10 เรื่อง... ที่คุณอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับ “พุ่มพวง ดวงจันทร์”

 

 

 

 

 

 

 

10 เรื่อง... ที่คุณอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับ “พุ่มพวง ดวงจันทร์”

 

 

ตัวอย่าง คำโปรยของภาพยนตร์ที่หลายๆคนกำลังจับตามองในขณะนี้เรื่อง "พุ่มพวง (The Moon)" ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่จะเล่าเรื่องของราชินีผู้สร้างตำนานให้กับวงการเพลงลูกทุ่ง "พุ่มพวง ดวงจันทร์" คำโปรยนี้ก็สามารถบ่งบอกได้ถึงความเป็นมาของพุ่มพวงได้อย่างดี จากเด็กสาวบ้านนอกที่ใฝ่ฝันจะเป็นนักร้องลูกทุ่ง ซึ่งในที่สุดเธอก็ทำได้ อีกทั้งยังเป็นนักร้องลูกทุ่งที่เรียกได้ว่า ราชินีแห่งวงการลูกทุ่งไทยเลยทีเดียว 

หลายๆ คนอาจจะสงสัย โดยเฉพาะเด็กรุ่นหลังๆที่ไม่ทันอยู่ในยุคที่พุ่มพวง ดวงจันทร์ ดังที่สุด และอาจสงสัยที่มาที่ไปของ ผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลคนนี้ เธอเป็นใคร แล้วทำไมเธอถึงดังระดับตำนาน... ไปดูกัน

 

10 เรื่องที่คุณอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับ พุ่มพวง ดวงจันทร์

   

1.ชื่อจริง และครอบครัว --- ความจริงแล้ว ราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ มีชื่อจริงว่า รำพึง จิตรหาญ เกิดที่บ้านหนองนกเขา ตำบลไพรนกยูง อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาทโตที่ตำบลบ่อสุพรรณ อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรีเป็นบุตรีของนายสำราญ และนางเล็ก จิตรหาญ ครอบครัวมีอาชีพรับจ้างทำไร่อ้อย เกิดในครอบครัวยากจน เป็นลูกคนที่ 5 ของบ้านในจำนวน 12 คน 

   

2.อ่านหนังสือไม่ออกเขียนไม่ได้ --- เธอเรียนที่โรงเรียนบ้านดอนตำลึง แต่ด้วยความที่เธอมีน้องอีก 6 คน ประกอบกับค่านิยมของแม่นั้นเห็นว่าผู้หญิงไม่จำเป็นต้องเรียนมา เธอไม่จบแม้แต่ชั้น ป.2 ในวัยเด็กพอน้องหลับหมด เธอไปหาของขาย เก็บผัก หาดอกไม้ป่า หาบไปขายตามโรงงาน นั่นจึงทำให้เธออ่านหนังสือไม่ออกและเขียนไม่ได้

 

3.เคยถูกแบนไม่ให้ขึ้นประกวด --- พุ่มพวง ชื่นชอบการร้องเพลงลูกทุ่งตั้งแต่เด็ก ถึงแม้ว่าเธอจะอ่านหนังสือไม่ออกแต่ก็มีความจำดีเยี่ยม เธอเริ่มหัดร้องเพลงและเข้าประกวดตามงานต่าง ๆ ตั้งแต่อายุ 8 ปี โดยใช้ชื่อว่า น้ำผึ้ง ณ ไร่อ้อย เธอเข้าประกวดล่ารางวัลไปทั่ว ตั้งแต่อำเภอศรีประจันต์ บางปลาม้า แล้วข้ามจังหวัดไปถึงอำเภอเสนา ผักไห่ มหาราช วิเศษชัยชาญ บ้านแพรก หนองโดน พระพุทธบาท สระบุรี ด้วยเหตุนี้หลังๆคนที่เข้าประกวดจึงมีการแบนเธอเกิดขึ้น ถึงขนาดว่าจะไม่ยอมขึ้นประกวดถ้า น้ำผึ้ง ณ ไร่อ้อย ขึ้นแข่งด้วย เพราะแข่งไปก็ไม่ชนะ

   

4.เพลงแรกของพุ่มพวง --- เมื่ออายุได้ 15 ปี ไวพจน์ เพชรสุพรรณ นำวงดนตรีมาแสดงที่วัดทับกระดาน เธอได้ร่วมร้องเพลงและแสดงความสามารถจนไวพจน์เห็นความสามารถ เกิดความเมตตาจึงรับเป็นบุตรบุญธรรมและพาไปอยู่กรุงเทพฯ เริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นหางเครื่องและนักร้องพลาง ๆ ก่อนที่ไวพจน์จะแต่งเพลงและอัดแผ่นเสียงชุดแรกให้ ชื่อเพลง แก้วรอพี่ เพลงแต่งแก้กับเพลง "แก้วจ๋า" โดยใช้ชื่อในการร้องเพลงว่า น้ำผึ้ง เมืองสุพรรณ 
  

