โวยหนัง 'พุ่มพวง' ฉากจบสุดมั่ว!!! ลูกสาวธีระพล ลั่น 'สิ้นเดือน' ฟ้องแน่

 

 

 

 

 

 

 

โวยหนัง 'พุ่มพวง' ฉากจบสุดมั่ว!!!

ลูกสาวธีระพล  ลั่น 'สิ้นเดือน' ฟ้องแน่

 

 

น้ำตานองหน้าบาดใจคำพูด “ผัวมึงหายไปไหน” ลูกสาวธีระพล แสนสุขย้ำ ฟ้องผู้ทำหนัง "พุ่มพวง" ไม่มีมวยล้มต้มคนดูแน่นอน ชี้บิดเบือนความจริงอื้อ จวก ไม่ใช่พ่อคุณคุณไม่รู้ความเจ็บปวดหรอก...

หลังจากที่เป็นข่าวนำเสนอออกมา กรณีลูกสาวแฟนเก่าอดีตราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ มอบให้ทนายความทำจดหมายไปยังค่ายหนังยักษ์ใหญ่ “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” และ “บาแรมยู จำกัด” ห้ามถ่ายทอดประวัติชีวิตของนายธีระพล แสนสุข ในภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” เนื่องจากเกรงว่าจะถูกบิดเบือนความจริง อาจจะสร้างความเสียหายให้แก่ครอบครัวคุณธีระพล แสนสุข จนหลายคนเชื่อว่ากระแสข่าวนี้ถูกปลุกขึ้นมาเพื่อโปรโมทหนังเรื่องดังกล่าว...?

หลังจากภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายได้ระยะหนึ่ง ความเคลื่อนไหวล่าสุด นางสุนีย์ อยู่คะเชนทร์ อายุ 40 ปีจาก จ.ศรีสะเกษ หรือตุ๊กตา ลูกสาวจากภรรยาของนายธีระพล แสนสุข (หรือสนิท อยู่คะเชนทร์ หรือ ธีระพล อยู่คะเชนทร์ ก่อนมาพบกับพุ่มพวง) ให้สัมภาษณ์ผ่านไทยรัฐออนไลน์ ภายหลังจากที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่โรงภาพยนตร์ใน จ.ศรีสะเกษ ด้วยเสียงสะอื้นว่า หนัง
เรื่องนี้มีสิ่งที่นายธีระพล โดนบิดเบือนมากมายแบบที่ตนคาดการณ์เอาไว้ในหนังสือร้องเรียนที่ส่งไปยังค่ายหนังเพื่อขอให้ตัดบทนายธีระพลจริงๆ

"ดิฉันไปดูหนังตั้งแต่วันแรกที่ฉาย ครึ่งแรกต้องยอมรับว่าดีใจมากที่เขาให้เกียรติคุณธีระพลมากมาย หนังทำให้ทุกคนรู้ว่าธีระพลเป็นใคร จนคิดว่าไม่เพียงไม่เอาเรื่อง ยังจะโทรศัพท์ไปขอบคุณเสี่ยเจียง-ผู้กำกับ ที่ให้เกียรติคุณพ่อ แต่พอครึ่งหลังหนังทำให้เราเปลี่ยนใจ เพราะมันเต็มไปด้วยเนื้อหาบิดเบือน โดยเฉพาะระหว่างที่พุ่มพวงไม่สบาย แล้วคุณพ่อไม่ดูแล ในความเป็นจริงตอนที่อยู่ด้วยกันเขารักกันมาก ลำบากมากกว่านี้ก็มี ไปไหนมาไหนก็ขับรถพาไปทุกที่แต่หนังกลับจบแบบคุณผึ้งทำงานหนักมากจนเป็นลม คุณธีระพลก็นั่งดูอยู่กับคนชื่อหวานที่อยู่ในบ้าน ผู้หญิงคนนี้มาจากไหนเราไม่รู้จัก แล้วคุณแม่พุ่มพวงยังพูดตอนที่เขานอนไม่สบายว่า “ผัวมึงไปไหน” คำนี้ทำให้ดิฉันน้ำตาไหล ทั้งที่ช่วงเวลาที่หนังอ้างอิงนั้นคุณพ่อเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่เขาก็นำมายำรวมและพูดว่าเป็นหนังที่อ้างอิงเพื่อความบันเทิง ถามว่าบันเทิงแบบไหน เมียคุณทำงานหนักแล้วคุณยังมีอารมณ์แบบนั้น... ซึ่งไม่จริง ทำแบบไม่สนใจหัวอกคนเป็นลูกแบบนี้ มันทำให้ดิฉันตัดสินใจฟ้องร้อง

