สถิติเยาวชนไทยเกินครึ่ง เคยเล่นการพนัน อนาคตเสี่ยงซึมเศร้า-ฆ่าตัวตาย

 

 

 

 

 

สถิติเยาวชนไทยเกินครึ่ง เคยเล่นการพนัน อนาคตเสี่ยงซึมเศร้า-ฆ่าตัวตาย


พบสถิติผีพนันเข้าสิงอนาคตของชาติเกินครึ่ง ไพ่และไฮโลครองแชมป์การเล่นมากที่สุด โดยหมอประเสริฐ ระบุ เด็กที่ชอบเล่นการพนัน อนาคตเสี่ยงเป็นโรคจิตเวชและซึมเศร้า วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันหาทางออกเพื่อแก้ปัญหา

เครือข่ายอาจารย์สื่อสารมวลชน 9 มหาวิทยาลัย ออก 5 ข้อเรียกร้อง เสนอต่อรัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งแก้ปัญหาการเล่นพนันในวันเยาวชนแห่งชาติ 

สืบเนื่องจากวันที่ 20 กันยายนของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น “วันเยาวชนแห่งชาติ” ซึ่งเยาวชนถือเป็นกำลังหลักสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไปในอนาคต หากแต่มีสถิติที่น่าตกใจจากการสำรวจสถานการณ์ของเยาวชน พ.ศ.2556 โดยเครือข่ายเยาวชน 4 ภาค ของศูนย์ข้อมูลนโยบายสาธารณะเพื่อลดปัญหาการพนัน มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ พบว่า
- เยาวชนร้อยละ 62 เคยเล่นไพ่
- ร้อยละ 39 เคยเล่นหวยใต้ดิน
- ร้อยละ 35 เคยเล่นสลากกินแบ่งรัฐบาล
- ร้อยละ 26 เล่นพนันฟุตบอล
- ร้อยละ 12 เคยส่งเอสเอ็มเอสชิงโชค
- และ ร้อยละ 7 เล่นหวยออนไลน์

ทั้งนี้ยังพบว่าเยาวชนในทุกภูมิภาคการพนันที่เล่นมากที่สุดคือไพ่และไฮโล ซึ่งเยาวชนที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี จะมีสถานการณ์เสี่ยงต่อการพนันมากที่สุด อีกทั้งเด็กและเยาวชนที่เริ่มเล่นพนันมักไม่ถูกลงโทษจากครอบครัวทำให้รู้สึกว่าการเล่นพนันไม่ใช่เรื่องผิด ทำให้เยาวชนในทุกภูมิภาคยังมีระดับของความรู้ความเข้าใจต่อการพนันที่ต่ำกว่าเกณฑ์

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ เลขาธิการมูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ กล่าวว่า คนที่เล่นการพนันจะแบ่งออกเป็น 2 พวก
- กลุ่มแรกคือเล่นพนันจนเกิดปัญหา
- อีกกลุ่มคือเป็นโรคติดการพนัน

แต่ไม่ว่าจะเล่นด้วยเหตุผลอะไรก็ล้วนแล้วแต่เสพติดการพนันด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งการเสพติดการพนัน องค์การอนามัยโลกได้จัดว่าเป็นความผิดปกติของการควบคุมแรงผลักดันที่เรียกว่า Impulse control Disorder ซึ่งจะทำให้ขาดความยับยั้งชั่งใจ ขาดความสามารถในการควบคุมตนเอง 

นอกจากนี้ยังมีการวิจัยพบว่าผู้ที่ติดการพนันอาจจะทำให้เกิดโรคทางจิตเวชตามมา เช่น โรคซึมเศร้า หรือทำให้เกิดการฆ่าตัวตาย

ส่วนปัญหาของเยาวชนที่ติดการพนันนั้น พบว่าวัยรุ่นส่วนใหญ่ที่ติดการพนันมาจะมีจิตใจที่ไม่อยากจะเรียนหนังสือ หมกมุ่นอยู่กับการเล่นพนัน ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ขาดคนที่มีคุณภาพทัดเทียมกับคนในประเทศอื่น และขาดกำลังความคิดของคนในวัยหนุ่มสาวที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ ดังนั้นเราจึงจำเป็นหาทางออกร่วมกันในการป้องกันปัญหาการติดพนันในเยาวชนของเรา

