Oil Rocks เมืองใหญ่กลางทะเล

 

 

 

 

 

Oil Rocks เมืองใหญ่กลางทะเล



ถ้าบอกว่ามีเมืองอยู่เมืองหนึ่ง มีประชากรราว 5,000 คน ผมว่าคงไม่มีใครเห็นเป็นเรื่องแปลกอะไร ถ้าบอกเพิ่มเติมว่า เมืองนี้มีถนนตรอกซอกซอยรวมกันแล้วนับได้ 350 กิโลเมตร หลายคนอาจจะเริ่มเอะใจอะไรขึ้นมาบ้าง แต่หลายคนก็อาจจะรู้สึกเฉยๆ แต่ถ้าบอกว่าเมืองนี้ตั้งอยู่ในทะเล ผมว่าส่วนมากคงจะรู้สึกเอะใจกันบางแล้วว่า นี่มันกำลังพูดเรื่องอะไร แต่บางคนก็อาจจะเฉยๆ เพราะเมืองที่สร้างอยู่ริมทะเลก็มีมากมาย ซึ่งบางส่วนก็อาจจะสร้างล้ำลงไปในทะเล 

 



แต่ถ้าบอกว่าเมืองนี้ทั้งเมืองตั้งอยู่กลางทะเล ไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งอยู่บนฝั่ง เพราะส่วนของฝั่งที่อยู่ใกล้ที่สุดนั้น ก็ยังอยู่ห่างออกไปมากถึง 42 กิโลเมตร บางคนก็อาจจะบอกว่าไม่เห็นแปลก เพราะแท่นขุดเจาะน้ำมันสมัยนี้ ก็อยู่กันกลางทะเล และสภาพความเป็นอยู่ในแท่นขุดเจาะ ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับเมือง 

 

 

(ภาพถนนเส้นทางเชื่อมเมืองกับแผ่นดินใหญ่)



ถูกต้องแล้วครับ……สิ่งที่ผมกำลังพูดถึงก็คือแท่นขุดเจาะน้ำมัน แต่คุณควรต้องย้อนกลับไปอ่านที่ย่อหน้าแรก และย่อหน้าที่สองครับ เพราะไม่ว่าแท่นขุดเจาะน้ำมันสมัยนี้จะใหญ่โตอย่างไร ก็คงรองรับผู้คนมากมายขนาดนี้ หรือมีถนนหนทางตรอกซอกซอยมากขนาดนี้ไม่ได้แน่ *0* ยกเว้นแท่นขุดเจาะที่ไม่ธรรมดาที่ผมกำลังจะพูดถึง และที่ผมจะบอกก็คือ ที่แท่นขุดเจาะแห่งนี้มีทั้งโรงเรียนเทคนิค ศูนย์วัฒนธรรมขนาด 5,000 ที่นั่ง สนามฟุตบอลร้านค้า ห้องสมุด โกดังถึง 9 แห่ง น้ำพุ สนามหญ้า และโรงงานอุตสาหกรรม 

 



ขอต้อนรับสู่ เมือง “เนี๊ยฟเตียนนึยเย คามนี“ แห่งกรุงบากู เมืองหลวงของอาเซอร์ไบจาน อดีตสาธารณรัฐหนึ่งของสหภาพโซเวียต ซึ่งปัจจุบันได้แยกตัวออกมาเป็นประเทศอิสระเรียบร้อยแล้ว ชื่อของเมืองนี้ที่ผมเรียกเป็นแบบรัสเซียครับ ส่วนชื่อในภาษาอาเซอร์ไบจานก็มีเหมือนกัน เพียงแต่ไม่รู้ว่าเขาออกเสียงว่าอย่างไร จึงขอเรียกชื่อเดิมแบบที่เรียกกันมาแต่ครั้งโซเวียตก็แล้วกัน สำหรับชื่อนั้นภาษาอังกฤษนั้น ส่วนมากใช้ชื่อว่า Oil Rocks ซึ่งก็มีความหมายแบบเดียวกับชื่อในภาษารัสเซียเช่นกัน แต่บางคนก็ใช้ชื่อว่า Oil Stones ก็ไม่ว่ากัน

แท่นขุดเจาะแห่งนี้ ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองจริงๆ ครับ เมืองนี้ขึ้นตรงกับกรุงบากู มันเป็นแท่นขุดเจาะน้ำมันแห่งแรกของอาเซอร์ไบจาน และเป็นแท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งแห่งแรกของโลก และเป็นโครงการที่สุดแสนจะทะเยอทะยานของโซเวียตในยุคนั้น สำหรับการบันดาลให้เกิดเมืองจริงๆ ขึ้นกลางทะเล เพื่อทำหน้าที่ขุดเจาะน้ำมันจากใต้พื้นทะเล 

 



ที่ตั้งของเมืองนี้อยู่ห่างจากบากู 100 กิโลเมตร และห่างจากชายฝั่งทะเลแคส เปี้ยนที่ใกล้ที่สุด 42 กิโลเมตร ความโดดเด่นที่ชัดเจนของมัน แม้จะเป็นเพียงแท่นขุดเจาะน้ำมัน ก็คือมันมีความเป็นเมืองสูงมาก มันเป็นเมืองที่ทำหน้าที่เป็นเมืองได้ด้วยตัวเอง มันเป็นเมืองในแทบจะทุกความหมาย

