Cwi แฉ ! วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน ทรมาน "เสือ"

เจ้าอาวาสวัดป่าหลวงตาบัว ทรมานสัตว์

องค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติ CWI แฉ! วัดหลวงตาบัว ทรมานเสือ ทุบตี เลี้ยงดู ไม่ได้มาตรฐาน ร้องกรมอุทยานยึดคืนสัตว์ ห่วงนักท่องเที่ยวไร้ความปลอดภัย อาจถูกเสือกัดหิวกระหายกัดอ้าง ทางวัดไม่รับผิดชอบ

นายกูนา สุบรามาเนียม องค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติจากประเทศสหราชอาณาจักรภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(CWI) เปิดเผยเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ว่า เจ้าหน้าที่ของ CWI ได้เข้าไปเก็บข้อมูลเรื่องเสือ ที่ วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ซึ่งใช้เวลา 2 ปี  พบว่า ในแต่ละวันวัดแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าเยี่ยมชมเป็นจำนวนมากถึงวันละ 300-900 คน โดยได้รับแรงผลักดันจากสารคดีที่นำเสนอวัดแห่งนี้ และทำการแพร่ภาพไปทั่วโลกทางช่อง Animal Planet 

“เราพบว่า มีเสือประมาณ 15 ตัวอาศัยอยู่ด้วยกันที่วัดในช่วงระยะเวลาหนึ่ง  ที่อยู่อาศัยอันไม่ได้มาตรฐาน การเลี้ยงดู และการจัดการอย่างโหดร้ายทารุณ เสือไม่เพียงแต่จะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินไปมาอย่างมีอิสระเท่านั้น พวกมันถูกกักกักขังเป็นเวลา 20 ชั่วโมงต่อวัน ต้องอยู่ในกรงคอนกรีตที่เล็กและแคบ โดยวัดขนาดได้เพียง 31.5 ตร.ม. ถึง 37.5 ตร.ม. กรงขนาดนี้มีพื้นที่ต่ำกว่าขนาดกรงที่ถูกโฆษณาไว้ว่ามีขนาดใหญ่อย่างน้อย 500 ตร.ม.ต่อเสือหนึ่งคู่หรือต่อแม่เสือและลูก   ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าหน้าที่ของวัดมักทุบตีเสือโตเต็มวัยและลูกเสือด้วยไม้และแท่งเหล็กอย่างเป็นประจำอีกด้วย ส่งผลให้เสือเหล่านี้ต้องทรมานกับปัญหาต่างๆทั้งด้านร่างกายและด้านพฤติกรรม ซึ่งรวมถึง  อาการเดินกระเผลก โครงกระดูกผิดรูป และพฤติกรรมการทําซํ้า เช่น การเดินวน และการทำร้ายร่างกายตนเอง เรื่องร้องเรียนเหล่านี้ยิ่งแย่ลงเมื่อถูกนำมาประกอบกับเรื่องภาวะการขาดแคลนโภชนาการของสัตว์ และการดูแลรักษาจากสัตวแพทย์ที่ไม่พอเพียง” นายกูนา กล่าว

นายกูน่า กล่าวว่า

ในความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวก็น่าเป็นห่วงอย่างมาก เจ้าหน้าที่วัดอ้างว่า เสือเลี้ยงเชื่อง มีนิสัยอ่อนโยนและได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดีนั้น แต่เจ้าหน้าที่ของวัดเองก็ไม่สามารถที่จะป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้นจากเสือโดยตรงได้แม้กระทั่งในเวลาที่เสือมีอาการก้าวร้าว

“เราเคยถามเจ้าอาวาสวัดว่า ทำไมนักท่องเที่ยวจึงไม่ถูกเสือกัด ท่านตอบว่า เสือพวกนี้อยากกัด และวันหนึ่งในอนาคตพวกมันก็จะเริ่มกัด และวัดก็ปฏิเสธที่จะรับผิดชอบอย่างลิ้นเชิงหากมีความบาดเจ็บใดๆเกิดขึ้น อีกทั้งยังขอให้นักท่องเที่ยวลงนามยินยอมในเอกสารไม่เอาผิดก่อนเข้าเยี่ยมชมวัดอีกด้วย” นายกูนา กล่าว

"เราเคยขอพบท่านเจ้าอาวาสของวัดเสือแห่งนี้เพื่อที่จะคุยถึงปัญหาต่างๆและพยายามหาทางแก้ไข แต่ท่านเจ้าไม่ยินดีที่จะคุย ทั้งยังแสดงให้เห็นว่าท่านไม่สนใจที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้อีกด้วย เราขอเสนอแนะให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้ายึดเสือที่ทางวัดครอบครองโดยผิดกฎหมาย และนำสัตว์ส่งไปยังศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่าที่ซึ่งสามารถจัดหาที่อยู่และสามารถดูแลสัตว์ได้อย่างเหมาะสม โดยทาง CWI ได้พบสถานเลี้ยงดูที่เหมาะสมในประเทศไทย และเสนอว่าจะทำการสนับสนุนการดำเนินการนี้อย่างเต็มที่”นายกูนา กล่าว

นายกมลวัฒน์ วิเศษศิริ รักษาการรองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธืพืช กล่าวว่า

กรมอุทยานฯเคยเข้าจับกุมสัตว์ป่าในวัดแห่งนี้แล้วตั้งแต่ปี 2544 ขณะนั้นมีเสือ 7 ตัว และสัตว์อื่นๆรวม 275 ตัว แต่เข้าจับกุมแล้ว ไม่มีผู้ต้องหา สัตว์ทั้งหมดจึงตกเป็นของหลวง ถือเป็นสัตว์ของกลาง เมื่อจับแล้ว กรมอุทยานฯไม่มีที่เลี้ยง ทางมูลนิธิวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน โดยนายสัตวแพทย์ สมชัย วิเศษมงคล จึงรับอาสาจะเลี้ยงเอาไว้ก่อนในวัด ระหว่างนั้น ได้ทำเรื่องขอจดทะเบียนตั้งเป็นสวนสัตว์สาธารณะ เมื่อตั้งได้แล้ว จะขอซื้อสัตว์ของกลางทั้งหมดในวัดไปไว้ที่สวนสัตว์ดังกล่าว ตามกฏหมายแล้วอธิบดีกรมอุทยานฯสามารถใช้ดุลยพินิจในการจำหน่ายสัตว์ทั้งหมดได้

ที่มา มติชนออนไลน์

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...