มารู้จัก "กุหลาบจามุนหรือกุหลาบยามุน" ขนมหวานอินเดียตอนใต้กัน

 

 

 

มารู้จัก "กุหลาบจามุนหรือกุหลาบยามุน" ขนมหวานอินเดียตอนใต้กัน

 

 

กุหลาบจามุน หรือ กุหลาบยามุน เป็น ขนมของอินเดียตอนใต้(ไม่แปลกใจเพราะว่า แยกบ้านแขกไม่ได้มีแต่แขกมุสลิม แต่มีแขกซิกข์ นายห้างขายผ้าอาศัยอยู่เพียบ ในยุคที่ พาหุรัด รุ่งเรือง) 

 

กุหลาบจามุน หรือ กุหลาบยามุน (Gulab Jamun) ขนมนี้ทำจากแป้งผสมนม ปั้นกลมๆ ทอดในเนยกี (Ghee) จาก นั้นทำน้ำเชื่อมโดยใส่ลูกกระวานและน้ำดอกไม้เทศ พอน้ำเชื่อมอุ่นก็เทใส่กุหลาบจามุนที่ทอดไว้แล้ว เวลากินแนะนำว่าต้องกินคู่กับน้ำชา เพราะขนมชนิดนี้มีรสชาติหวานมาก ต้องค่อยๆ ลองชิมลองกินทีละน้อยๆ

 

ส่วนผสมกุหลาบยามุน 
1. นมผงรสจืด 1/2 ถ้วย
2. แป้งอเนกประสงค์ 2 ชต.
3. โยเกิร์ต 2 ชต.
4. กีร์ ถ้าไม่มีเอาเนยรสจืด(ละลายก็ได้) 1 ชต.
5. เบคกิ้งโซดา 1/4 ชต.

น้ำเชื่อม 
1. น้ำ 2 ถ้วย
2. กลิ่นกุหลาบ หรือ น่ำกุหลาบ นิดเดียว
3. น้ำตาลทราย 2 ถ้วย
4. หญ้าฝรั่น 1 หยิบมือ
5. กระวานผง 1 หยิบมือ
6. สุดท้ายน้ำมันสำหรับทอด

 

 
วิธีทำ 
1. เอาแป้ง+เบคกิ้งโซดา ผสมรวมกันก่อน

2. จากนั้นใส่นมผง

3.จากนั้นค่อยๆใส่ กีร์หรือเนย ทีละนิดนวดกะให้ว่านวดจนเนียน นวดไปเรื่อยๆ จะเนียนๆเหนียวๆ

4. จากนั้น เอามาปั้นกลมๆ ลูกขนาดหัวแม่มือ ถ้าติดมือให้เอาเนยทามือแล้วปั้น อย่าปั้นใหญ่จนเกินไป เพราะเดียวทอดมันจะเป็น ดับเบิ้ลไซส์

5. จากนั้นทำน้ำตาลตามสูตร เคี่ยวจนเดือดหอมทิ้งให้น้ำเชื่อมอุ่นๆ

6. ได้น้ำเชื่อมแล้วเราก็ เอากุหลาบยามุนที่ปั้นตะกี้ เอามาทอดแบบ Deep

7. ใช้ ไฟอ่อนๆ เท่านั้นห้ามไฟแรงเด็ดขาด ทอดจนเป็นทีน้ำตาลอมแดง เวลาทอดให้คอยคนตลอดเวลา ห้ามผละหนีไปไหน ที่นี้มีเคล็ดลับก็คือ เวลาทอด กุหลาบยามุนชุดแรกแล้วน้ำมันจะร้อนจัดมาก ซึ่งถ้าน้ำมันร้อนจัดจะทำให้กุหลาบยามุนด้านในแข็งและจะเสียไปเลย ดังนั้นพอทอดชุดแรกเสร็จ ให้ปิดไฟทอด ชุด 2 ซักพัก ค่อนติดไฟใหม่ พอทอดได้แล้วเอามาพักให้สะเด็ดน้ำมันจนหายร้อน ค่อยเอาไปแช่ในน้ำเชื่อมที่เราเตรียมไว้ให้อุ่นๆแล้่ว เคล็ดลับอีกเช่นกัน ห้ามใส่ตอนน้ำเชื่อมร้อนจัด หรือใส่กุหลาบยามุนลงน้ำเชื่อมตอนทอดเสร็จใหม่ๆ เพราะจะกลายเป็นกุหลาบยามุนต้ม แช่กุหลาบยามุนทิ้งไว้ 45 นาที กุหลาบยามุนจะดูดน้ำเชื่อมจนนิ่มนุ่มทั้งชิ้น พอมันดูดน้ำเชื่อมจนเต็มที่แล้ว ให้เอาแยกออกจากน้ำเชื่อมแช่ตู้เย็นทานเย็นๆ

คน อินเดียจะกินคู่กับชาหรือไอติมรสวานิลลา หรือ จะเอาถวายเทพทางฮินดูก็ได้ เอาทองคำเปลวแต่งหน่อยก็สวย ส่วนมุสลิมในไทย นอกจากเคยเป็นของที่ทานคู่กับน้ำชาในร้าน แล้ว ปัจจุบันยังเป็นขนมมงคลในงานแต่งงานด้วย

 

 

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...