1 พ.ค.56 เจ้าชายวิลเลม-อเล็กซานเดอร์ แห่งราชวงค์เออเรนจ์ ของเนเธอร์แลนด์ ทรงเข้าพิธีสาบานตนในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
และขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ใหม่อย่างสมบรูณ์ แล้ว ท่ามกลางเหล่าบรรดาพระราชอาคันตุกะจากหลายประเทศเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน
หลังจากที่สมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์แห่งราชวงเออเรนจ์ทรงลงพระปรมาภิไธยในหนังสือสละราชสมบัติอย่างเป็นทางการณพระราชวังกลางกรุงอัมสเตอร์ดัมเมื่อช่วงเช้าของวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น
จากนั้นช่วงบ่าย หรือเวลาประมาณ 21.00 นาฬิกา ตามเวลาประเทศไทยเจ้าชายวิลเลม-อเล็กซานเดอร์ พระราชโอรสองค์โต และมกุฎราชกุมาร แห่งเนเธอร์แลนด์ ที่มีพระชนมายุ 46 ชันษา ทรงเข้าพระราชพิธีสาบานตนขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ใหม่แห่งราชวงค์เออเรนจ์ อย่างเป็นทางการ โดยงานพระราชบรมราชาภิเษกจัดขึ้นในโบสถ์เก่ากลางกรุงอัมสเตอร์ดัม ใกล้กับพระราชวัง ซึ่งพิธีจัดอย่างเรียบง่าย ไม่มีพิธีกรรมทางศาสนา หรือการสวมมงกุฏ แต่อย่างใด
โดยช่วงประกอบพระราชพิธีสาบานตน เจ้าชายวิลเลม-อเล็กซานเดอร์ทรงกล่าวคำสาบานตนโดยมีใจความว่า “ข้าพพระเจ้าจะปกป้อง และรักษา อิสรภาพ ดินแดน ของประเทศด้วยอำนาจทั้งหมดที่ข้าพเจ้ามี”
ขณะที่ ในพระราชพิธีมีเจ้าหญิงมักซิมา พระชายา และ เหล่าบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเนเธอร์แลนด์ พระบรมวงศานุวงศ์และเชื้อพระวงศ์ จากหลายประเทศเข้าร่วม เป็นสักขีพยาน อาทิ สมาชิกรัฐสภาเนเธอร์แลนด์ ส่วนสมาชิกราชวงศ์ต่างประเทศ อาทิ เจ้าฟ้าชายชาลส์ มกุฏราชกุมารแห่งอังกฤษและพระชายา ดัชเชสแห่งคอร์นวอล เจ้าชายนารุฮิโตะ มกุฏราชกุมารญี่ปุ่นและพระชายา รวมถึงองค์รัชทายาทจากสเปน เดนมาร์ก สวีเดน และบรูไน ซึ่งนี่ก็ร่วมไปถึงสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นสักขีพยานในพระราชพิธีครั้งนี้ด้วย
ทั้งหลังประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสถาปนาสมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลมเป็นพระประมุขแห่งเนเธอแลนด์อย่างเป็นทางการจะทำให้พระองค์กลายเป็นกษัตริย์องค์แรกในรอบ123 ปี เนื่องจากที่ผ่านมาพระประมุข 3 พระองค์ เป็นสมเด็จพระราชินีนาถทั้งหมด รวมถึงพระองค์จะกลายกษัตริย์ในกลุ่มประเทศยุโรป ที่มีพระชนมายุน้อยที่สุด