จอมนางแห่งราชสำนักไทย คนที่ 1 "ท่านผู้หญิงนาค"

 

 

 

จอมนางแห่งราชสำนักไทย  คนที่1"ท่านผู้หญิงนาค"

 

จากภาพคือ ท่านผู้หญิงนาค(ในรัชกาลที่ 2ทรงสถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จกรมพระอมรินทรามาตย์ พระบรมราชชนนี พระพันปีหลวง)

ด้านขวาคือ สถานนิวาสเดิมของท่านผู้หญิงที่อัมพวา และภาพด้านล่างคือ พระราชวังเก่าที่ประทับของท่านผู้หญิงนาคในสมัยรัตนโกสินทร์

 

คุณนาคเป็นลูกสาวของเศรษฐีใหญ่แห่งอัมพวา ลือชื่อเรื่องความงามสมเป็นกุลสตรีครองตัวอยู่เป็นสาวโสดมาจนอายุได้ 23 ปี เพราะบิดามารดาของคุณนาคเห็นว่ายังไม่มีชายใดที่เหมาะสมให้เป็นคู่ครอง จนกระทั่งมีข่าวว่าทางราชสำนักกรุงศรีอยุธยาจะส่งคนออกเสาะหาคัดเลือกหญิงงามที่มีทั้งคุณสมบัติและรูปสมบัติมีชาติตระกูลเพื่อนำมาเป็นสนม นางในของพระเจ้าอยู่หัว เมื่อบิดามารดาของคุณนาคทราบข่าวจึงต้องรีบขวนขวายจัดหาคู่ครองให้โดยเร็ว เพื่อพ้นจากการถูกส่งตัวเข้าไปเป็นนางใน แล้วตัวคุณนาคเองก็ไม่ได้มีใจที่จะเข้าไปเป็นสนมในวังหลวงแต่อย่างใด 

บิดาของคุณนาคจึงนำความไปหาลือกับพระอักษรสุนทรศาสตร์ผู้มีเชื่อสายราชวงศ์พระร่วง หลังจากปรึกษากันจึงได้ความว่าจะให้คุณนาคแต่งงานกับบุตรชายของท่านเอง บุตรชายผู้นั้นนามว่าหลวงยุกรบัตร(ทองด้วง) ข้าราชการหนุ่มรูปงามเชื่อสายวงศ์พระร่วง จึงมีการตกลงยินยอมและได้จัดการวิวาห์ขึ้นราวปี พ.ศ. 2304 ซึ่งขณะนั้นทองด้วงมีอายุได้ 25 ปี คุณนาค มีอายุ 24 ปี ทั้งอยู่ครองคู่กันอย่างมีความสุขนับแต่นั้น

หลังจากกรุงศรีอยุธยาแตกได้ไม่นาน คุณนาคและลูกๆต้องเดินทางติดตามสามีมาทำราชการที่กรุงธนบุรีอันเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่พร้อมกับบรรดาศักดิ์”ท่านผู้หญิงนาค”เพราะหลวงยุกรบัตรได้เลื่อนบรรดาศักดิ์ขึ้นเป็นเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก จอมทัพผู้เกรียงไกรที่นำทัพสยามเข้าสู้พม่าจนได้ชัยชนะหลายต่อหลายครั้ง ไม่นานนักปรากฏว่าท่านเจ้าพระยามีเมียเล็กมีน้อยซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของสังคมบรรดาศักดิ์ในสมัยนั้นด้านท่านผู้หญิงนาคผู้เป็นภริยาเอกก็ย่อมที่จะไม่พอใจและมีปากเสียงกับบรรดาเมียเล็กๆของท่านเจ้าพระยาอยู่เป็นเนืองๆ ดังปรากฏอยู่วันหนึ่งคือ “คุณแว่น”หญิงสาวจากเวียงจันทร์ ซึ่งท่านเจ้าพระยาก็กำลังโปรดปรานคุณแว่นเป็นอย่างมาก จึงทำให้ท่านผู้หญิงแค้นและเจ็บใจยิ่งนัก

ในวันหนึ่งคุณแว่นกำลังจะเดินขึ้นเรือน ท่านผู้หญิงนาคซึ่งคอยดักอยู่จึงใช้ดุ้นเสียมฟาดเข้าเต็มแรงจนเลือดไหลเต็มตัวคุณแว่น ด้านคุณแว่นจึงรีบวิ่งไปฟ้องท่านเจ้าพระยาว่า”ท่านเจ้าคุณ ช่วยดิฉันที คุณหญิงตีหัวดิฉัน” ท่านเจ้าพระยาถึงกับโกรธเป็นอย่างมากจึงฉวยเอาดาบจะมาฟันท่านผู้หญิง ท่านผู้หญิงรีบปิดประตู เมื่อเจ้าพระยามาถึงถีบประตูไม่ออกก็เอาดาบฟันประตูเสียงงดังอึกทึกคึกโครม ด้านคุณฉิมลูกชายคนโตของท่านผู้หญิงได้ยินจึงเอาครกตำข้าวมาต่อใต้หน้าต่างให้ท่านผู้หญิงปีนลงมาแล้วพาหลบหนีไปอยู่ในพระราชวังหลวงกรุงธนบุรี โดยอาศัยอยู่ในตำหนักคุณจอม ผู้เป็นลูกสาวของท่านผู้หญิงที่เข้าไปเป็นสนมเอกในวังหลวง และท่านผู้หญิงก็ไม่กลับเข้าไปที่บ้านอีกเลย 

ครั้งถึงกรุงรัตนโกสินทร์ เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ย้ายเข้าไปอยู่ในพระบรมหาราชวัง พร้อมกับบรรดาลูกๆ คุณแว่นและภรรยาคนอื่นๆก็ได้เป็นสนมตามธรรมเนียม พระเจ้าอยู่หัวไม่ทรงแต่งตั้งใครขึ้นเป็นมเหสี ส่วนท่านผู้หญิงนาคก็ไม่ยอมเข้ามาอยู่ในพระบรมมหาราชวัง จะมาก็แค่เยี่ยมพระราชโอรส-พระราชธิดาแล้วก็กลับเล่ากันว่าทุกครั้งที่ท่านผู้หญิงนาคย่างก้าวเข้ามาในวังหลวง เหล่าสนมนางในจะรีบหลบกันไปคนละทิศคนละทางไม่กล้าเจอท่านผู้หญิงนาค ทั้งนี้ท่านผู้หญิงไม่ทรงยอมใช้คำราชาศัพท์กับพระเจ้าอยู่หัวผู้เป็นพระสวามีแต่อย่างใด ทรงเรียกพระเจ้าอยู่หัวว่าท่านเจ้าคุณ ลูกๆของท่านผู้หญิงนาคได้เป็นเจ้าฟ้าทุกคน ซึ่งผู้ที่จะเป็นเจ้าฟ้าได้ต้องประสูติจากพระมเหสีเท่านั้นต่างจากลูกของเหล่าพระสนมที่เป็นเพียงพระองค์เจ้า จึงเป็นที่เข้าใจตรงกันว่าท่านผู้หญิงนาคเป็นแม่ของเจ้าฟ้า ดังนั้นพระมเหสีก็คือท่านผู้หญิงนาคนั่นเอง..."

 

โปรดติดตาม จอมนางแห่งราชสำนักไทย ตอนต่อไป "เจ้าคุณเสือ"

ที่มา: คลังประวัติศาสตร์ไทย
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...