หนุ่มใหญ่ริมีกิ๊ก “เสี่ยงสารพัดโรค”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ขุนแผน...นายแน่มาก ดูเผินๆ แล้วการมีกิ๊กเหมือนกับเป็นการบอกว่าตัวเองมีเสน่ห์ ทั้งที่อายุ 40 กว่า แต่ก็ยังมีสาวมาหลงรักจนยอมเป็นกิ๊กสร้างความภาคภูมิใจแบบสุดๆให้กับเจ้าตัว

 

นพ. อิทธิชัย วัชรีคุปต์ แพทย์สาขาอายุรกรรมทั่วไป โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 1 เผยว่า แท้ที่จริงแล้วการคบกับกิ๊กส่งผลให้เกิดความเครียดในระดับสูง และบ่อยๆ ทุกๆวัน ยิ่งมีปัญหาเรื่องงาน ลูกน้องจะลาออก เจ้านายจี้เรื่องยอดไม่ถึงเป้า ค่าแรงที่เพิ่มขึ้นจนมีปัญหาเรื่องควบคุมต้นทุน ฯลฯ บ้าน รถต้องผ่อน ลูกต้องเรียนพิเศษ ปิดเทอมต้องพาครอบครัวไปเที่ยว แม่ยายไม่สบาย ฯลฯ เรื่องต่างๆ มากมายที่มีอยู่แล้วในชีวิตครอบครัวของหนุ่มใหญ่ จะกลายเป็นความเครียดที่กดดันมากกว่าเกินสองเท่าเมื่อมีกิ๊ก เช่น ถูกระแวง หึงหวง ชวนทะเลาะบ่อยกว่าเดิม โทรศัพท์ดังที่บ้านก็กลัวว่ากิ๊กโทรมาแล้วภรรยารับสาย ต้องคอยซ่อนโทรศัพท์ บรรยากาศมาคุที่ร้อนจนรู้สึกได้ตั้งแต่ก่อนเปิดประตูเข้าบ้านหลังจากไปเจอกิ๊ก ตอนนอนก็อาจถูกปลุกขึ้นมากลางดึก ต้องคอยโกหกตลอดเวลาจนบางครั้งอาจจำผิดเอง ฯลฯ และกับกิ๊กเองก็ต้องปวดหัวกับเรื่องที่กิ๊กมาหึงหวง อาจบ่นประชด น้อยใจ กลัวกิ๊กแอบไปมีกิ๊ก ฯลฯ ต้องคอยระแวงกลัวแฟนจะจับได้ว่ามีกิ๊ก ในขณะเดียวกันก็ต้องคอยระแวงกิ๊กว่าจะไปมีกิ๊กอื่น ความเครียดที่สะสมไปเรื่อยๆ ในระดับสูงทุกวัน และวันละหลายๆ ครั้งและจะเกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกเริ่มมีกิ๊กจนถึงวันสุดท้ายที่เลิกกับกิ๊ก

นพ. อิทธิชัย วัชรีคุปต์ แพทย์สาขาอายุรกรรมทั่วไป ประจำโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 1 แนะนำให้หนุ่มใหญ่หันมาใส่ใจความเครียดที่ส่งผลต่อสุขภาพ การคบกิ๊กอาจเป็นเรื่องสนุก ตื่นเต้นเพียงช่วงระยะสั้นๆ แต่ส่งผลให้เกิดความเครียดสะสมในระยะยาวและอาจก่อให้เกิดโรคได้ โดยเฉพาะในหนุ่มใหญ่วัย 40 ขึ้นไป ที่หน้าที่การงาน และความรับผิดชอบสูงขึ้นอาจเริ่มมีปัญหาสุขภาพเนื่องจากฮอร์โมนเพศชาย (เทสโทโรน) เริ่มลดลงทำให้อวัยวะที่มีส่วนสัมพันธ์กับฮอร์โมนเพศชายเริ่มทำงานได้ไม่ดีเหมือนเดิม ทำให้เริ่มเกิดความเสื่อมในอวัยวะต่างๆ เช่น หลอดเลือดมีความยืดหยุ่นลดลง เริ่มมีคราบไขมันมาเกาะตามผนังหลอดเลือด ขนาดของกล้ามเนื้อลดลง ทำให้ไม่ค่อยมีแรงเหมือนสมัยหนุ่มๆ ส่งผลให้เริ่มมีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคอ้วน ไขมันเลือดสูง ความดันสูง หัวใจขาดเลือด โรคเก๊าต์ โรคหลอดเลือดสมอง ฯลฯ

