Crop circles and their message

 

 

 
 

1. บทนำ
ทุกปี มีการสรรสร้างมากกว่า 200 แบบปรากฏขึ้นในทุ่งธัญพืชทั่วโลก รูปแบบที่พืชถูกทำให้พังล้มราบลง ได้ถูกรายงานเป็นข่าวออกไปจากทั่วทุกทวีป ในราวๆ 30 ประเทศ แต่ส่วนใหญ่จะปรากฏอยู่ในตอนใต้ของประเทศอังกฤษ


ตั้งแต่ต้นปีทศวรรษคริสตศักราชที่ 1990 รูปแบบวงกลมเรียบง่ายดั้งเดิมได้ถูกพัฒนาขึ้นไปเป็นรูปแบบทางเรขาคณิตที่มีความซับซ้อนขนาดมหึมา และมีความสวยงาม ด้วยสัดส่วนที่เที่ยงตรงอย่างน่าอัศจรรย์ ส่วนมากจะพบว่าเกิดในทุ่งต้นข้าวสาลี ข้าวบาร์เล่ย์ และเมล็ดทำน้ำมัน แต่ก็มีรายงานว่าพบในที่อื่นๆอีกด้วย ได้แก่ ต้นข้าวไรย์ ต้นข้าวโอ๊ต ต้นป่าน ต้นข้าวโพด ต้นอ้อย ต้นถั่ว ต้นมันฝรั่ง ต้นดอกทานตะวัน ต้นหญ้า ไร่ผลไม้ นาข้าว หิมะ และน้ำแข็ง

หลายปีผ่านไป การก่อรูปวงกลมปริศนานี้ได้ถูกเหมาว่าเกิดขึ้นจากการกระทำตามปกติที่ไม่มีความพิสดารอะไรทั้งสิ้น อาทิเช่น คนเมาที่ใช้เชือกผูกลากแผ่นไม้ ชาวไร่ชาวนาวัยรุ่นและห่ามๆ นักเรียนทางศิลปะแบบตื่นจากฝัน นักหนังสือพิมพ์ที่ตกงาน การหมักปุ๋ยที่เกินกำลังผลิต สัญญาณรบกวนจากโทรศัพท์มือถือ ลูกนก วัวที่มีพรสวรรค์ด้านเรขาคณิต และเม่นที่ต้องการผสมพันธุ์


แม้ว่าสาธารณชน ผู้สื่อข่าวและหน่วยงานทางวิทยาศาสตร์ ล้วนแล้วแต่เอนเอียงที่จะเชื่อว่าสิ่งมหัศจรรย์นี้เป็นการกระทำของคนพิเรนขี้เล่นกลุ่มหนึ่งเท่านั้น แต่ความจริงก็คือ มีหลักฐานแน่นหนาว่า มีพลังที่ไม่สามารถอธิบายได้และเ่ด่นด้วยอัจริยภาพ เป็นผู้ทำงานชิ้นนี้ 
 
 
2. การหลอกลวงของ ดั๊กและเดฟ

เมื่อวันที่ 9 กันยายน ค.ศ.1991 หนังสือพิมพ์บริติช แทบลอยด์ ทูเดย์ ได้พาดหัวข่าวหน้าหนึ่งความว่า ‘ชายผู้ต้มตุ๋นโลก’ ในเนื้อหาข่าวกล่าวว่า ทุ่งวงปริศนาในประเทศอังกฤษนั้นเป็นผลงานของนักโทษชายสองคน ได้แก่ ดั๊ก โบว์เวร์ และ เดวิด คอร์ลีย์ อายุ 67 และ 62 ปีตามลำดับ อุปกรณ์ที่พวกเขาใช้นั้นเป็น แผ่นไม้กว้างสี่ฟุตและม้วนเชือกก้อนหนึ่ง พร้อมกับสายที่ห้อยหมวกเบสบอลที่ใช้เป็นอุปกรณ์การกำหนดจุดทิศทาง ที่ทำให้พวกเขาสามารถสร้างรูปเป็นเส้นตรงอย่างแม่นยำสมบรูณ์แบบโดยการมองเพ่งไปที่วัตถุที่ไกลออกไป – ทั้งหมดนี้ทำขึ้นในค่ำคืนอันมืดมิด!