 

 

ขั้นตอนต่อไป ตุ๊กตาย้ำด้วยเสียงสะอื้นว่า กำลังรวมรวมเอกสารเตรียมฟ้องร้องอยู่คาดว่าสิ้นเดือนนี้น่าจะได้ครบถ้าค่ายหนังยังไม่ติดต่อมา จะทำการฟ้องร้องอย่างแน่นอน

“ดิฉันติดใจหลายฉากมาก โดยเฉพาะฉากจบหนังยำกันเหมือนกับโยนความผิดให้ธีระพล ซึ่งเราเสียหาย คนทำหนังอาจจะบอกว่าไม่เสียหาย “ก็ไม่ใช่พ่อคุณก็เลยพูดได้” ถามว่าคุณผึ้งตายวันเดือนปีไหน ธีระพล ตายวัน-เดือนปีไหน คนเขารู้หมด แล้วคุณจะมาสร้างหนังแบบเอามาโมเมเพื่อเอาเงิน เอาความผิดว่าไม่ดูแลพุ่มพวง มาโยนให้คนตาย มันไม่ถูก ไหนๆ ก็ชูเรื่องพุ่มพวงกับธีระพลแล้วไม่ทำให้มันจบสวยกว่านี้ล่ะ จบแบบบคุณธีรพลและคุณผึ้งมีความสุขแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งก็ได้ แต่ไม่ทำ เสี่ยเจียงก็ให้สัมภาษณ์ว่าไม่กลัวฟ้อง แถมยังมีคนออกข่าวว่าเคลียร์กับคุณตุ๊กตาแล้ว ซึ่งไม่เป็นความจริง ไม่เคยโทรมาเลย แล้วเบอร์ฉันก็หาไม่ยาก พวกเขาคงคิดว่าเราโนเนมถึงทำแบบนี้ ถ้าจะบอกว่ารังแกคนจนเดี๋ยวก็หาว่าเอากระดูกมาหากินอีก แบบนั้นมันก็ไม่ดี แต่ตอนแรกจุดมุ่งหมายไม่ใช่เงิน แค่ให้ปลดละครตัวนี้ออกแต่ก็นิ่งเฉยหมด”

เมื่อถามว่าทำไมก่อนหน้านี้ภาพยนตร์ "พุ่มพวง" 2 เรื่อง (จริงๆ มี 3 เรื่อง 1. บันทึกรักพุ่มพวง 2. รักอาลัยพุ่มพวง ดวงจันทร์ 3. เธอของเรา หรือของใคร) ถึงไม่ออกมาฟ้องร้อง ลูกสาวแฟนเก่าพุ่มพวงบอกว่า เนื่องจากขณะนั้นพุ่มพวงเพิ่งเสียชีวิตได้ไม่นาน หากตนจะไปคัดค้านแฟนเพลงคุณผึ้งก็เอาเราตายแน่นอน

"หนังพุ่มพวง 2 เรื่องมันเละมากแล้ว เราเลยไม่อยากให้เรื่องที่ 3 มันเละอีก แต่เมื่อออกมาแบบนี้แล้ว มันสวนกับความเป็นจริง ซึ่งความจริงประชาชนรู้อยู่แล้วว่าตอนคุณผึ้งไม่สบายแล้วเขาดำเนินชีวิตเป็นแบบไหน อยู่กับใครที่ไม่ใช่อยู่กับคุณธีระพล เพราะว่าคุณธีระพลตายไปตั้งนานแล้วเป็นสิบปี แล้วหนังเวอร์ชั่นนี้มาให้คุณธีรพลรับภาระตรงนี้ทำไม แล้วคำพูดของแม่คุณผึ้งถามคุณผึ้งพูดทำนองว่าไม่สบายแล้วผัวมึงไปไหน คำพูดนี้ในหนังมันทำให้เราสะท้อนหัวใจว่ามันไม่ใช่ พ่อเราไม่ได้เลวขนาดนั้น ดิฉันเสียวหัวใจเราเป็นลูกเราก็เจ็บช้ำ อย่างนี้มันหลอกประชาชนดูแล้วเราก็ร้องไห้”

