ชานฮอร์สท์…เรืออาถรรพ์แ่ห่งนาซี



ชานฮอร์สท์ (Scharnhorst) คือ เรือรบของนาซี เป็นเรือยักษ์ขนาดใหญ่หนักถึง 40,000 ตัน เป็นเรือที่มีประสิทธิภาพสูงมากในขณะนั้น เพราะนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรของฮิตเลอร์ทุ่มเทความรู้ความสามารถทั้งหมดสร้างมันขึ้นมา มันมีความเร็ว ทนทาน ติดตั้งปืนกลทรงประสิทธิภาพ ยิงข้าศึกได้ในระยะไกลมากและแม่นเหมือนจับวาง ติดตั้งระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเล่นงานข้าศึกได้รวดเร็วก่อนที่จะทันได้เห็นมันด้วยซ้ำ มันจึงเป็นเรือที่มีประสิทธิภาพเหนือเรือรบอังกฤษหลายเท่า

 

แต่ในความอลังการของมันนั้น ทหารเรือเยอรมันคนหนึ่งยืนยันว่า ชานฮอร์สท์ เป็นเรือต้องอาถรรพ์ เพราะมันสร้างความพินาศวอดวายให้กับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับมันอย่างไม่หยุดยั้ง จนในที่สุดก็สร้างจุดจบให้กับตัวมันเอง

 

 

อาถรรพ์ของเรือชานฮอร์สท์ เริ่มขึ้นขณะที่มันถูกสร้างไปได้แค่สองในสามส่วนเท่านั้น ขณะที่วิศวกรกำลังทุ่มกำลังสมองสร้างมันอยู่ เจ้าชานฮอร์สท์ก็พลิกคว่ำเองซะอย่างงั้น โดยปราศจากสาเหตุ เป็นมันได้ทับคนงานตายไปถึง 61 คน และบาดเจ็บอีก 100 คน

 

กว่าจะกว้านชานฮอร์สท์ขึ้นมาใหม่ได้ต้องใช้เวลาถึง 3 เดือน แต่นั่นก็ไม่ได้ยากลำบากเท่ากับการที่จะหาคนมาเป็นลูกเรือ เพราะทุกคนที่ถูกติดต่อไปก็ปฏิเสธกันหมด จนในที่สุดก็ต้องบังคับเกณฑ์เอามา

 

เมื่อชานฮอร์สท์ถูกสร้างจนแล้วเสร็จ และได้รับความทดสอบจนแน่ใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพแล้ว ก็มีการกำหนดพิธีปล่อยเรือลงน้ำ ซึ่งตั้งใจว่าจะจัดอย่างใหญ่โตเพื่อข่มชวัญประเทศอื่น ๆ ในสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของมัน

 

 

ในพิธีปล่อยเรือ คนสำคัญ ๆ ของนาซีต่างมาร่วมงานกันพร้อมหน้า ไม่ว่าจะเป็นฮิตเลอร์ ฮิมเลอร์ เกอริง ไซริส เฮส และดือนิทช์ โดยทุกคนหารู้ไม่ว่า เจ้าชานฮอร์สท์จะสำแดงฤทธิ์เดชของมันในคืนนั้นเอง…

 

มันแล่นออกจากท่าไปเองซะอย่างงั้น!

 

ไม่มีผู้บังคับ ไม่พบเหตุผิดพลาดใด ๆ แต่ชานฮอร์สท์ก็แล่นฉิว แถมยังพุ่งไปขยี้เรือกลไฟ 2 ลำที่มันเจอในทะเลหลวงของแปลกยับเยิน จนพวกนาซีต้องแก้ข่าวที่น่าอับอายนี้ว่า เขาได้ปล่อยเรือลงน้ำในคืนก่อนที่จะทำพิธีปล่อยต่างหาก

 

หลังจากที่ชานฮอร์สท์ถูกนำไปใช้งานจริง ขณะที่มันแล่นเข้าสู่สมรภูมิด้านซิก เยอรมันแพร่ภาพของชานฮอร์สท์ขณะปฏิบัติการโหมป้อนกระสุนมัจจุราช ทำลายล้างเรือและท่าเรือที่ป้องกันตัวเองไม่ได้อย่างเมามัน แต่พวกนาซีปิดเงียบเรื่องที่เรือลำนี้กลืนกินชีวิตลูกเรือของมันเองไปถึง 9 ชีวิต เพราะปืนขนาดยักษ์เกิดระเบิด และอีก 12 ชีวิต เพราะระบบถ่ายเทอากาศขัดข้อง นายทหารตายคาหอบังคับการเสียเอง

