พระแสงปืนข้ามแม่น้ำสะโตง"จากอโยธยาถึงรัตนโกสินทร์"

"พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง" ยังมีอยู่ไหม

องค์จริงสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้หายไปแล้วตั้งแต่กรุงศรีอยุธยาล่มไปครับ

แต่ในสมัย ร.๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้ทรงจำลองขึ้นมาใหม่แทนพระแสงปืนองค์เดิม และก็เป็นหนึ่งในเครื่องสูงที่ใช้ประกอบพิธีบรมราชาภิเษกองค์พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี มาตั้งแต่สมัย ร.๒ เป็นต้นมาครับ

ภาพพระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๑

ปัจจุบันพระแสงปืนคาบชุดข้ามแม่น้ำสะโตง(ชื่ออย่างเป็นทางการ) ได้ถูกเก็บรักษาไว้ในส่วนของสำนักพระราชวังครับ ไม่ได้ปรากฏแก่สายตาภายนอกนานแล้ว

พระแสงปืนต้นนั้น องค์จริงเป็นปืนแบบ "คาบชุด(ไฟ) : MATCH LOCK"

แต่ในหนังนั้นทำเป็นแบบ คาบศิลา ( FLINT LOCK ) ซึ่งผิดไปจากความเป็นจริงครับ

รูปนี้เป็น ปืนคาบชุด( MATCH LOCK) ในสมัยใกล้เคียงกับรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชครับ แต่ปืนชุดนี้เป็นของญี่ปุ่นนะครับ

ภาพจากฉากที่สมเด็จพระนเรศวรทรงใช้พระแสงปืนยิงสุรกรรมาจากอีกฝั่งของแม่น้ำสะโตง(ปืนที่ใช้ในฉากนั้น เป็นปืนที่ ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ทรงจัดสร้างขึ้นมาใหม่สำหรับใช้ในภาพยนตร์)

Clip ตัวอย่างการจุดชุดไฟ และยิงปืนคาบชุดไฟครับ

พระแสงปืนข้ามแม่น้ำสะโตง"จากอโยธยาถึงรัตนโกสินทร์"

อย่างที่ทราบกันดีว่าบรรดาเครื่องศาสตราวุธอันเป็นเกียรติยศในราชวงศ์สมัยกรุงศรีอยุธยานั้นได้สูญหายไปจนหมดสิ้นเมื่อได้เสียกรุงให้แก่พม่า ไม่เว้นแม้กระทั้งพระแสงปืนอันล้ำค่าที่ได้มีการจารึกมาแต่กรุงเก่าและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ทั้งของไทยและพม่าเอง พระแสงปืนนั้นคือ"พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง"

โดยมีที่มาดังนี้ ณ แม่น้ำสะโตงซึ่งมีความกว้างประมาณ ๔๐๐ เมตร ทางพม่าได้ไล่ยิงปืนใหญ่ข้ามแม่น้ำมาหวังเด็จชีพพระนเรศวร สมเด็จพระนเรศวรทรงประทับอยู่ริมแม่น้ำใช้พระแสงปืนยาว ๙ คืบ(แล้วทรงอธิฐานถ้าการ กู้ชาติสำเร็จขอให้ยิงถูกข้าศึก) ทรงยิงไปถูกสุรกรรมา(แม่ทัพพม่า)ตายอยู่บนคอช้าง

พระแสงปืนที่ใช้ยิงสุรกรรมาตายบนคอช้างในครั้งนั้นได้นามปรากฎต่อมาว่า"พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง" นับเป็น พระแสงอัษฎาวุธ อันเป็นเครื่องราชูปโภค ยังปรากฏอยู่จนถึงทุกวันนี้เมื่อสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์แล้วรัชกาลที่1ทรงพระราชดำริให้จำลองสร้างพระแสงปืนต้นนี้ขึ้นมาใหม่เพื่อเป็นพระเกียรติยศและเฉลิมพระเกียรติถึงวีรกรรมของสมเด็จพระนเรศวร

พระแสงปืนนี้จึงเป็นจัดเข้าเป็นเครื่องประกอบการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตั้งแต่รัชกาลที่2จนถึงรัชกาลปัจจุบัน