ในการทำให้ทุ่งมีลักษณะราบเรียบในบริเวณที่ไม่คาบเหลื่อมกับทางล้อรถ (รอยที่เกิดขึ้นจากรถแทร็กเตอร์เมื่อพ่นสเปรย์ทุ่งไร่) พวกเขาบอกว่าพวกเขาจะยืนในฝั่งข้างในของทางล้อรถ แล้วก็กระโดดข้ามหรือกระโดดค้ำถ่อเข้าไปในทุ่งที่ต้นพืชตั้งอยู่ นี่เขากำลังพูดถึงการกระโดดค้ำถ่อที่มีระยะไกลเกือบ 35 ฟุต – นั่นเป็นสถิติในระดับโอลิมปิคเลยเชียวนะ พวกเขาพูดว่า ความคิดในการสร้างทุ่งวงปริศนานั้นเกิดขึ้นในเย็นวันหนึ่งที่ร้านเหล้า ในปีค.ศ. 1978 และแรงบันดาลใจของพวกเขาก็คือ ‘เพื่อได้หัวเราะสนุกๆ’

ไม่เพียงแต่พวกเขาไม่เคยถูกจับได้ในขณะที่ทำเรื่องนี้อยู่จริงๆเท่านั้น แม้แต่ภรรยาของพวกเขาก็ไม่เคยรับรู้เลยว่าพวกเขาหายไปในเวลากลางคืนตอนไหนเลย
 




พวกเขาได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถสร้างแบบทรงกลมหยาบๆบนกระดานในเวลากลางวัน - แต่ขาดซึ่งความแม่นยำทางเรขาคณิต ความสลับซับซ้อนและความสวยงามของวงกลมปริศนาอย่างที่พบในลักษณะที่มีองค์ประกอบงดงามสุดยอด ในเวลานั้น ‘วงกลมปริศนา’ ได้ปรากฏขึ้นในลักษณะของภาพสัญลักษณ์ที่ซับซ้อนแล้ว แต่ ดั๊กกับเดฟ ไม่สามารถที่จะอธิบายให้เชื่อได้ว่าพวกเขาสรรสร้างสิ่งเหล่านั้นได้อย่างไร พวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะลอกลายแบบไม้กางเขนลงบนกระดาษ ดังที่เขาได้อ้างว่าเขาเป็นผู้บรรจงสรรสร้างขึ้นแต่อย่างใด

เมื่อจำนนต่อหลักฐานที่ว่าพวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลยกับการก่อร่างสร้างรูปแต่อย่างใดเลย พวกเขาก็เริ่มกลับคำ หากแม้นว่า คำอวดอ้างเกินจริงของพวกเขาที่ว่าเป็นผู้สร้างวงกลมปริศนาจำนวน 250 แห่งในประเทศอังกฤษ ตั้งแต่ปีค.ศ.1978 จะเป็นความจริงก็ตาม นั่นก็ยังทิ้งให้วงกลมปริศนาอีกจำนวน 1750 แห่งในประเทศอังกฤษและประเทศอื่นๆ ยังคงเป็นปริศนาต่อไป รวมไปถึงวงกลมปริศนาที่ปรากฏไปแล้วก่อนหน้าปีค.ศ.1978 อีกด้วย

เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้สาธารณชนจำนวนมาก หยุดเชื่อว่าวงกลมปริศนาเหล่านี้ถูกทำขึ้นโดยมนุษย์ หลายคนพบว่านี่มันน่าสนุกมากกว่า ความเป็นไปได้ที่จะไขปริศนาที่เกิดขึ้นในท้องทุ่ง ดังนั้น ดั๊กและเดฟ ‘ได้ต้มตุ๋นลวงโลก’ สำเร็จลุล่วงไปแล้ว – แม้ว่าจะไม่ใช่ในแบบที่คนส่วนใหญ่จะคิดกันก็ตามที!

