เสริมสุข เปิดตัว est น้ำดำยี่ห้อใหม่-เป๊ปซี่ทุ่ม 18,400 ล้านบาท ผุดโรงงานใหม่

 

 

 

 

 

เสริมสุข เปิดตัว est น้ำดำยี่ห้อใหม่

เป๊ปซี่ทุ่ม 18,400 ล้านบาท ผุดโรงงานใหม่

 

 

 





                เสริมสุข อดีตตัวแทนจำหน่ายเป๊ปซี่ เปิดตัวน้ำดำยี่ห้อใหม่ est (เอส) เขย่าตลาดน้ำอัดลม หวังแบ่งตลาดจาก 2 ยักษ์ใหญ่

                ตกเป็นข่าวให้คอน้ำอัดลมฮือฮาอยู่พักใหญ่ เมื่อ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) จะหมดสัญญาการเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องดื่มเป๊ปซี่ ในประเทศไทย วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2555 หลังจากเป็นตัวแทนจำหน่ายมายาวนานหลายสิบปี จนทำให้มีกระแสข่าวว่าจะมีการขาดตลาดของเครื่องดื่มเป๊ปซี่ขึ้นนั้น

                แต่ล่าสุด บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) ก็ได้เปิดตัวน้ำอัดลมยี่ห้อใหม่ ใช้ชื่อว่า est (เอส) เพื่อชิงส่วนแบ่งในตลาดน้ำอัดลมเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งยี่ห้อ ซึ่งทีเซอร์ของน้ำอัดลม เอส ได้ปล่อยออกมาให้ได้ชมกันแล้ว ทำให้ตลาดน้ำอัดลมในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้แข่งขันกันอย่างดุเดือดมากขึ้น เพราะเสริมสุขมีเครือข่ายที่แข็งแกร่งและครองใจคนไทยในฐานะตัวแทนจำหน่ายเป๊ปซี่มายาวนานถึง 60 ปี 

                โดยน้ำอัดลมเอสจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 พฤศจิกายน นี้ พร้อมทั้งให้ความมั่นใจกับตัวแทนจำหน่ายและผู้บริโภคว่า ตัวแทนชุดเดิมจากเสริมสุขจะดูแลลูกค้าอย่างเต็มกำลัง รวมทั้งได้สำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภค พบว่า ส่วนใหญ่ชื่นชอบในรสชาติของน้ำอัดลมเอส และจะซื้อดื่มอย่างแน่นอน พร้อมทั้งเปิดตัวเฟซบุ๊กแฟนเพจ ให้ได้ติดตามข่าวสารกันแล้ว แม้ว่านักวิเคราะห์หลายรายอาจจะมองว่าเป็นเรื่องยากที่ เอส จะโค่น 2 ยักษ์ใหญ่อย่างโค้กและเป๊ปซี่ลงได้ แต่งานนี้คงต้องรอดูกันต่อไปว่าทั้ง 3 ค่ายจะแก้เกมการตลาดกันอย่างไร




เป๊ปซี่ ทุ่ม 18,400 ล้านบาท เดินหน้าขยายการลงทุนในไทย หลังสิ้นสุดสัญญาจ้างผลิตและจำหน่ายกับ เสริมสุข ประกาศลงทุนตั้งโรงงานผลิตสินค้าเอง 

พร้อมว่าจ้าง ดีเอชแอล กระจายสินค้า และจะยกเลิกการผลิตเครื่องดื่มในแบบขวดตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป


นายจา กรูท โคเตชา กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า(ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ในกลุ่มเป๊ปซี่โค อิงค์ 

เปิดเผยว่า บริษัทได้จัดสรรงบลงทุน 18,400 ล้านบาท หรือประมาณ 600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับการลงทุนในประเทศไทยภายในปี 2555-2558 

โดยแบ่งเป็นการลงทุนสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง จำนวน 5,200 ล้านบาท เพื่อใช้ผลิตเครื่องดื่มอมตะซิตี้ และ เซเว่นอัพ 

ส่วนที่เหลือเป็นการลงทุนในการสร้างแบรนด์และทำการตลาด โดยเน้นการทำตลาดผ่านรูปแบบมิวสิคมาร์เก็ตติ้งและสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งเป็นหลัก


สำหรับโรงงานแห่งใหม่จะเป็นโรงงานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลกของเป๊ปซี่โค ซึ่งขณะนี้เริ่มดำเนินการผลิตเป๊ปซี่ ในรูปแบบขวดพีอีทีแล้ว 

และมีกำหนดวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป ภายหลังจากสิ้นสุดสัญญาจ้างผลิตและจำหน่ายกับบริษัท เสริมสุข จำกัด(มหาชน) 

และเป๊ปซี่จะดำเนินการผลิตเครื่องดื่มน้ำอัดลมเฉพาะแบบบรรจุขวดพีอีทีและบรรจุกระป๋องเท่านั้น โดยจะยกเลิกการผลิตเครื่องดื่มน้ำอัดลมแบบบรรจุขวดแก้วทันที เนื่องจากไม่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค


นอกจากนี้เป๊ปซี่ยังได้ว่าจ้างบริษัท ดีเอชแอล (ประเทศไทย) จำกัด ในการขนส่งและกระจายสินค้าทั่วประเทศ 

โดยเชื่อมั่นว่าการลงทุนดังกล่าวจะทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของเป๊ปซี่ มิรินดา และเซเว่นอัพเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันเป๊ปซี่ครองตำแหน่งเจ้าตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมประเภทเครื่องดื่มน้ำดำในไทย ด้วยส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 50

 

 

27 ต.ค. 55 เวลา 15:55 6,694 1 60
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...