แรงกระชากเรตติ้งให้ดังจริงหรือ?

ในยุคที่ศิลปินเกลื่อนเมือง การที่จะให้ เพลง และ ตัวศิลปิน เป็นที่ติดตา คุ้นหู ดูจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แต่สิ่งหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นได้มาก คือใช้ มิวสิกวิดีโอ เป็นเครื่องดึงดูดใจ จึงไม่น่าแปลกที่จะเห็นศิลปินหลายๆ คน ทำมิวสิกวิดีโอออกมาให้ดูแรง วาบหวิว หวือหวา เพื่อเรียกเรตติ้งให้อัลบั้มนั้นๆ

เริ่มจาก เกิร์ลลี่ เบอร์รี่ กลุ่มนักร้องหญิง ที่ทำมิวสิกวิดีโอออกมาแต่ละตัว ล้วนแต่ได้รับกระแสวิพากษ์วิจารณ์หนาหู แต่ดูท่าจะหนักไปทางด้านลบซะมากกว่า ก็จะไม่ให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ยังไงไหวล่ะจ๊ะ ก็เล่นเห็นทั้งเนื้อ นม ก้น ของสี่สาวกันเลยทีเดียว

สำหรับภาพในมิวสิกวิดีโอล่าสุด ชอบเป็นของเธอ ที่ทำเอาหนุ่มๆ ทั้งหลายได้ครางฮือไปกับความวาบหวิว แต่นอกเหนือไปกว่านั้น คือกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมของเนื้อหา และการแต่งกายของทั้งสี่สาว ที่เน้นโชว์เซ็กซี่ มากกว่าโชว์เสียงร้องของพวกเธอเสียอีก

 แต่ต้องยอมรับว่าคนส่วนใหญ่ ติดภาพลักษณ์เซ็กซี่ของพวกเธอกันแล้ว ทุกอัลบั้มที่ออกมา เรียกว่าคนจะต้องรอชมมิวสิกวิดีโอของสาวๆ ไม่ว่าจะเป็นมิวสิกวิดีโอตัวก่อนหน้านี้ อย่างเพลง ตุ๊มต่อม ที่ใส่กางเกงสั้นจู๋ มายืนเต้นอยู่ใจกลางเมือง หรือ เพลง เรียลิตี้ ที่มีฉากเต้น ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นการเต้นยั่วซะมากกว่า

แม้ว่าจะมี มิวสิกวิดีโอ ที่สามารถเรียกกระแสได้ด้วยภาพลักษณ์ที่เซ็กซี่ เน้นโชว์ของที่มี แต่สี่สาวก็อยากให้คนมองผลงานที่เนื้อหาของเพลงและการพัฒนาเสียงร้องของพวก เธอมากกว่า แหม...จะให้สนใจเพลงมากกว่าได้ไงล่ะจ๊ะ ก็มิวสิกวิดีโอมันมีอะไรที่น่าสนใจมากกว่าเพลงเสียอีก ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า เมื่อสี่สาวหันมาขายความเซ็กซี่ ก็เกิดได้สมใจอยาก และเชื่อว่าทุกอัลบั้มใหม่ของพวกเธอ ก็มีคนจ้องดูมิวสิกวิดีโอของ เกิร์ลลี่ เบอร์รี่ ทั้งนั้น ว่าจะซาบซ่านขนาดไหน หรือไม่จริง

