"ความเกิด" เป็นสาเหตุของ "ความตาย"

 

 

 

 

 

"ความเกิด" เป็นสาเหตุของ "ความตาย"

"ธรรมะกับหลวงตา"

วันมะรืนนี้..วันอาสาฬหบูชา เจ้าเด็กวัดดีใจเพราะจะได้เห็น สาธุชนมาเข้าวัดทำบุญตักบาตร...กันเยอะๆเช้านี้ จึงจัดแจงเตรียมอาหารน้ำดื่มใว้รอรับแขก แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็น

เด็กวัด...เอ๊ะ เด็กผอมๆสองคนนั้นเห็น เดินตามเรามาตั่งแต่ไปเดินบาตรกับหลวงตาแต่เช้าแล้วท่าทางคง หิวแย่ เอ้าเอาไปกินซิ ฉันให้... ขอบคุณครับเสียงเด็กน้อยสองคนกล่าว และแล้วก็นึกขึ้นได้ บาปแล้วเราที่นี้"หลวงตายังไม่ได้ฉันเลย"
เด็กวัด...หลวงตาขอรับผมแอบเอาอาหารไปให้เด็กเร่ร่อนกินก่อนที่หลวงตาจะฉัน...มันจะบาปไหมขอรับ

หลวงตา..การเอื้อเฟื้อมีน้ำใจของเจ้านั้นอยู่ใน สังคหวัตถุ 4.
1. ทาน2. ปิยวาจา3. อัตถจริยา4. สมานัตตา 

ทาน คือ การให้ การเสียสละ หรือการเอื้อเฟื้อแบ่งปันของๆตนเพื่อประโยชน์แก่บุคคลอื่น ไม่ตระหนี่ถี่เหนียว ไม่เป็นคนเห็นแก่ได้ฝ่ายเดียว คุณธรรมข้อนี้จะช่วยให้ไม่เป็นคนละโมบ ไม่เห็นแก่ตัว เราควรคำนึงอยู่เสมอว่า ทรัพย์สิ่งของที่เราหามาได้ มิใช่สิ่งจีรังยั่งยืน เมื่อเราสิ้นชีวิตไปแล้วก็ไม่สามารถจะนำติดตัวเอาไปได้ เจ้าเป็นคนดีแล้วไม่บาป

 

 

 

ความสุข ของมนุษย์นั้นต้องตั่งอยู่ด้วย...ความดี
มีเมตตา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่่ นั้นคือความสุขที่แท้จริง
คนเราเกิดมาแล้ว...ไม่มีใครอยากตาย ทั้งนั้น..!?!
แต่..."ความเกิด" เป็นสาเหตุของ "ความตาย"

"...ถ้าไม่เกิด-ก็ไม่ตาย ถ้าดับความเกิดได้
ก็ดับความตายได้ ดับนรก ดับสวรรค์ได้..."
นั้นหมายถึง "นิพพาน" นั้นเอง..!!!

 

 

นานมาแล้ว..มีวัดที่เงียบสงบแห่งหนึ่งตั่งอยู่ที่ชายเขา วันนี้มีชายห้าคนตั่งใจมาขอบวช ชายห้าคนต่างมีความคิดแตกต่างกัน บางคนคิดเพียงว่า..จะบวชอุทิศส่วนกุศลให้คนที่ตนเคยทำร้ายบางคน...พ่อแม่บังคับให้บวชบางคนต้องการ...บวชก่อนแต่งงานบางคนบวช...เพราะทำยอดขายได้ พวกนี้บวชเพื่อแก้บนโดยความจริงแล้วไม่มีใครสนใจ เรื่องธรรมะเลย ซึ่งแทนที่จะบวชเพื่อศึกษาพระธรรม กลับมาบวชเพื่อตนเองทั้งสิ้นเมื่อมาถึงทั้งหมดก้มลงกราบหลวงตา