หลังจากที่พวกเขาได้เกษียณแล้ว ทุ่งวงปริศนาก็ยังคงปรากฏขึ้นอย่างที่เคยเป็นมาในปี ค.ศ.1991 - แต่ไม่เป็นที่สนใจเท่าไหร่นักต่อผู้สื่อข่าวอีกต่อไป


3. วิวัฒนาการของวงกลมปริศนา

เมื่อดั๊กและเดฟได้กล่าวอ้างว่าได้สร้างวงกลมปริศนาอันมหัศจรรย์เพื่อที่จะล้อเล่นในปีค.ศ. 1978 นั้น พวกเขาไม่เคยรู้เลยว่ามีเอกสารข้อมูลกว่า 300 ชิ้นที่มีมาก่อนการค้นพบความสามารถของพวกเขา มีรายงานเป็นระยะๆเกี่ยวกับทุ่งวงปริศนาที่ถูกค้นพบในประเทศอังกฤษตลอดศตวรรษที่ 20 แต่รายงานดังกล่าวจริงๆแล้วมีย้อนกลับไปถึงหลายร้อยปีก่อนหน้านั้นเสียอีก

ในความเชื่อพื้นบ้านของศตวรรษที่ 16 และ 17 เราพบเรื่องราวเกี่ยวกับทุ่งหญ้าและเผ่าเอลฟ์ที่เต้นรำอยู่ในทุ่งกว้างและทิ้งรอยเหยียบย่ำบนหญ้าเป็นวงกลม ภาพสัญลักษณ์ตัวแทนของทุ่งวงปริศนาที่เกิดขึ้นเริ่มแรกสุดได้พบในไม้แกะสลักในปีค.ศ. 1678 ซึ่งภาพแสดงถึง ‘ปีศาจดายหญ้า’ กำลังเก็บเกี่ยวข้าวโอ๊ตจนแบนราบไปเป็นรูปวงกลม เรื่องราวที่เป็นที่มาของรูปสลักดังกล่าวก็คือ ชาวนาปฏิเสธที่จะจ่ายในจำนวนที่ผู้เก็บเกี่ยวเรียกร้อง และบ่นงึมงำว่าเขายอมให้ปีศาจเอาข้าวโอ๊๊ตของเขาไปเสียดีกว่า

ในระหว่างกลางคืนที่มีแสงและเสียงแปลกๆให้ได้เห็นและได้ยิน และเช้าต่อมา ชาวนาได้พบว่าบางส่วนของทุ่งไร่ของเขาล้มลงเป็นรูปวงกลมอย่างสวยงาม


 
ในปีค.ศ. 1686 นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ โรเบิร์ต พล็อต ได้ตีพิมพ์หนังสือชื่อ ประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติแห่งแสตปฟอร์ดชายน์ ซึ่งรวบรวมพื้นที่รูปทรงเรขาคณิต ของพืชแบนราบที่พบในทั้งทุ่งเพาะปลูกและทุ่งเลี้ยงสัตว์ เขารายงานว่าเนื้อดินภายใต้บริเวณนั้นร่วนซุยและแห้งกว่างปกติ และมีส่วนขาวซีดๆเหม็นอับหรือคราบน้ำค้างแข็ง ‘คล้ายๆเนื้อเชื้อราขนมปัง’ พบได้ที่พืชในบางครั้ง

เขาสร้างสมมติฐานว่ารูปแบบถูกสร้างขึ้นโดยแสงที่ประทุขึ้นจากกลุ่มหมอกควัน ในเดือนกรกฎาคม ปีค.ศ. 1880 วารสารทางวิทยาศาตร์ธรรมชาติได้ตีพิมพ์จดหมายจากนักวิทยาศาสตร์ผู้ซึ่งอธิบายถึงการค้นพบบริเวณพื้นที่รูปวงกลมที่เกิดจากต้นข้าวสาลีล้มในไร่แห่งหนึ่งทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ

