ผีอํา เกิดจากอะไรกันแน่ ในทางวิทยาศาสตร์

 

 

 

ผีอํา เกิดจากอะไรกันแน่ ในทางวิทยาศาสตร์

 

 

ผีอำ คือ คำเอ่ยของคนที่คิดว่าถูกผีหลอก ในขณะนอนครึ่งหลับครึ่งตื่น มีอาการที่รู้สึกแน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก หรือขยับตัวไม่ได้ในขณะนอน หรือนั่งเหมือนมีคนมานั่งทับบนตัว ว่ากันว่า เกิดจากการนั่ง หรือนอนผิดท่า ทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาท ทำให้ขยับตัวไม่ได้

ทางแพทย์อธิบายว่าเกิดจากการ ที่สมองตื่นไม่พร้อมกัน

สมองเรานั้นมีบริเวณต่างๆ ที่ทำหน้าที่ต่างๆ บริเวณด้านหน้าจะทำหน้าที่สั่งให้เคลื่อนไหว ส่วนรับความรู้สึกนี่จะเป็นแกนกลาง กับด้านค่อนมาหลังหน่อย

เวลาเราตื่นสมองจะมีกระแสไฟฟ้าเป็นตัวทำงาน เวลาเราหลับกระแสเหล่านี้ก็ลดลง (เข้าสู่ระยะพัก) ดังนั้นเมื่อเราตื่น ถ้าบริเวณรับความรู้ตัวตื่น แต่บริเวณสั่งการเคลื่อนไหวยังไม่ตื่น ก็เป็นอาการผีอำ แต่ก็มี โรคบางโรคที่มีลักษณะเหมือนกันนี้เรียกว่า Lockin Syndrome จะรู้ตัวแต่ขยับอะไรไม่ได้ ได้แต่กลอกลูกตาไปมา

ฝรั่งเขาก็มีเรื่อง 'ผีอำ' อย่างไทยเราเหมือนกัน เขาเรียกว่า 'Hag Attack' hag อ่านว่า 'แฮ็ก' แปลว่า 'ยายแก่แร้งทึ้ง' หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ แม่มดแก่ๆ น่าเกลียดน่ากลัวนั่นแหละครับ เหตุผลที่เขาเรียกแบบนี้ก็เพราะเชื่อว่า ผีอำนั้นเกิดจากแม่มดผู้ชั่วร้ายแอบเข้ามากลางดึก ตอนที่เรากำลังหลับสนิท เพื่อจะสูบเอาพลังชีวิตจากเราไปเป็นยาโด๊ปให้มันกระชุ่มกระชวย ซึ่งก็เท่ากับเป็นการเพิ่มพลังอำนาจเวทมนตร์ให้กับตัวแม่มดนั่นเอง

ในยุโรปเชื่อว่า แม่มดที่มีพฤติกรรมเช่นนี้เป็นแวมไพร์ประเภทหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า 'ไซคิก แวมไพร์' คือมันไม่ได้ดูดเลือดกิน แต่มันสูบพลังจิต หรือพลังชีวิตจากคน

ตำราเวทมนตร์คาถาของแม่มดเอง ยังเตือนอย่างเคร่งครัดให้ระวังแม่มดชั่วร้ายเหล่านี้ เพราะแม่มดเก่งๆ ดีๆ อาจตกเป็นเหยื่อของมันได้ง่ายๆ ถ้าไม่ป้องกันให้ดี

วิธีป้องกันคือ เขียนวงกลมแม่มดล้อมรอบเตียง และแขวนกระเทียมไว้ด้วย

สำหรับคนธรรมดาๆ ที่กลัวโดนผีอำนี้ ทางยุโรปก็มีมาแต่โบร่ำโบราณแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้คนในแถบ นิวฟาวด์แลนด์ ประเทศแคนาดา เรื่องว่า 'โอลด์ แฮ็ก' หรือยายแม่มดแร้งทึ้งเป็นตัวการให้เกิดประสบการณ์สยองขวัญสั่นประสาท ที่ไทยเราเรียกว่าผีอำ

เรื่องนี้ เดวิด เจ. ฮัฟเฟิร์ด อาจารย์ท่านหนึ่งของภาควิชาว่าด้วยตำนานพื้นบ้าน แห่งมหาวิทยาลัยแมมโมเรียล ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ นิวฟาวด์แลนด์ ได้ทำโครงการวิจัยเรื่องนี้และสำรวจพบว่า ผู้ที่โดนผีอำทุกคนจะมีประสบการณ์เหมือนๆ กันอยู่ 4 ประการ คือ

