ชมมรดกโลก 6 แห่งของซีเรีย ที่ถูกยิงถล่ม

 

สงครามกลางเมืองที่ดำเนินอยู่ในซีเรียปัจจุบัน ไม่ได้คร่าชีวิตคนไปกว่าแสนคนเท่านั้น แต่ยังทำลายสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่เป็นมรดกโลกหลายแห่งอีกด้วย  รายงานชิ้นนี้จะพาไปดูว่าผลกระทบของสงครามต่อมรดกโลกเหล่านี้มีอะไรบ้าง
 
 
ซีเรีย มีโบราณสถาน ซึ่งองค์การยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทั้งหมด 6 แห่ง  และทั้ง 6 แห่งก็ได้รับความเสียหายจากสงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
 
 
สถานที่แรกคือ พาลไมรา เมืองโบราณในภาคกลาง ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลกยุคโบราณ โดยพาลไมราถูกเขียนถึงในเอกสารเก่าแก่อายุกว่า 4,000 ปี  แต่อาคารที่ยังคงเหลือในปัจจุบันนั้น ส่วนใหญ่สร้างเมื่อประมาณ 1,900-2,000 ปีมานี้ การที่มันตั้งอยู่ระหว่างแหล่งอารยธรรมกรีก ทำให้สถาปัตยกรรมมีส่วนผสมของสถาปัตยกรรมแบบกรีก โรมัน เปอร์เซีย และสถาปัตยกรรมท้องถิ่น
 
 
วิหารแห่งเบล และ"หุบเขาแห่งสุสาน" มีรูปแบบสถาปัตยกรรมเป็นเอกลักษณ์ และยูเนสโกถือว่าเป็นหนึ่งในอาคารสำคัญที่สุดของโลกในยุคศตวรรษที่ 1
 
 
 
แต่ในช่วงสงครามกลางเมือง สำนักข่าวอัล-อาราบียา ของซาอุดิอาระเบียรายงานว่า กองทัพซีเรียได้ทิ้งระเบิดในเขตโบราณสถาน โดยผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่าระเบิดลูกหนึ่งทำให้ผนังด้านหนึ่งของวิหารแห่งเบล พังถล่มลงมา
 
 
ปราสาท ครัก เด เชวาเลียร์ส เป็นปราสาทของอัศวินครูเสด ที่สร้างขึ้นครั้งแรกช่วงศตวรรษที่ 12 และเป็นปราสาทยุคกลางที่เก็บรักษาไว้อย่างดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก  ยูเนสโกยกย่องว่าเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมทั้งในด้านรูปแบบสถาปัตยกรรม และการใช้เทคโนโลยีทางทหารที่ก้าวล้ำในยุคสงครามครูเสด
 
 
สถานที่ต่อมาคือเมืองบอสรา ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ทางตอนใต้ ที่มีประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์  เมืองมรดกโลกแห่งนี้ถูกกล่าวถึงครั้งแรกในเอกสารโบราณของอียิปต์ ที่มีอายุ 3,400 ปี  หลังจากนั้น มันก็ได้เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรนาบาเทียน ก่อนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมัน จักรวรรดิไบแซนไทน์ และจักรวรรดิอูเมย์ยาด  เมืองแห่งนี้จึงเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ที่รวมเรื่องราวของอารยธรรมเก่าแก่ตั้งแต่สมัยนาบาเทียน โรมัน ไบแซนไทน์ และอูเมย์ยาด ไว้ในที่เดียวกัน
 
 
ในช่วงสงครามกลางเมืองซีเรีย ศาสนสถานซึ่งชาวมุสลิมเชื่อกันว่าเป็นที่ที่ศาสดามูฮัมหมัดได้รับการต้อนรับโดยพระชื่อ "บาฮีรา" ถูกทำลายเสียหาย
 
 
ส่วน"เมืองอาสัญ" หรือ "Dead Cities" เป็นหนึ่งในมรดกโลกที่ได้รับความเสียหายเช่นกัน ความจริงแล้ว เมืองมรณะไม่ได้เป็นเมือง แต่เป็นกลุ่มหมู่บ้านโบราณกว่า 700 หมู่บ้าน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย  หมู่บ้านเหล่านี้มีอายุในช่วงจักรวรรดิไบแซนไทน์ เมื่อประมาณศตวรรษที่ 1-7  และเป็นสถานที่สู้รบระหว่างกองทัพซีเรีย กับกองกำลังฝ่ายกบฏในปัจจุบัน
 
 
 
สถานที่สุดท้ายคือเมืองอเลปโป ปัจจุบันเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของซีเรีย แต่เขตเมืองโบราณของอเลปโป เคยเป็นส่วนหนึ่งของอารยธรรมฮิตไทต์ อัสซีเรียน อาหรับ มองโกล และออตโตมาน  ในขณะที่เขตเมืองเก่าของกรุงดามัสกัส ก็เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมมาตั้งแต่ยุคกลาง ยูเนสโกยกย่องทั้งสองเมืองเป็นมรดกโลก  แต่ทั้งสองเมืองก็เป็นสมรภูมิสำคัญระหว่างรัฐบาลซีเรียกับกลุ่มกบฏเช่นกัน
 
 
 
แม้ว่าโบราณสถานเหล่านี้จะเสียหายจากการสู้รบ  แต่หากมองในแง่ดี ร่องรอยที่เกิดขึ้น อาจเป็นสิ่งย้ำเตือนคนรุ่นหลัง ถึงเหตุการณ์นองเลือดครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่งของซีเรียได้เป็นอย่างดี

 

ที่มา: 
ขอบคุณ 
Voicetv 
ภาพใดผิดพลาดขออภัยค่ะ
29 ส.ค. 56 เวลา 20:43 2,849 60
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...