เขาเห็นว่าสิ่งเหล่านี้เป็นผลพวงมาจาก ‘แรงลมพายุหมุนไซโคลน’



Fig. 3.2 One of Robert Piot's Illustrations of a crop design
 
 
 
นับแต่ปลายปีค.ศ. 1970 ตัวเลขของวงกลมปริศนาได้เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย โดยเฉพาะในทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษบริเวณวิวเชอร์สและแฮมป์เชียร์ส ทั้งนี้รูปแบบก็ได้เริ่มมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นอีกด้วย รูปวงกลมแต่ละอันได้หมุนและสร้างให้เกิดวงกลมจำนวนมากขึ้น และบางครั้งได้ถูกจัดสร้างขึ้นแบบเจาะจง วงกลมห้าวงอันแรก (วงกลมที่ล้อมรอบด้วยวงกลมเล็กกว่าสี่วง มีระยะห่างเท่าๆกัน คล้ายการโคจรของดาวเทียม) ปรากฏขึ้นในปีค.ศ. 1978 ในเวลาต่อมา วงกลมห้าวง ก็ได้ปรากฏขึ้นพร้อมด้วยวงแหวนที่เชื่อมดาวเทียมอันนอก รวมเป็นรูป ‘ไม้กางเขนล้อมด้วยวงกลม’ 


วงกลมปริศนาที่มีวงแหวนหลายๆวงเป็นศูนย์กลางรอบๆ ก็เริ่มจะปรากฏให้เห็นขึ้น
 


Fig. 3.3 A quintuplet, Beckhampton, Wiltshire, 3 August 1988




Fig. 3.4 Triple ringer, Warminster, Wiltshire, July 1990.
Note the seemingly randomly-placed mini-circles or 'grapeshot', a common feature in the early days.

ปีค.ศ.1990 เราได้เห็นภาพสัญลักษณ์อันแรก ที่ประกอบด้วยวงกลม วงแหวน สี่เหลี่ยมผืนผ้า เส้นตรง และสามง่าม ร้อยเรียงต่อกัน และรูป ‘กุญแจ’ ‘กรงเล็บ’ ส่วนรูป ปลาวาฬ/ปลาโลมา และรูปแมลงวัน ก็เริ่มเป็นที่ปรากฏในปีต่อๆมา สัญญลักษณ์ภาพในทุ่งไร่นับจากปีค.ศ. 1994 ก็รวมถึง ‘ภาพกล่องความคิด’ ซึ่งเกิดจากรวมรูปพระจันทร์เสี้ยวเข้าไปสู่รูปภาพคล้ายๆแมงมุมและแมงป่อง

ในปีนั้นเช่นเดียวกัน เราได้เห็นทุ่งไร่ีีที่มีรูปเกี่ยวกับดวงดาว ซึ่งรวมถึงกาแล็คซี วงแหวนดาวเคราะห์ และวงโคจรดาวเคราะห์ทั้งหลาย ตั้งแต่ปลายปีทศวรรษที่ 1990 รูปแบบก็ได้พัฒนาขึ้นไปจนมีความซับซ้อนอย่างเหลือเชื่อและอัศจรรย์ใจยิ่งนักในทางด้านรูปทรงเรขาคณิตต่างๆ หรือ ภาพวงกลมแมนดาลา รูปทรงเรขาคณิตเจ็ดส่วน ก็ปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกในปีค.ศ. 1998 ส่วนรูปทรงเรขาคณิตเก้าส่วน ก็พบในปีค.ศ. 1999 และรูปทรงเรขาคณิตสิบเอ็ดส่วน ก็พบเจอในปีค.ศ. 2000

ตั้งแต่ปีค.ศ. 1999 รูปสัญลักษณ์ในทุ่งไร่หลายแห่งได้สร้างขึ้นเป็นภาพลักษณะสามมิติ



Fig. 3.5 Alton Barnes, Wiltshire, 11 July 1990.
This huge pictogram gained worldwide publicity and attracted thousands of visitors.

