะเข้ามาอยู่ในหนังเรื่องนี้ด้วย แต่ผู้เขียนคิดว่ามีตัวละครมากพอแล้ว แล้วเขาก็ไม่ต้องการให้ตัวละคร คลินท์ บาร์ตัน/ฮอว์กอายส์ โผล่ออกมาโดยที่ไม่มีมิติในเรื่องราวของตัวเอง พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะเขียนฉากเล็กๆถึงสถานที่ที่ฮอว์กอายส์ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่สุดท้ายเรื่องนี้ก็ไม่ได้อยู่ในหนัง

 

 

 

18. ตามที่คริส อีแวนส์ได้บอกในภาคนี้ สตีฟ โรเจอร์/กัปตันอเมริกา ยังคงพยายามที่จะปรับตัวเข้ากับโลกในยุคใหม่อยู่ อย่างที่เคยทำในตอน The Avengers (2012) จริงๆแล้ว เขาไม่ได้มีอาการช็อคกับเทคโนโลยีสมัยใหม่หรอก สิ่งที่ทำให้เขาช็อคจริงๆน่าจะเป็นเรื่องของความแตกต่างทางสังคมมากกว่า เขาหายไปจากโลกตั้งแต่ปี 1940 จนถึงตอนนี้ เขามาจากโลกที่มีประชากรน้อยแต่ไว้ใจกันมาก และ ไม่ค่อยมีภัยคุกคาม แต่ตอนนี้มันยากสำหรับเขาที่จะบอกว่าอะไรถูก อะไรผิด การปกป้องผู้คนในยุคนี้อาจจะกลายเป็นการคุมคามด้านเสรีภาพและความเป็นส่วนตัว ทั้งหมดนี้กลายเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับสตีฟ โรเจอร์

 

 

 

19. ในฉากที่ อเล็กซานเดอร์ เพียร์ซ (รับบทโดย โรเบิร์ต เรดฟอร์ด) เปิดตู้เย็นของเขา จะเห็นมีซอส Newman's Own วางอยู่  ซอสนี้เป็นหนึ่งในธุรกิจของ นักแสดงผู้ล่วงลับ Paul Newman  นี่เป็นการแสดงความเคารพถึงเขา เพราะนอกจะพอลจะแสดงหนังร่วมกับโรเบิร์ตมาแล้วสองครั้ง เขาทั้งสองยังเป็นเพื่อนสนิทกันอีกด้วย 

 

 

 

20.สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ แอนโทนี่ แมคกี้ ตัดสินใจรับบท ฟัลค่อน ก็เพราะว่าเขาต้องการสร้างตัวละครซุปเปอร์ฮีโร่ที่เป็นคนผิวสีขึ้นอีกตัวให้กับเด็กๆชาวแอฟริกัน-อเมริกัน จากที่เคยมีเพียง วอร์ แมชชีน(จากไอรอนแมน)  แต่เมื่อเขาได้มาเป็นฮีโร่จริงๆเขากลับไม่มีความสุขเท่าไหร่นัก เพราะแอนโทนี่อยากจะใส่ชุดรัดรูปสีแดงตามแบบฟัลค่อนในฉบับคอมมิค แต่ในหนังทีมงานต้องการปรับจากเหยี่ยวมหัศจรรย์ในการ์ตูน มาเป็นทหารหน่วยปฏิบัติการพิเศษดังนั้น ชุดของฟัลค่อนจึงมีการติดตั้งแว่นตา ปีกใหม่ทั้งหมด อีกทั้งสีก็ยังต้องปรับให้เป็นสีเข้มขึ้นเพื่อให้เข้ากับการเป็นทหาร

 

 

21.ทีมผู้สร้างให้ความสนใจกับการเพิ่มรูปแบบทางยุทธวิธีลงไปในการออกแบบชุดของฟอลคอน แทนที่จะยึดตามแบบในหนังสือการ์ตูน ดังนั้นพวกเขาจึงผสมผสานพวกสายรัด, ตาข่าย และอุปกรณ์ต่างๆจำนวนมาก ที่ใช้ในชีวิตจริง โลกเข้าไป ผลสุดท้ายจึงออกมาเป็นชุดที่ยังคงส่วนที่เป็นสัญลักษณ์ของฟอลคอนไว้ แต่ลดทอนองค์ประกอบที่มีอยู่ในหนังสือการ์ตูนลง เพราะอาจจะไม่เข้ากับยุคปัจจุบัน แอนโทนี่ แม็กกี้ใช้เวลา 25 นาที ในการใส่ชุดฟอลคอน 

 

 

22. การร่วมแสดงหนังเรื่องนี้ของแอนโทนี่ แม็กกี้ เป็นการเติมเต็มความฝันของเขาที่อยากเล่นเป็นตัวละครในคอมมิคของมาเวล เขาถึงกับเขียนอีเมล์ไปอ้อนวอนทางมาเวลสตูดิโอเลยทีเดียว ซึ่งอีเมล์ของเขาไปเตะตา เควิน  ไฟจ์ ประธานมาเวลสตูดิโอเข้า เควิน  ไฟจ์ เป็นคนเสนอบทฟัลคอนให้กับแม็กกี้ในตอนหลัง

 

23. เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้หนังถูกสปอยล์และเป็นความลับ ขณะถ่ายทำกองถ่ายนี้ใช้ชื่อว่า Freezer Burn

 

 

 

24. ในการต่อสู้กับวินเทอร์ โซลด์เยอร์ กัปตันอเมริกา ใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามีให้มีประโยชน์ให้มากที่สุด รวมถึง โล่ห์ อันเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวที่ได้ใช้มากขึ้นในภาพยนตร์เรื่องนี้  ในขณะโล่ห์ที่ส่วนใหญ่ถูกใช้เป็นอาวุธสำหรับป้องกัน แต่ใน Captain America: The Winter Soldier   ทีมผู้สร้างต้องการที่จะลองใช้มันเป็นอาวุธเพื่อการโจมตีมากขึ้น มันมีที่จับสองอันบนโล่ห์และพื่อที่ สตีฟ โรเจอร์ส จะสามารถใช้มันในการต่อสู้แบบตะวันออกได้ด้วย

 

 

 

15 พ.ค. 57 เวลา 20:08 7,433 1 40
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...