แอปเปิล เตรียมขอคำสั่งศาล แบนโทรศัพท์ ซัมซุง 8 รุ่นในสหรัฐ

 

 

 

 

 

 แอปเปิล เตรียมขอคำสั่งศาล แบนโทรศัพท์ ซัมซุง 8 รุ่นในสหรัฐ 

 

 

โดยโทรศัพท์ที่เข้าข่ายประกอบด้วยกาแล็กซี เอส 4จี, กาแล็กซี เอส2 รุ่นของบ.เอทีแอนด์ที, กาแล็กซี เอส2 สกายร็อคเก็ต, กาแล้กซี เอส2 รุ่นของบ.ที-โมบายล์, กาแล็กซี เอส2 อีพิค 4จี, กาแล็กซี เอส โชว์เคส, ดรอยด์ ชาร์จ และกาแล็กซี พรีเวล

 

คำร้องขอครั้งนี้มีขึ้นหลังจากแอปเปิลประสบชัยชนะ ในคดีความการฟ้องร้องเหนือซัมซุง เรื่องการละเมิดสิทธิบัตร ทำให้ซัมซุงโดนสั่งปรับเป็นเงินกว่า 1.05 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

ราคาหุ้นของบริษัท แอปเปิ้ล สร้างสถิติปิดที่ระดับสูงสุดได้อีกครั้งเมื่อวันจันทร์  หลังเป็นฝ่ายชนะในคดีฟ้องร้องละเมิดสิทธิบัตรต่อบริษัทซัมซุง ของเกาหลีใต้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ แอปเปิ้ลได้ยื่นเรื่องต่อศาล ขอให้เพิกถอนสิทธิ์การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของซัมซุง 8 รุ่นในสหรัฐแล้ว


ขณะที่ ราคาหุ้นของแอปเปิ้ลพุ่งขึ้น 1.88% มาปิดที่ 675.68 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 20,270 บาท) หลังปิดตลาดการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ ส่งผลให้มูลค่าของบริษัทในตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 6.33 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 19.6 ล้านล้านบาท ) ตอกย้ำความเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสดในประวัติศาสตร์อย่างชัดเจน


นอกจากนั้น แอปเปิลยื่นเรื่องต่อศาลเมืองซานโฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อขอคำสั่งของศาล ขอให้เพิกถอนสิทธิ์เบื้องต้น ในการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์โทรศัพท์ของซัมซุง 8 รุ่นในสหรัฐฯ นอกจากนั้น ซัมซุงยังได้ร้องขอต่อศาลเพื่อให้เพิกถอนคำสั่งห้ามวางจำหน่ายสินค้าแท็บเล็ต กาแล็กซี แท็บ 10.1 หลังจากคณะลูกขุนพิจารณาแล้วว่าไม่ได้ละเมิดสิทธิบัตรด้านการออกแบบของไอแพด ของแอปเปิลแต่อย่างใด 
 
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ในรายชื่อดังกล่าวไม่มีสมาร์ทโฟน รุ่น กาแล็กซี่ เอส3 ที่ออกสู่ตลาดในช่วงที่คดีความอยู่ระหว่างการพิจารณา และเป็น 1 ในสมาร์ทโฟนรุ่นที่ แอปเปิ้ลกล่าวหาว่า ละเมิดสิทธิบัตรชัดเจนแต่อย่างใด โดยผู้พิพากษากำหนดวันประกาศคำตัดสินในกรณีดังกล่าวอีกครั้ง วันที่ 20 ก.ย. นี้

 

ขณะที่วานนี้ ซัมซุงประกาศผ่านบันทึกภายในของบริษัท หลังการแพ้คดีความกับแอปเปิลว่า ในเบื้องต้น ซัมซุงพยายามขอเจรจากับแอปเปิลแล้วแทนที่ต้องขึ้นศาล เนื่องจากแอปเปิลเป็นหนึ่งในลูกค้ารายสำคัญของบริษัท อย่างไรก็ดี แอปเปิลกดดันโดยการดำเนินคดีในศาล ทำให้ซัมซุงไม่มีทางเลือก นอกจากต้องฟ้องกลับ เพื่อปกป้องบริษัท

 

ซัมซุงชี้ว่า ในประวัติศาสตร์ยังไม่มีบริษัทใดที่สามารถชนะใจและความรู้สึกของผู้บริโภค รวมถึงยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องไปพร้อมๆกัน  เมื่อสิ่งที่บริษัทนั้นให้ความสำคัญที่สุดคือการแข่งขัน เพื่อหวังเอาชนะกฎหมายด้านสิทธิบัตรโดยสมบูรณ์ มิใช่เพื่อการบรรลุซึ่งนวัตกรรม ซัมซุงเชื่อว่าผู้บริโภคและตลาดจะเข้าข้างฝ่ายที่ให้ความสำคัญกับการคิด้นนวัตกรรมใหม่ๆ มากกว่าการให้ความสำคัญกับฟ้องร้องคดีความ และซัมซุงจะพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นจริง

 

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...