5.คนจะดังฉุดไม่อยู่ --- ชื่อเสียงของพุ่มพวงดังระดับประเทศครั้งแรก เมื่อบังเอิญได้มาร้องเพลงสาวนาสั่งแฟน ของครูลพ บุรีรัตน์ ซึ่งเพลงนี้ความจริงครูลพแต่งให้กับศิรินทรา นิยากร แต่ในช่วงการคัดเลือกเพลง ทางอาโซนาต้นสังกัด หยิบเพลงนี้ออกมาให้พุ่มพวงร้อง และนำเพลงของครูกานต์ เข้าไปแทนในชุดของศิรินทรา คนจะดังนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ เพลงนี้เปิดเชียร์อยู่ไม่นานนักก็ได้รับความนิยมสูงสุด โดยเฉพาะท่อนที่ร้องว่า "...ซื้อผ้าตาๆ มาฝากน้องบ้างเน้อ... เออ..." จะมีคนฟังร้องรับทุกครั้ง

   

6.มีพรสวรรค์แล้วต้องมีพรแสวงด้วย --- การที่จะก้าวขึ้นสู่บัลลังก์ราชินีลูกทุ่งนั้นแค่พรสวรรค์ และน้ำเสียงอย่าง เดียวไม่พอส่วนประกอบอื่นๆก็สำคัญไม่แพ้กัน พุ่มพวง ดวงจันทร์ได้ชื่อว่าเป็นที่สุดของวงการลูกทุ่งบุกเบิก เพราะว่าเธอลงทุนไปดูโชว์ถึง ลาสเวกัส ประเทศ สหรัฐอเมริกา ซื้อมิวสิควิดีโอนักร้องต่างชาติมาดูแล้วก็เก็บเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมาพัฒนา ต่อยอดจนทำให้เวทีคอนเสิร์ตของเธอมีสีสันต่างจากศิลปินลูกทุ่งรุ่นเดียวกัน อย่างสิ้นเชิง ทั้งลีลาแดนเซอร์ เสื้อผ้าการแต่งกายทั้งของเธอเองและของแดนเซอร์ ซึ่งก็เรียกเสียงฮือฮาได้ทุกครั้งที่ปรากฎตัวบนเวที

   

7.ยกระดับเพลงลูกทุ่ง --- พุ่มพวง ดวงจันทร์ นับเป็นนักร้องลูกทุ่งคนแรก ที่ทำให้ช่องว่างระหว่างเพลงของคนเมือง และคนชนบทเข้ามาใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น เมื่อพุ่มพวง ดวงจันทร์ สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการขึ้นเวทีใหญ่ร้องเพลงที่โรงแรมดุสิตธานีในการแสดงดนตรีการกุศล “พุ่มพวง ดวงจันทร์ อินคอนเสิร์ต” ท่ามกลางกลุ่มคนชั้นสูงทั้งหลาย ซึ่งในสมัยนั้นเวทีโรงแรมดุสิตธานีเป็นเวทีที่มักจะจัดคอนเสิร์ตเพื่อให้เหล่าชนชั้นสูงมาดูกัน และที่สำคัญกว่านั้นในคอนเสิร์ตครั้งนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาธินัดดามาตุ และพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ได้เสด็จทอดพระเนตรการแสดงดนตรีครั้งนี้ด้วย และเกิดเหตุการณ์ที่ทุกคนไม่นึกฝันนั่นคือ องค์ภาเสด็จสู่หน้าเวทีเพื่อพระราชทานมาลัย หากการพระราชทานครั้งนี้จะให้เลือกใช้ศัพท์ “สวม”มาลัย หรือ “เสี่ยง” มาลัย ขอเลือกใช้ประการหลัง เพราะกิริยาการพระราชทานครั้งนี้มีลักษณะเหมือนโยนเข้าคอ คงเป็นเพราะไม่ทรงเคยชิน นับแต่เริ่มแสดงพุ่มพวง ดวงจันทร์โชว์ผลงานเพลงไม่น้อยกว่า 15 เพลง ทั้งช้าเร็ว เก่า-ใหม่ แต่ที่พอพระราชหฤทัยองค์ภามากที่สุดคือ “กระแซะเข้ามาซิ” เพราะพุ่มพวง ดวงจันทร์ ต้องร้องเพลงนี้ให้ใคร ๆ ฟังซ้ำอีกครั้งหนึ่ง “เป็นต้องพระประสงค์” เธอว่าอย่างนั้น 

