ตำนานปลาดุกยักษ์.. กับแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น!!

 

 

 

ตำนานปลาดุกยักษ์.. กับแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น!!

 

 

เราทราบกันดีว่าประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นหมู่เกาะนั้นเกิดแผ่นดินไหวบ่อย… จากข้อมูลทางด้านธรณีวิทยา ประเทศญี่ปุ่นนั้น ตั้งอยู่บน Ring of Fire หรือวงแหวนไฟ ซึ่งเป็นแนวรอยเลื่อนของเปลือกโลกในมหาสมุทรแปซิฟิก จึงทำให้เกิดแผ่นดินไหวตลอดทั้งปี.. ทั้งที่สามารถรู้สึกได้ และรู้สึกไม่ได้!!!

<h2>แต่…ญี่ปุ่นก็มีความเชื่อมาแต่โบราณด้วยว่า ที่แผ่นดินไหวนั้นเป็นเพราะปลาดุกยักษ์ที่อาศัยอยู่ใต้พื้นโลกเกิดการขยับตัวดิ้นพล่านๆๆๆๆๆ</h2>

 

ซึ่งความเชื่อนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่คิดเองเออเอง…

หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงทางชายฝั่งทะเลตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นในปี 2011 ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยโกเบ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างปลาดุกและแผ่นดินไหวว่า…”ปลาดุกเป็นสัตว์ที่มีความรู้สึกไวต่อกระแสไฟฟ้าและแรงสั่นสะเทือน จึงมีความเป็นไปได้ที่จะรับรู้ถึงการเกิดแผ่นดินไหวก่อนที่มนุษย์และสัตว์อื่นๆจะรู้สึกกัน แต่ปัจจุบันยังไม่สามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ได้ว่า อาการดิ้นพล่านๆของปลาดุกกับปฏิกริยาที่ไวต่อกระแสไฟฟ้าและการสั่นสะเทือนนี้ จะเกี่ยวข้องโดยตรงกับการทำนายการเกิดแผ่นดินไหวได้ล่วงหน้าหรือไม่อย่างไร และมีสัตว์หลายชนิดที่มีสัญชาติญาณและประสาทสัมผัสที่ไวต่อการรับรู้ถึงความผิดปกติของธรรมชาติ เช่น การที่มดขนไข่หนีก่อนที่จะเกิดฝนตกน้ำท่วม…

ศาลเจ้าคาชิมะ ในจังหวัดอิบารากิ

เทพเจ้าคาชิมะ

นอกจากนี้ที่จังหวัดอิบารากิ (茨城県) นั้น มีศาลเจ้าชื่อคาชิมะ (鹿島神宮) สร้างขึ้นเมื่อ 660 ปีก่อนคริสตกาล เป็นสถานที่บูชาเทพเจ้าคาชิมะเพื่อขอให้คุ้มครองจากภัยแผ่นดินไหว ซึ่งมีรูปสลักปลาดุกยักษ์ถูกหินขนาดใหญ่เรียกว่าคานาเมะอิชิ (要石) กดทับเอาไว้ นอกจากนี้ยังมีแท่งหินขนาดใหญ่ฝังลึกลงไปในดิน โดยเทพเจ้าคาชิมะจะใช้หินนี้กดทับหัวและหางของปลาดุกยักษ์ใต้พิภพเอาไว้ไม่ให้เคลื่อนไหว ซึ่งจะเป็นที่มาของแผ่นดินไหวนั่นเอง… แต่เมื่อใดที่เทพเจ้าไม่ได้ใส่ใจกับหินนั้นหรือต้องไปเทพเจ้าองค์อื่น หินที่กดทับไว้ก็จะหลวม ทำให้ปลาดุกยักษ์ขยับตัวและเกิดแผ่นดินไหวขึ้น

หินคานาเมะที่โผล่ขึ้นมาบนพื้นดิน

หินส่วนที่โผล่ขึ้นมาบนพื้นดินมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่ส่วนที่ฝังอยู่ใต้ดินนั้นว่ากันว่ามีขนาดใหญ่โตมาก ไม่มีทางที่จะขุดออกมาได้โดยเด็ดขาด ใหญ่ถึงขนาดที่มิสึคุนิ โตกุกาว่า (Mitsukuni Tokugawa : 光圀徳川) เจ้าเมืองมิโตะ ได้สั่งให้คนขุดหินนั้นขึ้นมาโดยใช้เวลาไปถึง 7 วัน 7 คืน ก็ยังไม่สามารถขุดถึงโคนหินได้เลย!!!!!!!

