รำลึกเหตุการณ์ นักรักบี้กินศพเพื่อน เพื่อความอยู่รอด

 

 

 

 

 

รำลึกเหตุการณ์ นักรักบี้กินศพเพื่อน เพื่อความอยู่รอด

 

 

 
รูป รำลึกเหตุการณ์ นักรักบี้กินศพเพื่อน เพื่อความอยู่รอด เซตนี้ขอพาไปย้อนรอย เรื่องราวปาฏิหาริย์ชวนสยองขวัญ เหตุการณ์ปาฏิหารย์ที่แอนเดส นักรักบี้กินศพเพื่อน เพื่อความอยู่รอด  เรื่องนี้ต้องย้อนไปในปี 1972 เครื่องบินแฟร์ไชด์ FH-227D ที่บรรทุกผู้โดยสารมา เป็นนักรักบี้ทีม "โอลด์คริสเตียนส์"ของมหาวิทยาลัยสเตลล่ามาริส และ ผู้โดยสารทั่วไป รวมนักบินและลูกเรือ จำนวน 45 คน เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตกที่ มีคนตายทันที 12 คนตอนเครื่องบินตก ส่วนผู้รอดชีวิตที่เหลือ ซึ่งถูงขังอยู่บนยอดเขา สูง 10,300 บนเทือกแอนเดส ไม่มีอาหาร มีเพียงช็อกโกแลตเล็กๆน้อยๆ และ น้ำจากหิมะให้ดื่มเท่านั้น ยิ่งเวลาผ่านไปคนก็เริ่มที่จะตายลงเรื่อยๆ ช็อกโกแล็ตที่มีก็หมดไป คนที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็เริ่มอ่อนแรงลงไปทุกวัน จึงมีคนหนึ่งชื่อ " คาเนสซ่า " เขาเสนอไอเดียให้กินเนื้อเพื่อนที่ตาย เพื่อรักษาชีวิต แน่นอนความคิดเช่นนี้ ถูกปฏิเสธและเกิดการโต้เถียงกันอย่างหนัก ต่อมาระหว่างรอการช่วยเหลือ พวกเขาได้ยินจากวิทยุว่า ทีมค้นหาตัดสินใจยกเลิกการค้นหาแล้ว ทำให้จากนี้ถ้าต้องการอยู่รอดต้องพึ่งพาตัวเองเท่านั้น จึงตัดสินใจกินเนื้อเพื่อนที่ตาย ตามความคิดของ " คาเนสซ่า " ในที่สุด คนที่ไม่ยอมกิน ก็ทยอยตายลงทีละคน ต่อมา " คาเนสซ่า " กลายเป็นหัวหน้ากลุ่มผู้รอดชีวิต พยายามออกเดินทางไปขอความช่วยเหลืออยู่หลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จ จนกระทั่ง หลังจากติดอยู่บนเขานานกว่า 2 เดือนเศษ " คาเนสซ่า " และ พวก ออกเดินทางไปขอความช่วยเหลืออีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ข้ามเขาไป 3 ลูก จึงไปขอความช่วยเหลือได้สำเร็จ สุดท้าย นับตั้งแต่วันเครื่องบินตก จนถึงวันที่ช่วยเหลือสำเร็จ กินเวลาทั้งสิ้น 72 วัน และ มีผู้รอดชีวิตทั้งสิ้น 16 คน ใครจะไปคิดว่า จะมีผู้รอดชีวิตอยู่บนภูเขาหิมะเป็นเวลานานถึงขนาดนั้น น่าทึ่งจริงๆครับ เหตุการณ์นี้นับเป็นเหตุการณ์ปาฏิหาย์ ที่ทุกคนจดจำได้กันดีทุกคน ทั้งนี้มีการนำไปทำเป็นหนังด้วย ชื่อเรื่องว่า Alive: The Miracle of the Andes นำแสดงโดยอีธาน ฮอว์ค และจอห์น มัลโก้วิช ใครสนใจเจาะลึกรายละเอียด ลองไปหาดูกันได้นะครับ ว่าแล้วไปดูรูปเก่าๆ รำลึกเหตุการณ์ นั้นกันดีกว่า ที่นี่เลยจ้า

 

 

 

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...