 

 

และในการยึดกรุงออสโล ชานฮอร์สท์สร้างความพินาศย่อยยับให้แก่ฝ่ายตรงข้ามได้อย่างเหลือเชื่อ แต่ตัวมันเองก็สร้างความพินาศให้กับลูกเรืออีกครั้งเมื่อเกิดไปลุกไหม้ขึ้นในลำเรือถึง 12 แห่ง จนต้องให้เรือไนซ์เนาลากไปสู่ที่ปลอดภัยอย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ ด้วยกลัวว่าฝ่านอังกฤษจะเห็นเข้า ระหว่างนั้นมันได้ชนเรือเดินสมุทรที่ใหญ่ที่สุดในยุคนั้นชื่อเรือบรีแมนซะจนเกยตื้นเสียหาย ก่อนจะเข้าซ่อมแซมที่อยู่ในเมืองเอลเบ้

 

เมื่อเรือยักษ์บิสมาร์คจมลงเพราะการรุมโจมตีทั้งทางอากาศและทางทะเล เรือรบเทอพิตซ์ถูกตอร์ปิโดจมลงในอ่าวนอร์เวย์ ฮิตเลอร์ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากส่งชานฮอร์สท์ออกจากอู่ไปปฏิบัติภารกิจอีกครั้งหนึ่ง

 

ขณะที่มันแล่นเลียบชายฝั่งนอร์เวย์ มุ่งสู่กองเรือของสัมพันธมิตรในทะเลอาร์คติกของคืนหนึ่ง มันมืดเสียจนมองไม่เห็นเรือยามของฝั่งอังกฤษที่จอดเสียอยู่เพราะถูกชานฮอร์สท์โจมตีในครั้งก่อน เรือรบยักษ์ชานฮอร์สท์แล่นเข้าชนเรือยามฝั่งด้วยเสียงอันดังเหมือนฟ้าผ่า ทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ตัวและพากันออกมาดู แต่ด้วยความเร็วของชานฮอร์สท์ที่ไม่มีเรือใดเทียบได้ มันจึงแล่นหนีเหล่าศัตรูไปในความมืดจนไกลลิบ

 

 

ชานฮอร์สท์หนีเรือของฝ่ายสัมพันธมิตรพ้นไปได้ แต่กลับแล่นเข้าสู่กลุ่มทุ่นระเบิดพลังสูงหลายตัวที่ถูกวางดักเอาไว้ในความมืด และแล้วเจ้าเรือยักษ์ชานฮอร์สท์ผู้สร้างแต่ความวิบัติก็ถึงกาลอวสานในคราวนั้น มันจมดิ่งลงสู่ก้นมหาสมุทรในทันที ลูกเรือทั้งหมดตายเรียบ ถ้าไม่จมลงพร้อมกับเรือก็ถูกทุ่นระเบิดตาย

 

มีทหารเพียงสองคนเท่านั้นที่หนีออกจากเรือที่กำลังจมได้อย่างหวุดหวิด โดยอาศัยเรือยางพาขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัย แต่คล้ายกับว่าชานฮอร์สท์จะไม่อยากปล่อยใครให้รอดไปได้เลยสักคน เพราะไม่กี่เดือนต่อมา กะลาสีเดนตายทั้งสองที่อุตส่าห์รอดตายจากทุ่นระเบิดของอังกฤษ และรอดพ้นจากทะเลอันบ้าคลั่ง ต้องมานอนตายในบ้านพักของตนเองเพราะเครื่องทำความอุ่นในบ้านระเบิด ทั้งที่มันเป็นเครื่องขนาดจิ๋วและใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง…

 

 

 

วันนี้มาดูอาถรรพ์เรือซานฮอร์สท์กันบ้างนะคะ ขนลุก ๆ บรื๋ออ...

 

ขอบคุณที่รับชมค่ะ^^~

12 ก.ย. 54 เวลา 12:20 5,707 8 90
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...