ข้ามมา รุ่นพี่อย่างสาว "ปาน" ธนพร แวกประยูร เธอคนนี้นอกจากจะมีเสียงดีเป็นทุนเดิมแล้ว มิวสิกวิดีโอของเธอ ก็ยังช่วยให้ชื่อของเธอ แจ้งเกิดเป็นที่รู้จักในวงการเพลง ตั้งแต่อัลบั้มแรก ที่เปิดตัวมาในเพลง ตบมือข้างเดียว ที่นอกจากจะมีคำพูดแรงๆ ในเนื้อร้องแล้ว มิวสิกวิดีโอ ยังเลือกเอา 3 นักแสดงดัง อย่าง "นิ้ง" กุลสตรี ศิริพงศ์ปรีดา พล ตัณฑเสถียร และ "ติ๊ก" กัญญารัตน์ จิรรัชชกิจ มาเชือดเฉือนอารมณ์กัน เสนอเนื้อหาในทำนองรักสามเส้า แย่งชิงความรัก ซึ่งสามารถเรียกความสนใจจากคอเพลงได้ไม่น้อย จึงกลายเป็นเอกลักษณ์ของปาน ที่ทำมิวสิกวิดีโอแนวนี้ออกมาตลอด และมิวสิกวิดีโอทุกตัวก็ได้รับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทุกอัลบั้มก็ว่าได้

นอก จากความแรงของเนื้อหาเพลง และเนื้อหาของเรื่องแล้ว มิวสิกวิดีโอของปาน ยังเลือกหยิบเอาสถานการณ์ร้อนๆ ของคนบันเทิงในขณะนั้น มาเป็นจุดขายอีกด้วย อย่างเพลง เหตุผล และ บาปกรรมมีจริง ที่มีมิวสิกวิดีโอออกมาแล้วมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่อนเน็ต ว่าเนื้อหาของมิวสิกวิดีโอบางตอน ดันไปตรงกับชีวิตของดาราบางคนอีกด้วย ก็เพราะเนื้อหาที่ยังแรงเหมือนเดิมเลยนะสิจ๊ะ ก็ดูอย่างประโยคฮิตของ "ได๋" ไดอาน่า จงจินตนาการ กับคำที่ว่า มะม่วงแรด...เงียบ แม้ว่าจะอ้อมนิดๆ แต่ก็เป็นที่เข้าใจของคนทั่วไป นี่ยังไม่รวมฉากตบตีกัน (อีกแล้ว) ก็แรงใช้ได้เลยทีเดียว รวมทั้งเนื้อร้องที่ว่า เหตุผลควายๆ ที่คนเลวๆ ชอบใช้ คงโดนใจดำของใครๆ หลายคนน่าดู

ปกติเคยขายเพลงเนื้อหาใสๆ แต่กระแสตอบรับก็ไปได้แค่เรื่อยๆ แต่พอ ปนัดดา เรืองวุฒิ เลือกที่จะเปลี่ยนแนวเพลง เพียงแค่ครั้งแรก ก็ทำเอาเธอดังเปรี้ยง เพลงและมิวสิกวิดีโอ เป็นที่พูดถึงในชั่วเวลาพริบตา กับเพลง คนเลวที่รักเธอ ที่มีเนื้อหาทำนองว่า คนที่มาทีหลัง ถึงรู้ว่าผิด แต่ก็ไม่สนใจ ใครจะว่าเลวยังไง แต่ถ้าเลวแล้วมีความสุขก็จะขอเลวต่อไป และในอัลบั้มต่อๆ มาของ ปนัดดา ก็ยังคงเลือกใช้เพลง และมิวสิกวิดีโอที่มีเนื้อหารัก เกลียด เจ็บแรง  ทำนองเดียวกันกับปาน ซึ่งนั่นก็ไม่ทำให้ปนัดดาผิดหวัง แลกกับการโดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์นิดหน่อย แต่คนรอคอยดูว่ามิวสิกวิดีโอในอัลบั้มต่อๆ ไป จะแรงยังไง ก็ถือว่าคุ้มใช่ย่อยเมื่อไหร่

แม้ว่าจะมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์แค่ไหนก็ ตาม แต่เหล่าศิลปิน ก็ยังอยากที่จะให้มองที่ผลงานเพลงมากกว่าที่จะใส่ใจในมิวสิกวิดีโอ แต่ก็อย่างว่าแหละ ใครๆ ก็อยากที่จะดูของดี แต่ก็ดูด้วยเหตุผล ว่ามันคือแค่การแสดง

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...