..ชายคนหนึ่งกล่าวกับหลวงตาว่าพวกผมขอบวชครับ หลวงตา มองไปที่ขุนเขาข้างหน้า แล้วชี้นิ้วไปที่เขาทั้งห้าลูก ก่อนบวชมีพระธรรมอยู่บนเขา พวกเจ้าไปเอามาแล้ว ข้าจะบวชให้ ก่อนไปหลวงตาสั่งไว้ว่าข้ามีแต่เผือกกับมันกันหิวให้เจ้าติดตัวไว้เป็นเสบียงขึ้นเขาๆลูกแรกเจออะไรก็..(กินมัน)ซะจะได้ไม่หิว เอาล่ะไปได้แล้ว ชายทั้งห้ามองไปที่เขาแต่ละลูกซึ่งสูงๆใหญ่ๆทั้งนั้นแล้วทั้งห้าก็ออกเดินทาง การเดินทางเต็มไปด้วยความหิวและความลำบาก เมื่อทั้งห้าถึงยอดเขาลูกแรกทั้งหมด ก็เห็นแอ่งน้ำเล็กๆมีปลาตัวใหญ่อยู่ชายที่บวชเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศล ก็จับปลามา..ย่างกินโดยไม่ฟังเสียงใครแล้วพูดขึ้นมาว่า...พวกแกกินเผือกกินมัน..ไปก่อนฉันจะกินปลา แล้วรออยู่ที่นี่ สี่คนที่เหลือก็ขึ้นไปบนเขาลูกที่สอง ชายคนที่พ่อแม่ บังคับให้บวชเห็นกระเป๋าเงินวางอยู่ จึงแอบเก็บไว้แล้วร้องบอกให้คนอื่น รีบขึ้นไปบนเขาลูกที่สามตนเองจะรออยู่ตรงนี้ ชายสามคนที่เหลือเดินทางต่อไปจนถึงเขาลูกที่สามชายที่ต้องการบวชก่อนเบียดเห็นลูกสาวของชาวเขาสวยจึงให้คนที่เหลือเดินขึ้นเขาลูกที่สี่เมื่อมาถึงชายคนทีทำยอดขายแกล้งพูดว่า...ขาข้าเจ็บมาก “เจ้าอย่าไปบอกหลวงตานะ” เจ้าไปนำพระธรรมบนเขาลูกที่ห้ามาเถิดเมื่อชายคนที่ห้ามาถึงเขาลูกสุดท้ายมีขวดเหล้าราคาแพงวางอยู่ กับน้ำเปล่าเขาเลือกที่จะกินน้ำเปล่าเมื่อได้พระธรรมมาแล้ว

ทั้งหมดก็ลงจากเขามาที่วัด ....หลวงตา!พวกเจ้าทั้งหมดข้าให้เจ้าคนที่..ห้า บวชได้คนเดียวเพราะ เจ้าทั้งสี่ ศีลห้ายังรักษาไม่ได้เลย เจ้าคนแรกขึ้นเขาก็ฆ่าปลาแล้วจิตใจโหดเหี้ยมหลวงตาสั่งใว้ว่าเจออะไรให้...(กินมันก่อน)ศีลข้อปาณาห้ามฆ่าสัตว์เจ้าก็ยังทำไม่ได้ ส่วนเจ้าคนที่พ่อแม่บังคับให้บวช เพราะต้องการให้เลิกลักเล็กขโมยน้อย เจ้าก็ยังหยิบกระเป๋าเงินคนอื่นอีก ส่วนเจ้าจะแต่งงานแล้วแค่เห็นสาวชาวเขาแค่นี้เจ้าก็เปลี่ยนใจแล้ว เจ้าอีกคน ยอดขายสินค้าที่เจ้าได้ล้วนแต่ได้จากการโกหกหลอกลวงคนอื่น แล้วยังจะให้อีกคนโกหกว่าอย่าบอกหลวงตาอีก ส่วนเจ้าเป็นคนอดทดอดกลั้น ภูเขาลูกที่ห้ามีเหล้าดีแต่ก็ไม่สนใจ กินเพียงน้ำเปล่าเจ้าจึงไม่หลงทางนำพระธรรมกลับมาให้หลวงตาได้ ในพระธรรมแห่งขุนเขาหน้าแรกเขียนสั่นๆไว้ว่า

"ศีลห้ารักษาไม่ได้ห้ามบวช"..!พวกเจ้าทั้งสีจึงห้ามบวช กลับบ้านไปได้แล้ว 

 

 

 

 

 

 

21 ก.ค. 56 เวลา 16:39 1,051 70
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...