   

8.เข้าสู่วงการภาพยนตร์ --- พุ่มพวงเข้าสู่วงการภาพยนตร์ในปี พ.ศ. 2526 และแสดงหนังเรื่องแรก สงครามเพลง สร้างโดยฉลอง ภักดีวิจิตร และอีกหลายเรื่อง ในช่วงที่แสดงภาพยนตร์เรื่อง มนต์รักนักเพลง ได้พบกับ (ไกรสร แสงอนันต์) ผลงานการแสดงของเธอในฐานะนางเอก อย่างเช่น สงครามเพลง, รอยไม้เรียว, ผ่าโลกบันเทิง, นักร้อง นักเลง, นางสาวกะทิสด, มนต์รักนักเพลง, ลูกสาวคนใหม่, อีแต๋น ไอเลิฟยู, หลงเสียงนาง, จงอางผงาด, ขอโทษทีที่รัก, คุณนาย ป.4, อาจารย์เด๋อเจอพุ่มพวง, สาวนาสั่งแฟน, เสน่ห์นักร้อง, นางสาวยี่ส่าย (ภาพยนตร์โทรทัศน์) เป็นต้น

   

9.รางวัลอันทรงเกียรติ --- พุ่มพวง ดวงจันทร์ ได้รับรางวัลพระราชทานเสาอากาศทองคำพระราชทาน จากสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี จากเพลง “อกสาวเหนือสะอื้น” นอกจากนี้ยังได้เป็นผู้ร้องเพลง "ส้มตำ"พระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี
  

10.จากไปด้วยโรค เอสแอลอี --- โรคเอสแอลอี (Systemic Lupus Erythematosus - SLE) หรือโรคลูปัส จัดเป็นโรคที่เรื้อรังชนิดหนึ่ง ที่อยู่ในกลุ่มภูมิคุ้มกันเพี้ยน โรคเอสแอลอีเกิดจากการที่ผู้ป่วยมีการผลิตโปรตีนของภูมิคุ้มกันในเลือดที่เรียกว่า “แอนติบอดี้” ขึ้นมามากเกินปกติ  จากปกติที่ภูมิคุ้มกันในร่างกายจะต่อต้านเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอม เช่น แบคทีเรีย หรือไวรัสจากภายนอกร่างกาย แต่กลับต่อต้านร่างกายของตัวเอง จนทำให้เกิดการอักเสบที่อวัยวะต่างๆ ถ้าเป็นรุนแรงจะมีการทำลายอวัยวะภายในด้วย เช่น ไต หัวใจ ปอด และระบบประสาท และพุ่มพวง เธอป่วยด้วยโรคเอสแอลอีหรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง อาการขั้นรุนแรงลุกลามถึงไต เธอรักษาอยู่โรงพบาลอยู่นานครั้นเมื่อพุ่มพวงอาการดีขึ้น ทางด้านญาติของพุ่มพวงมีความเห็นว่าควรรักษาด้วยไสยศาสตร์ เนื่องจากเชื่อว่าถูกปองร้ายด้วยไสยศาสตร์ด้วยวิธีการคุณไสย จึงเดินทางออกจากโรงพยาบาลศิริราชเพื่อไปรักษาด้วยวิธีทางไสยศาสตร์ ไปจังหวัดพิษณุโลกโดยเดินทางด้วยรถตู้ แต่หลังจากกราบไหว้พระพุทธชินราช ก็เกิดอาการช็อคและหมดสติ ญาตินำส่งโรงพยาบาลพุทธชินราช กระทั่งถึงแก่กรรมอย่างสงบ

  น่าเสียดายที่คนรุ่นหลังๆ ได้เพียงแต่สัมผัสความเป็นตำนานของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ผ่านบทเพลงที่เธอถ่ายทอดไว้ เธอจากไปด้วยวัยเพียง 31 ปีั้ เท่านั้น ชีวิตของเธอจริงๆแล้วน่าสงสาร บนเวทีเธอสร้างความสุขให้กับผู้ชมผู้ฟังจนใครๆก็ยกย่องเธอ เบื้องหลังเวทีเมื่อเธอทุกข์ใจ ก็ต้องแอบร้องไห้ข้างเวที แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่เธอทิ้งไว้นั้นช่างมีคุณค่าและก็คงไม่มีใครขึ้นมาแทน ที่เธอได้ทั้งจากวงการเพลงลูกทุ่ง และจากใจของผู้ฟังทุกคน

 

 

  "นักร้องบ้านนอกคนนี้ จะกล่อมน้องพี่และแฟนเพลง"

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...