ขณะที่เครือข่ายอาจารย์สื่อสารมวลชนเพื่อขับเคลื่อนสังคมลดปัญหาจากการพนัน 9 มหาวิทยาลัย ซึ่งประกอบด้วย มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม มหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และมหาวิทยาลัยพายัพ ก็ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการป้องกันปัญหาเยาวชนจากการพนัน

จึงได้ร่วมกันออกข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อป้องกันปัญหาจากการพนันในกลุ่มนิสิตนักศึกษา 5 ข้อ ดังนี้
 
1. การที่นิสิตนักศึกษามีประสบการณ์เล่นพนันตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้มีทัศนคติในเชิงบวกต่อการเล่นพนันส่งผลให้โตขึ้นก็จะเล่นการพนันอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นกระทรวงศึกษาธิการควรวางพื้นฐานในการส่งเสริมเรียนรู้ ป้องกันภัยการพนันตั้งแต่ประถมและมัธยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมิติของการรู้ทันสื่อที่เกี่ยวข้องกับการพนัน ทั้งทางตรงและทางอ้อม อาทิ ภัยจากการพนัน พนันแฝงในรูปแบบการชิงโชค

2. บทบาทสื่อออนไลน์ เริ่มระบาด เว็บพนันออนไลน์กลายเป็นพื้นที่เสี่ยงใหม่ ล่อใจให้เด็ก เยาวชน และนิสิตนักศึกษา เข้าสู่วงจรการพนัน ด้วยการโฆษณาจูงใจในระบบออนไลน์หลากหลายรูปแบบ เพื่อสร้างความสนใจในการเสี่ยงดวง โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ด้วยการใช้จุดแข็งของออนไลน์ในระบบเรียลไทม์เป็นเครื่องชักจูงและกระตุ้นการเล่นพนันอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องหามาตรการที่ชัดเจนและโปร่งใส ในการเฝ้าระวังและปราบปรามเว็บไซต์การพนันให้เป็นระบบอย่างต่อเนื่อง

3. การสื่อสารในงานโฆษณาผ่านสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ ในลักษณะของการเสี่ยงโชคเสี่ยงดวง เป็นตัวสร้างพื้นฐานของการรองรับค่านิยมจากการพนันอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ SMS ส่งเพื่อให้ชิงรางวัล การชิงโชคเปิดฝาลุ้นเงินล้าน การพนันพื้นบ้านที่อ้างว่าเป็นประเพณี

เป็นเรื่องที่ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพึงหยิบยกขึ้นมาพิจารณาร่วม กำหนดนิยามว่าสิ่งเหล่านี้เป็นการพนันที่ผิดกฎหมายหรือไม่อย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนตลอดจนนิสิตนักศึกษาตกอยู่ภายใต้บรรยากาศ แห่งการพนันโดยไม่รู้ตัว

4. สถาบันอุดมศึกษาต้องแสดงความพยายามที่ชัดเจนในการป้องกันการแพร่กระจายการเล่นพนันในทุกรูปแบบเข้าสู่เขตมหาวิทยาลัย ตั้งแต่การห้ามจำหน่ายสลากกินแบ่งในมหาวิทยาลัย การกำหนดไม่ให้มีการเล่นการพนันในทุกรูปแบบ ทั้งไพ่ บิงโก ชิงเงิน เปิดเลขหนังสือ หวยหุ้น หวยบนดิน หวยใต้ดิน และควรร่วมตรวจสอบกับชุมชนโดยรอบในการป้องปรามร้านอาหาร สถานบันเทิงรอบมหาวิทยาลัย ไม่ให้เป็นแหล่งรวมกลุ่มกันเล่นพนันของนักศึกษา

5. สำนักงาน คณะกรรมการอุดมศึกษาแห่งชาติ (สกอ.) พึงบรรจุเรื่องการต่อต้านการพนันเข้าเป็นส่วนหนึ่งในเกณฑ์องค์ประกอบการ ประกันคุณภาพการศึกษาเพื่อให้มหาวิทยาลัยใช้กำหนดเป็นแนวทางในการพัฒนาคุณสมบัติบัณฑิต ที่พึงประสงค์ต้องห่างไกลจากการพนัน และร่วมส่งเสริมพัฒนามาตรฐานการส่งเสริมป้องกันภัยจากการพนันอย่างชัดเจน

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...