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ทางผู้สร้างบอกว่า ก่อนหน้านี้เคยประกาศลงในหนังสือพิมพ์ให้ผู้เกี่ยวข้องกับตัวละครเรื่องนี้ติดต่อมา แต่คุณก็นิ่งเฉย...?

“ไม่เห็นเลย ดิฉันถามว่าใครจะมานั่งอ่านหนังสือพิมพ์ทุกวัน เราเป็นแม่ค้าก็ต้องทำมาหากิน คุณต้องหากิน ฉันไม่ได้ไปต่างประเทศ อยู่ในประเทศไทยเองทำไมไม่ติดต่อมาอินเตอร์เน็ตก็มีสอบถามเบอร์จากโทรศัพท์ก็ได้แต่เขาไม่ทำ ถามว่าจะเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่ ดิฉันยังไม่คิดแต่จะเป็นสิบล้านก็คงเกินความจริงไปเพราะดิฉันไม่ได้หากินแบบนั้น วันนี้เราคุณพ่อตายฟรีไปแล้ว เราก็ไม่อยากจะให้ท่านมาตายทางชื่อเสียงอีก

 

 ส่วนประเด็นเรื่องโปรโมทหนังนั้น ตุ๊กตายืนยันด้วยเสียงสะอื้นว่า ตนไม่ได้รับเงินจากใคร ไม่ได้รับเงินโปรโมทหนังมาจากเสี่ยเจียงแบบที่หลายคนกล่าวหา หากใครมีหลักฐานก็เอามาแสดงหรือโทรศัพท์มาแจ้งตนได้ (08-8467-2849)

“ตอนไปดูหนัง ลูกเราก็บอกว่าคุณแม่ คุณตาดังใหญ่แล้วแต่อยากจะบอกลูกบอกว่าเราดังใหญ่แล้ว เราก็ได้แต่ก้มหน้าน้ำตาไหล เพราะเขาไม่น่าโยนความรับผิดชอบของสถาบันครอบครัวมาให้กับคนตาย ทำหนังเหมือนคุณหลอกคนทั้งประเทศ” ลูกสาวแฟนเก่าพุ่มพวงกล่าวสรุปเสียงสะอื้น

อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หนังกึ่งชีวประวัติของพุ่มพวงถูกสร้างขึ้นมา เรื่องแรกถูกสร้างหลังจากพุ่มพวงเสียชีวิตไม่นาน คือ 1. บันทีกรักพุ่มพวง ถูกสร้่างออกมาโดย 'ประเสริฐ เพชรสงคราม' อดีตธุรการเก่าในวงดนตรีพุ่มพวงได้ถ่ายทำขึ้น ซึ่งแม่เล็ก 'จรัญ จิตรหาญ' มารดาของพุ่มพวงเคยปฏิเสธไม่ให้สร้าง 2. เรื่องรักอาลัย พุ่มพวง ดวงจันทร์ สร้างโดย 'จิตรหาญภาพยนตร์' เป็นเรื่องของแม่เล็ก 'จรัญ จิตรหาญ' ที่ตัดใจให้ 'พฤหัส เกิดผล' ดำเนินการผลิตเป็นหนังแนวชีวประวัติของพุ่มพวง และ 3. เรื่องเธอของเรา หรือของใคร โดยบริษัทอาร์เจโปรดักชั่น จำกัด ซึ่งซื้อลิขสิทธิ์เป็นเงิน 1 แสนบาท จากไกรสร แสงอนันต์ (ลีละเมฆินทร์) สามีของพุ่มพวง แต่ทั้งหมดก็ไม่ประสบความสำเร็จเรื่องรายได้ 

 

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...