1.อาการนี้จะเกิดขึ้นขณะกำลังเคลิ้มหลับ บางคนยังไม่ทันเคลิ้มด้วยซ้ำ เพราะหัวถึงหมอนปุ๊บก็มาเลยเชียว

2.ได้เห็น หรือได้ยินบางสิ่งบางอย่างเคลื่อนเข้ามาในห้อง และในที่สุดก็จะเข้ามาถึงเตียง

3.เหยื่อจะรู้สึกมีอะไรหนักๆ มาทับอก อาจจะมีใครมานั่งทั้งตัว หรือเอามือมากดอกไว้อย่างแรง

4.ความรู้สึกเป็นอัมพาตไปชั่วขณะ จะขยับแขนขา หรือแม้แต่จะหันศีรษะไปทางไหนก็ไม่ได้ทั้งนั้น สยองมากๆ คนที่โดนผีอำจะตกใจกลัวสุดๆ จะร้องก็ร้องไม่ออก

เมื่อมีอาการผีอำกำเริบถึงขั้นที่เหยื่อรู้สึกอึดอัด หวั่นกลัวเต็มที่ เขาหรือเธอก็จะพยายามดิ้นรน สวดมนต์ เรียกพ่อแก้วแม่แก้ว แล้วก็...อึ้ด! ความทรมานทรกรรมพลันมลายในพริบตา ตัวเบาโหวง ขยับได้แล้ว ไม่มีอะไรแล้ว! เฮ้อ...

อาการผีอำนี้ ในทางวิทยาศาสตร์บอกว่าไม่ใช่ผีสางอะไรหรอก แต่มันเกิดจากสภาพร่างกายและจิตใจของเราเอง เพราะผีอำมักจะเกิดกับคนที่ชอบนอนหงาย หัวใจกับปอดเลยทำงานไม่สะดวก จึงรู้สึกเหมือนถูกกดทับ ประกอบกับอาการใกล้จะหลับ สมองกับระบบประสาทไม่สามารถควบคุมอวัยวะต่างๆ ของร่างกายได้ ก็เลยรู้สึกเป็นอัมพาตไปชั่วขณะ

ส่วนที่คิดว่าผี หรือพานเห็นผีมาเป็นร่างใหญ่ๆ หรือเงาดำๆ ก็เกิดเพราะความเชื่อในเรื่องผีๆ สางๆ นั่นเอง

ผู้ใหญ่สอนว่า ถ้านอนตะแคงจะไม่โดนผีอำ หรือถ้าเกิดผีอำขึ้นมาก็ให้รวบรวมสติ ทำใจให้เข้มแข็งแล้วลองขยับตัวดู แค่นี้ก็จะ 'ปลดล็อก' จากอาการนี้ได


วิทยาศาสตร์ไม่ให้เราเชื่อเรื่องผี และอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆ อย่างมีเหตุผล แต่บางกรณีก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี

อย่างเช่นคุณป้าท่านหนึ่ง ไปค้างบ้านเศรษฐีฝรั่งที่ เลคทาโฮ ในอเมริกา ฝรั่งท่านนี้เป็นนายแพทย์ที่ชอบสะสมวัตถุโบราณ และเคยมาเมืองไทยด้วย คุณป้าถูกผีอำ ขยับตัวไม่ได้...เห็นผู้หญิงไทยใส่ชุดรัชกาลที่ 5 มาดึงเท้าท่าน ต้องสวดมนต์จึงหลุดจากอาการผีอำได้

นาทีต่อมา หลานสาวของท่านซึ่งหลับอยู่ข้างๆ เกิดร้องอึกๆ อักๆ ท่านเลยเขย่าตัวเธอ เมื่อเธอตื่นก็ละล่ำละลักขอบคุณที่ปลุก

'เมื่อกี้หนูถูกผีอำค่ะ เป็นผีผู้หญิงแต่งชุดรัชกาลที่ 5 มาดึงขาหนูจนเจ็บไปหมด นี่ยังเจ็บอยู่เลยค่ะ...ถ้าคุณป้าไม่ปลุก หนูต้องแย่แน่ๆ'

ถามไปถามมา ปรากฏว่าแพทย์ท่านนั้นเคยมาเมืองไทย และซื้อกำไลนพเก้าไว้วงหนึ่ง...วิญญาณหญิงสาวอาจจะมากับกำไลก็ได้

โปรดใช้จักรยาน ในการ อ่าน เด็กและสตรีมีครรภ์ ไม่ควรอ่านก่อนนอน 55555

 

Credit   http://www.clipmass.com/story/71959
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...