Mitsukuni Tokugawa

ความเชื่อเรื่องปลาดุกยักษ์กับแผ่นดินไหวนั้นมีที่มาที่ไป หรือเริ่มต้นจากไหนไม่มีหลักฐานบันทึกไว้แน่ชัด แต่เชื่อกันว่าน่าจะมีมาแต่โบราณแล้ว ในปี 1855 เมื่อครั้งที่เกิดแผ่นดินไหว Ansei Edo มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 4,700 – 11,000 คน ได้มีการแก้เคล็ดด้วยการพิมพ์ภาพสีเป็นรูปปลาดุกยักษ์ โดยมีหินคานาเมะขนาดใหญ่กดทับอยู่ ออกมาวางจำหน่ายและจ่ายแจกเป็นจำนวนมาก จึงยิ่งทำให้ความเชื่อนี้แพร่สะพัดมากยิ่งขึ้น…

นอกจากนี้ยังมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์อีกชิ้นหนึ่ง คือ บันทึกประสบการณ์อันเซ (Ansei-Kenbunshi : 安政見聞誌) ซึ่งเขียนขึ้นในสมัยอันเซที่ 3 (ปี 1856) คือหลังจากที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว Ansei Edo ผ่านไป 1 ปี

ในบันทึกนี้ได้กล่าวไว้ว่า……….

“มีชายชื่อชิโนซาคิซึ่งเป็นคนที่ชอบจับปลามาก ทุกๆเย็นจะต้องไปจับปลาไหลที่ริมแม่น้ำอยู่เสมอ วันหนึ่งเขาก็ได้ออกไปจับปลาไหลเช่นเดิม แต่จับไม่ได้สักตัวเดียวเพราะปลาดุกที่ดิ้นพล่านทั่วแม่น้ำ เขาจึงสงสัยว่าคืนนี้เกิดอะไรขึ้น ทำไมปลาดุกจึงดิ้นพล่านๆเช่นนี้ พลันนึกไปถึงเรื่องปลาดุกดิ้นพล่านจะเป็นสัญญาณบอกถึงแผ่นดินไหวที่จะเกิดในไม่ช้า ซึ่งถ้าเกิดแผ่นดินไหวอย่างหนักจริงๆคงจะลำบากเป็นแน่ จึงรีบกลับไปบ้านและย้ายเครื่องเรือนทรัพย์สมบัติมีค่าต่างๆออกมาไว้ข้างนอกบ้าน ฝ่ายภรรยาเห็นเช่นนั้นจึงหัวเราะเพราะเห็นเป็นเรื่องตลก ในคืนนั้นก็เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขึ้นจริงจนบ้านเรือนพังราบคาบ แต่ทรัพย์สินที่ทางสามีขนมาไว้ข้างนอกนั้นปลอดภัย ฝ่ายเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ข้างๆก็เป็นคนที่ชอบจับปลา คืนนั้นก็ออกไปหาปลาที่แม่น้ำ และเห็นปลาดุกดิ้นพล่านเช่นกัน แต่ไม่ได้ใส่ใจ ยังคงหาปลาต่อไป จนกระทั่งเกิดแผ่นดินไหว จึงรีบกลับบ้านด้วยความตกใจ แต่พบว่าทั้งบ้านและโกดังพังพินาศลงหมดแล้ว สูญเสียทรัพย์สมบัติทุกอย่างไปหมด…”

บ้านที่พังพินาศจากเหตุแผ่นดินไหว

จากที่ได้กล่าวมาแล้วว่าปลาดุกเป็นสัตว์ที่มีความไวในการรับรู้กระแสไฟฟ้า โดยจะรับรู้กระแสไฟฟ้าได้ไวกว่ามนุษย์หรือปลาคาร์ปได้ถึง 1 ล้านเท่า หากเราโยนถ่านไฟฉายลงไปในทะเลสาบเพียงแค่ 1 ก้อน ปลาดุกที่อยู่ไกลออกไปหลายกิโลเมตรก็สามารถรับรู้ถึงกระแสไฟฟ้าจากถ่านไฟฉายก้อนนั้นได้

การเกิดแผ่นดินไหวหรือการขยับเลื่อนของเปลือกโลก ย่อมต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ดังนั้นการที่ปลาดุกจะรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของกระแสไฟฟ้าใต้พื้นดิน และแสดงอาการดิ้นพล่านผิดปกติจึงไม่ใช่เรื่องที่แปลก แต่การแสดงอาการผิดปกติของปลาดุกนั้น ไม่ได้จำกัดเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของกระแสไฟฟ้าใต้พื้นดินเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับปัจจัยอื่นๆอีกมาก จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่า การที่ปลาดุกดิ้นพล่านๆกับการเกิดแผ่นดินไหวจะมีความสัมพันธ์กันมากน้อยเพียงใด

และในขณะเดียวกัน ก็คงไม่สามารถปฏิเสธความเชื่อแต่ครั้งโบราณ เรื่องปลาดุกกับแผ่นดินไหว ของชาวญี่ปุ่นได้เช่นเดียวกัน

 

ผู้เขียน : NattraQ http://anngle.org/th/

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...