คันหู..วงเทอร์โบ...มันอาจทำให้ฝรั้งมองเมืองไทยเป็นเมืองสังคัง

 

 

 

 

 คันหู..วงเทอร์โบ...มันอาจทำให้ฝรั้งมองเมืองไทยเป็นเมืองสังคัง
 
 

 เป็นประ เด็นร้อนขึ้นมาทันทีหลังจากที่ จ๊ะ "คันหู" วงเทอร์โบออกรายการ "วู๊ดดี้เกิดมาคุย" ซึ่งเหตุผลที่ "วู้ดดี้" นำเรื่องของเธอมาออกรายการก็ไม่ได้เกินจากความคาดหมายเพราะ คลิป "คันหู" ในยูทูปมีคนคลิกเข้าไปดูกว่า 8 ล้านครั้ง

เมื่อวานนี้อาตมาเปิดเข้าไปเจอโดยบังเอิญ ด้วยความสงสัยหลังจากเปิดคลิปอื่นดูเห็นคลิปดังกล่าวขึ้นวิว 8 ล้านกว่า คิดในใจว่า "อะไรมันจะขนาดนั้น" เปิดเข้าไปดู เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมคนดูเธอถึง 8 ล้านกว่าคลิก

เนื้อร้อง 2 แง่ 2 ง่ามคงไม่ใช่ส่วนที่สำคัญที่สุดที่ทำให้มียอดผู้ชมมากถึง 8 ล้านครั้ง แต่ด้วยท่าเต้นประหลาดของเธอ "ท่าเกาหูและยกขาเกาะหู" ของเธอในอดีตอาจมีหญิงไทยเพียงไม่กี่คนที่กล้าแสดงท่าแบบนั้นบนเวที

อาตมาค่อนข้างเป็นพระสมัยใหม่ไม่ใช่คนจิตใจคับแคบ แต่เมื่อได้เห็นคลิปการแสดงดังกล่าวรู้สึกทันทีว่า "มันทุเรศมาก" กิริยาท่าทางแบบนั้นไม่ใช่สิ่งที่สมควรแสดงให้ใครดูในที่สาธารณะ เธอไม่ใช่อาชญากร เธอไม่ได้ค้ายา ก็จริงไม่มีใครเถียง แต่ถ้าเธอกำลังทำให้เยาวชนซึ่งยังอ่อนด้อยในการรับสื่อชื่นชมในตัวเธอ หันมาแสวงหาการยอมรับในแบบเดียวกับเธอจะเกิดอะไรขึ้นกับสังคมไทย ?

คนเราจะคันตรงไหนจะเกาตรงไหนคงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ลองนึกภาพดูว่าถ้าหญิงชายไทยรู้สึกคัน(หู)ในที่สาธารณะ แล้วต่างคนก็ต่างเกาจะเกิดอะไรขึ้น ยิ่งการแสดงบนเวทีแสดงท่าเกาแบบนั้น ฝรั่งเปิดเข้าไปเจอคงจะงง...กับสิ่งที่คนไทยกำลังให้ความสนใจ "การเกาสังคังบนเวทีการแสดง"

ท่าไมเคิ้ลแจ็คสันลูบเป้ามันยังมีท่าทางอย่างอื่นที่มีความลงตัวและต้องใช้ความสามารถในการเต้น แต่เพลง "คันหู" ดังกล่าวไม่ได้มีท่วงท่าที่แสดงว่าเป็นความสามารถของการเต้น คนที่ดูการแสดงส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ไปชื่นชมความสามารถในการแสดงแบบเดียวกันกับไมเคิลแจ็คสัน การกล่าวอ้างว่า "ไมเคิลแจ็คสัน" ยังลูบเป้าดังไปทั่วโลก จึงเป็นคำกล่าวอ้างที่ฟังไม่ขึ้น

เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ที่มีความสนใจในเรื่องเพศ แต่ถ้ามันมีมากเกินไปมันจะนำไปสู่ความเสื่อมถอยของสังคม ถ้าวันๆคนเราครุ่นคิดอยู่แต่เรื่องเพศ ความสามารถในการพัฒนาตนเองในด้านอื่นที่สร้างสรรค์ย่อมลดลง กิจกรรมที่ส่งเสริมกามารมณ์จึงเป็นสิ่งที่ต้องมีการควบคุมให้อยู่ในระดับที่มีความเหมาะสม

สื่ออินเตอเน็ตเป็นสื่อเปิดหากเรามีบุตรหลานที่ยังอยู่ในวัยเยาว์พึงดูแลอย่างไกล้ชิดในการรับสื่อดังกล่าว ยุคอินเตอร์เน็ตเป็นยุคที่ "คนฉลาดฉลาดขึ้น" ในขณะเดียวกันกับ "คนโง่ก็โง่ขึ้น" เช่นกัน เพราะความสะดวกรวดเร็วในการแสวงหาความรู้และการแสวงหาสิ่งมัวเมา ถ้าเท่าทันก็ได้ประโยชน์ แต่ถ้าไม่เท่าทันก็ได้รับทุกข์โทษจากมันเช่นกัน

 


 


 


 

5 ก.ย. 54 เวลา 14:30 11,965 32 120
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...