ยังมีคนอีกมากมีความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการออกกำลังกาย นิตยสาร "สรรสาระ" ฉบับเดือนธ.ค.โดย แมตธิว จี. เคดีย์ มีคำอธิบายดังนี้

  

1.ออกกำลังแบบแอโรบิกเวลาเช้าขณะท้องว่างช่วยเผาผลาญไขมันดีกว่า 

เจอราร์ด เรชิโอ ผู้เชี่ยวชาญด้านกีฬาจากทวิสต์คอนดิชันนิ่งในแคนาดา แนะนำว่า การออกกำลังขณะท้องว่างทำให้ร่างกายใช้พลังงานสะสมหมดเร็วซึ่งบั่นทอนสมรรถภาพ จะให้ดีควรกินอาหารที่ย่อยง่ายก่อนออกกำลังยามเช้า เช่น ผลไม้สักชิ้น 

2.กล้ามเนื้อหนักกว่าไขมัน

ผู้ที่ออกกำลังแล้วน้ำหนักตัวไม่ยอมลด มักได้รับคำอธิบายจากครูฝึกว่า กล้ามเนื้อหนักกว่าไขมันซึ่งไม่จริง สิ่งที่แตกต่างกันคือ กล้ามเนื้อหนาแน่นกว่าไขมัน หากออกกำลังแล้วน้ำหนักยังเท่าเดิม แต่รูปร่างผอมเพรียวลง แสดงว่ามาถูกทางแล้ว

3.ออกกำลังเบาลง ทำให้ไขมันเผาผลาญมากขึ้น

เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ขณะออกกำลังเบาๆ ร่างกายจะเผาผลาญไขมันมากกว่าคาร์โบไฮเดรต เนื่องจากร่างกายสำรองคาร์โบไฮเดรตสำหรับกิจกรรมที่ใช้พลังงานสูง 

4.สามารถกินอาหารทุกอย่างที่ต้องการหากยังออกกำลังเป็นประจำ

การให้รางวัลตนเองเป็นครั้งคราวด้วยการกินตามใจปากไม่ใช่เรื่องผิด แต่อย่าบ่อย ควรเปลี่ยนเป็นอาหารสุขภาพดีกว่า 

5.ผู้หญิงที่ยกน้ำหนักเป็นประจำจะมีกล้ามใหญ่และรูปร่างคล้ายผู้ชาย

ในความเป็นจริงการจะมีรูปร่างเหมือนนักเพาะกายต้องอาศัยปัจจัยด้านพันธุกรรม การออกกำลังอย่างหนัก และกินอาหารเสริม แต่การฝึกยกน้ำหนักก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้หญิง เพราะช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและเพิ่มเนื้อกระดูก ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนและช่วยเผาผลาญไขมันเพิ่มขึ้น

6.การลดไขมันเฉพาะส่วนสามารถทำได้

เรื่องนี้ไม่จริง เรชิโอบอกว่า ขณะร่างกายเผาผลาญไขมัน ไขมันจากทุกส่วนทั่วร่างกายจะถูกดึงมาใช้ในปริมาณใกล้เคียงกัน 

7.ควรยืดกล้ามเนื้อก่อนออกกำลังกาย

เรชิโอแนะนำวิธียืดกล้ามเนื้อที่ถูกวิธีว่า แทนที่จะเหยียดค้างไว้เฉยๆ ควรเหยียดพร้อมเคลื่อนไหวไปด้วย เป็นการเตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อมก่อนออกกำลัง

8.ออกกำลังยิ่งมากยิ่งดี 

คนส่วนใหญ่เชื่อว่า หากการออกกำลังมีประโยชน์จริงยิ่งทำมากย่อมได้ประโยชน์มาก แต่สิ่งหนึ่งที่ควรระลึกไว้เสมอ คือ กล้ามเนื้อไม่ได้โตขึ้นทันทีขณะออกกำลัง อาหารและการพักผ่อนที่เหมาะสมเท่านั้นคือปัจจัยสำคัญที่ช่วยกล้ามเนื้อและกระดูกเติบโตขึ้นตามแรงกระตุ้นของการออกกำลัง

ชนา ชลาศัย จาก นสพ. ข่าวสด