ประชากรของเมืองส่วนมากก็คือคนที่ทำงานในอุตสาหกรรมขุดเจาะน้ำมันที่ต้องมาเข้ากะที่นี่ตามระยะเวลา สำหรับประชากรถาวรนั้น ไม่มีแต่อย่างใด และจวบจนถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีแท่นขุดเจาะน้ำมันแห่งใดในโลก จะขึ้นมาเทียบรัศมีความแปลกประหลาด และใหญ่โตของมันได้ 

 



ว่ากันว่า การผุดของเมืองประหลาดแห่งนี้เกิดขึ้นจากการที่โซเวียตต้องเร่งพัฒนาประเทศที่เสียหายมากมายหลังช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และการที่ประเทศจะเร่งพัฒนาประเทศแข่งกับฝั่งตะวันตกได้ก็ต้องมีแหล่งพลังงาน และแหล่งพลังงานสำคัญในสมัยนั้นก็ยังคงเหมือนกับสมัยนี้คือน้ำมัน

ในสมัยนั้น แหล่งที่รู้กันอยู่แล้วว่ามีน้ำมันมากก็คือทางใต้ของประเทศ ซึ่งต่างจากสมัยนี้ที่แหล่งน้ำมันสำคัญไปอยู่ทางเหนือ ในสมัยนั้นแหล่งน้ำมันสำคัญก็คือในทะเลแคสเปี้ยน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตของอาเซอร์ไบจาน หลังจากที่มีการสูบน้ำมันจากการขุดเจาะบนพื้นบกออกไปใช้มากมาย ทำให้น้ำมันลดน้อยถอยลง ก็ถึงเวลาต้องลงไปค้นหาในทะเล 

 



ที่แตกต่างจากความคิดของคนสมัยนี้ที่นิยมไปสร้างแท่นขุดจาะเล็กๆ คนโซเวียตกลับเริ่มด้วยการสร้างเมืองขึ้นมากลางทะเลเลย และแกนนำโซเวียตเห็นดีเห็นงามและให้ความโอเค

พวกเขาเริ่มการสำรวจทางภูมิศาสตร์ในปี 1945 – 1948 พอถึงปี 1958 ก็เริ่มการก่อสร้าง ไม่นานเมืองแห่งนี้ก็เริ่มปรากฏตัวอยู่กลางทะเลสีน้ำเงิน โดยในบางจุดระดับน้ำลึกหลายร้อยฟุต และมันก็ได้ชื่อว่า “เนี๊ยฟเตียนนึยเย คามนี“

พวกเขาเริ่มสร้างมันด้วยการสร้างโรงไฟฟ้าขนาด 250 กิโลวัตต์ 2 โรง หน่วยงานที่จำเป็นต่อการขุดเจาะน้ำมัน บ้านพักขนาด 2 ชั้น 16 หลัง โรงพยาบาลและซาวน่า อีก 2 ปีต่อมาก็สร้างโรงเรียนเทคนิคการขุดเจาะน้ำมัน ต่อมาก็สร้างโรงงานทำขนมปัง หอพัก 5 ชั้น 2 หลัง อาคารที่พักอาศัยขนาด 9 ชั้น มีการปลูกต้นไม้ สร้างหอพัก โรงพยาบาล โรงผลิตน้ำจืด และสิ่งจำเป็นอื่นๆ เพิ่มเติมตลอดมา สำหรับการเดินทางติดต่อกันภายในเมืองใช้รถยนต์ ส่วนการติดต่อระหว่างที่นี่กับชายฝั่งใช้เฮลิคอปเตอร์และเรือ 

 



แต่ที่นี่ ก็เหมือนกับโครงการบิ๊กอื่นๆ ของโซเวียต ที่ไม่เคยได้รับการโปรโมตเพื่ออวดโอ้ศักดาใดๆ เมื่อทำเสร็จแล้วก็เสร็จไป สร้างเสร็จแล้วก็ทำงานขุดเจาะน้ำมันกันไปตามเรื่องตามราว

ต่อมามีการพบแหล่งน้ำมันแหล่งใหญ่ในเขตทางเหนือ โซเวียตก็หันไปให้ความสนใจกับแหล่งใหม่แทน ปล่อยปละละเลยเมืองประหลาดแห่งนี้ แต่ถึงกระนั้น ปัจจุบันที่นี่ก็มีคนอยู่ทำงานหลายพันคน

จนกระทั่งเมื่อเร็วๆนี้ ฝรั่งต่างชาติเพิ่งจะได้รับอนุญาตให้เข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับเมืองน้ำมันกลางทะเลแห่งนี้เพื่อนำไปเผยแพร่หลายประเทศและผมที่เพิ่งพบเรื่องราวของมัน ก็จึงได้นั่งหลังขดหลังแข็ง หาข้อมูลเพิ่มเติม แปล และก็นำมาโพสต์ที่นี่แหละครับ 

 

 

22 ก.ค. 56 เวลา 17:16 2,275 130
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...