Capuchin catacombs of Palermo คือ สุสานใต้ดิน ในเมืองพาเลอร์โม ( Palermo ) บนเกาะซิซิลี ( Sicily ) ทางเหนือ ของ ประเทศอิตาลี ( Italy ) ในช่วงปี 1534 เหล่าพระคาปูชิน ที่อยู่ในวัดที่ พาเลอร์โม เมื่อมรณภาพจะใช้การฝังในถ้ำ เมื่อเวลาผ่านไปถ้ำดังกล่าวเกิดเต็มจนไม่สามารถใช้ฝังพระได้อีกต่อไป ทำให้ในปี ค.ศ. 1599 จึงเริ่มีการขุดอุโมงค์ใต้อารามเพื่อดัดแปลงเป็นที่ฝังศพแทนถ้ำที่เต็มหลังขุดเสร็จ หลวงพ่อ Silvestro of Gubbio เป็นพระรูปแรกที่ถูกฝังที่สุสานนี้ และถือเป็นจุดเริ่มต้นของ 1 ใน สถานที่ท่องเที่ยว สุดสยอง ที่ได้รับความนิยมที่สุดใน ประเทศอิตาลี่
ในช่วงแรกในการสร้าง สุสานใต้ดิน คาปูชิน แห่ง พาเลอร์โม นั้นต้องการเป็นที่เก็บศพของพระ เท่านั้น เวลาผ่านไปเป็นร้อยๆปี จนกระทั้งในปี 1871 หลวงพ่อ ลิคคาร์โด เป็นพระ รูปสุดท้ายที่ถูกนำศพมาเก็บไว้ที่สุสานแห่งนี้ แต่คนชั้นสูง หรือผู้ร่ำรวยที่จะต้องการรักษาศพของตน ไว้ในสุสานแห่งนี้ แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายให้ทางวัดเป็นรายปีเพื่อการฝังศพไว้ในสุสานนี้ เรือยๆมาจนกระทั้งศพสุดท้ายที่นำเข้ามเก็บทีนี้ในช่วงปี 1920 ซึ่งเวลานั้นรวมทั้งหมดมีศพ ฝังอยู่กว่า 8,000 ศพ และหนึ่งในศพท้ายที่นำเข้าฝังไว้ที่สุสานนี้ คือศพของ Rosalia Lombardo และเธอถือเป็น จุดดึงดูด นักท่องเที่ยว ที่สำคัญที่สุดสำหรับ สุสานใต้ดิน คาปูชิน แห่ง พาเลอร์โม
ภายใน สุสานใต้ดิน คาปูชิน แห่ง พาเลอร์โม
ทำไม ศพที่เก็บไว้ที่ สุสานใต้ดิน คาปูชิน แห่ง พาเลอร์โม จึงไม่เน่า และกลายเป็น มัมมี่
Stainer คือห้องสำหรับเตรียมศพ เพื่อทำเป็นมัมมี่ ป็นห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดประมาณ 4 x 5 เมตร หลังคามีลักษณะโค้ง ( Vault ) มีช่องระบายอากาศขนาด เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 8 เซ็นติเมตร อยู่บนผนัง แล้วทำศพด้วยเครื่องแต่งกายชั้นดี ที่บ่งบอกอาชีพ ฐานะ ของแต่งศพนั้น แล้วนำศพไปบรรจุในโลง ( Coffin ) หรือแขวนไว้บนตะขอบนกำแพง บ้างก็นำไปตั้งไว้ในช่องบูชา ( Niche ) ที่ขุดเป็นช่องตามผนัง
วิธีแรก เก็บศพไว้ในห้องเล็กๆที่เรียกว่า " Stainer " ที่เห็นตามโถงทางเดินหลักของสุสาน ภายในห้องจะมีตะแกรงที่ทำจากกระเบื้องเคลือบ ( Ceramic ) โดยศพจะถูกวางไว้ตะแกรงดังกล่าว ที่ด้านล่างของกระแกรงจะรองไว้ด้วย หินปูน เพื่อใช้ดูดความชื้น น้ำเหลือง น้ำหนอง ต่างที่ไหลออกมาจากศพจนแห้ง โดยใช้เวลา ประมาณ 8 เดือน หรือมากกว่า ขั้นตอนจะทำการล้างศพด้วยน้ำส้มสายชู วิธีที่สอง ในกรณีเกิดมีโรคระบาด หรือ มีศพจำนวนมาก จะใช้วิธีฝังศพไว้ในปูนขาว หรือ สารหนู
สูตรลับ ในการดองศพ ที่ได้ชื่อว่าเป็น มัมมี่ที่สวยที่สุดในโลก
Secret process เป็นวิธีการดองศพ ด้วยเทคนิคพิเศษ และเป็นความลับมานาน เกือบร้อยปี มีเพียง ศพเดียวที่ได้ใช้วิธีการนี้ คือศพของ Rosalia Lombardo ที่มีอายุ 2 ขวบ เธอป่วยเป็นโรคปวดบวมตายเมื่อปี 1920 ศพนี้ได้ผ่านขบวนการ ดองศพ โดย Alfredo Salafia ด้วยสูตรลับ จนทำให้ศพของ โรซาเลีย เป็น ศพ ที่ สวยที่สุดในโลก โดยใช้วิธีดังต่อไปนี้ wowboom
ใช้ ฟอร์มารีน ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ใช้ แอลกอฮอล์ ทำให้ศพแห้ง ใช้ กลีเซอร์ลีน ( Glycerin ) ช่วยให้ศพไม่แห้งจนเกินไป ใช้สาร ซาลิไซลิคแอซิต ( Salicylic Acid ) ในการฆ่าพวกเชื้อรา ( Fungi ) ส่วนผสมที่สำคัญที่สุดคือ Zinc Salts ที่จะทำให้ศพของเธอแข็ง จนสามารถยกตั้งยืนได้