การมีกิ๊กทำให้อารมณ์เหวี่ยงไปมาในระดับที่ส่งผลต่อร่างกาย เช่น อารมณ์โกรธ (ที่ภรรยาจับได้และไม่ให้ออกจากบ้าน) ดีใจ (ที่หลบภรรยามาได้และได้มาเจอกิ๊ก) ตื่นเต้น (ตอนกลับบ้านดึกแล้วไม่แน่ใจว่าภรรยาตื่นรอคอยหาเรื่องทะเลาะอยู่หรือไม่) กลัว (ภรรยาจะจับได้, กลัวลูกรู้, กลัวบ้านแตก) ฯลฯ อารมณ์ต่างๆ ที่ขึ้นๆ ลงๆ อยู่ตลอดเวลาทำให้เกิดการหลั่งสารความเครียด (อะดรีนาลีน) ซึ่งจะหลั่งออกมาจากต่อมหมวกไตเป็นจำนวนมากทำให้ร่างกายเกิดการเกร็ง ตื่นตัว ยิ่งเกิดขึ้นบ่อยๆ และทุกๆ วันซ้ำไป ซ้ำมา ส่งผลให้หลอดเลือดฝอยในสมองหดตัวเป็นประจำ และความดันในสมองเพิ่มขึ้น เมื่อเกิดความเครียด อาการที่พบเป็นประจำคือนอนไม่หลับ ปวดศีรษะ ไมเกรน มึนงง เบื่ออาหาร สมาธิสั้น ความคิดสร้างสรรค์ลดลง ขี้ลืมในระดับที่ส่งผลต่อการทำงาน และปวดกล้ามเนื้อความเครียดเป็นประจำส่งผลโดยตรงต่อการทำงานของหัวใจเพราะหัวใจต้องทำงานหนัก เกิดการอุดตันของหลอดเลือดง่ายขึ้นเนื่องจากไขมันในเลือดเพิ่มขึ้นทำให้เลือดมีความหนืดขึ้น หัวใจเต้นเร็วขึ้น และยังอาจส่งผลให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงได้ด้วย

นอกจากนี้ พบว่าผู้ชายที่มีความเครียดสูงส่งผลต่อสมองโดยจะทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง และเกิดปัญหาโรคหลอดเลือดสมอง ที่อาจตีบ แตก หรือตันมากกว่าคนปกติ ด้านร่างกาย ทำให้ภูมิต้านทานลดต่ำลงเนื่องจากเม็ดเลือดขาวน้อยกว่าคนทั่วไปจึงเป็นหวัดได้ง่ายหรือติดเชื้ออื่นๆ ได้ง่าย, ความเครียดทำให้คนเรากินมากเกินไปหรือน้อยเกินไป อาจก่อให้เกิดปัญหาน้ำหนักเกิน ลงพุงหรือเกิดอาการเบื่ออาหาร ส่งผลต่อโรคเบาหวานเนื่องจากความเครียดทำให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น อาจเกิดปัญหาเรื่องความต้องการทางเพศลดลง รวมไปถึงปัญหาที่หนุ่มใหญ่หลายคนกลัวคืออวัยวะเพศไม่แข็งตัวดีเหมือนเมื่อก่อน เนื่องจากหลอดเลือดตีบลงอาจทำให้มีปัญหาในการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ทางด้านจิตใจ เมื่อมีความเครียดสะสมเรื้อรังและไม่ดีขึ้นอาจกลายเป็นโรคซึมเศร้า ส่งผลต่อครอบครัว หน้าที่การงาน ความสัมพันธ์กับคนรอบตัว

 

แต่ถ้ามีกิ๊กแล้วจะบอกเลิกอย่างไร? ให้รักษาน้ำใจฝ่ายหญิงได้ดีที่สุด?

 

ก่อนอื่นคุณควรยืนยันการตัดสินใจของตัวเองว่าคิดดีแล้วในการกลับไปหาครอบครัว และรู้สึกผิดต่อภรรยา และลูกในการที่จะทำต่อไป เมื่อตัดสินใจแล้วก็ควรนัดเจอกันแล้วบอกตรงๆ ด้วยตัวเองอย่าอ้อมค้อม แต่เด็ดขาดและนิ่มนวล เปิดโอกาสให้เธอได้ร้องไห้ ระบายความรู้สึก ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษโดยไม่พูดเรื่องของเธอให้คนอื่นฟัง หรือเล่าเรื่องความสุขในครอบครัวให้คนที่อาจพูดเข้าหูเธอ และเลิกมีเพศสัมพันธ์ด้วย เพราะยิ่งทำให้เธอเสียใจมากขึ้น การให้ความหวังที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง เช่น ตอนนี้ห่างกันไปก่อนแล้วค่อยกลับมาคบกันใหม่ อาจทำให้เธอรอคอย และกลายเป็นอกหักอีกครั้งเมื่อพบว่าคุณไม่กลับมา และคุณก็ไม่ควรออกไปไหนมาไหนกับเธออีก เพราะทำให้เธอมีความหวัง และทำให้เจ็บนานมากขึ้น ควรเปิดโอกาสให้เธออยู่กับคนอื่นเพื่อเธอจะได้ตัดใจได้จากคุณเร็วยิ่งขึ้น

คุณหมออิทธิชัยทิ้งท้ายถึงคุณผู้ชายทั้งหลายว่า ความสัมพันธ์กับกิ๊กเป็นความสัมพันธ์ที่ผู้ชายมีเพื่อความสนุก โอ้อวด หรือเติมเต็มส่วนที่ยังขาด แต่ก็ต้องหลบๆ ซ่อนๆ สนุกเพียงช่วงแรกๆ นานไปย่อมเกิดความเครียดกดดัน ส่งผลกระทบกับครอบครัว สุขภาพอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง ดังนั้นหนุ่มๆ ทั้งหลายที่กำลังมีกิ๊กหรือกำลังมองหากิ๊ก ควรเริ่มต้นเปลี่ยนความคิดและปฏิบัติตัวใหม่ด้วยจิตใจที่ปรอดโปร่งจะดีกับสุขภาพมากกว่าครับ ^ __ ^

 

 

25 เม.ย. 56 เวลา 09:07 1,538 100
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...