โดยรวม วงกลมปริศนาจำนวนมากกว่า 10,000 แห่งได้ถูกบันทึกไว้ทั่วโลก ในจำนวนนี้มีมากกว่า 700 แห่งที่ปรากฏในปีค.ศ. 1991 โดย 229 แห่งได้ถูกรายงานจากทั่วโลกในปีค.ศ.2004 และ 33.9%ของทั้งหมดนี้ก็ปรากฏในประเทศอังกฤษ ที่ซึ่งดูเหมือนว่าวงกลมปริศนาจะปรากฏขึ้นรอบๆบริเวณกองหินศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย อาทิเช่น กองหินสโตนเฮ้นจ์ อัฟเบอรี่ และเขาซิลเบอรี่

ประเทศอื่นที่พบเจอทุ่งวงปริศนาก็ได้แก่ เยอรมัน (13.2%) สหรัฐอเมริกา (9.2%) สาธารณรัฐเชค (8.4%) และอิตาลี (8.4%)

 
 

Fig. 3.6 The ‘Tetrahedron’, Barbury Castle, Wiltshire, 17 July 1991.
The day after it appeared, a British newspaper ran a photo of the design with the headline, ‘Now explain this one’.








Fig. 3.7 ‘Scorpion’ or ‘dragonfly’, Bishops Cannings, Wiltshire, 15 July 1994.

 

 


Fig. 3.8 Galaxy design, West Stowell, Wiltshire, 23 July 1994.

It has been interpreted as showing a conjunction of planets in the constellation Cetus that occurred in April 2000.

 
 



Fig. 3.9 ‘Spiderweb’, Avebury, Wiltshire, 11/12 August 1994.

The shimmering effect is created by the crop being laid in opposing directions.

 
 



Fig. 3.10 Solar system glyph, Longwood Warren, Hampshire, 22 June 1995.

It depicts the Sun, Mercury, Venus, the Earth’s orbit, Mars, and Jupiter’s orbit.
According to Gerald Hawkins, it shows a planetary alignment that occurred on 6 November 1903,
the day the Wright brothers proved that man could fly, and again on 11 July 1971, during Mariner 9’s journey to Mars.

 
 



Fig. 3.11 ‘Julia Set’, Stonehenge, Wiltshire, 7 July 1996.

This 115-metre-wide spiral of 151 circles appeared in broad daylight in full view of a busy road,
just opposite Stonehenge, within a 15-minute time-window (according to testimony from pilots,
a farmer, a security guard, and motorists calling the police).
A professional surveying engineer said it would take him about two full days to lay out the design.

 
 



Fig. 3.12 ‘Koch fractal’, Milk Hill, Wiltshire, 8 August 1997.

Two engineering firms estimated that staking out the 346 reference points required
to construct the design prior to flattening the wheat would take 6.5 to 7.5 days, or 11 days if done under cover of darkness.
Yet the formation had definitely appeared overnight.

 
 



Fig. 3.13 The ‘Flower’ and ‘Grid square’ appeared on the same night, Etchilhampton, Wiltshire, 1 August 1997.

The square within the circle is gridded with 28 by 25 narrow, ruler-straight channels.

 
 



Fig. 3.14 Hackpen Hill, Wiltshire, 4 July 1999.

 
 



Fig. 3.15 3-D ‘ribbon’, Beckhampton, Wiltshire, 28 July 1999.

 
 



Fig. 3.16 14-pointed star, Roundway, Wiltshire, 31 July 1999.

 
 



 



Fig. 3.17 ‘Magnetic fields’, Avebury Trusloe, Wiltshire, 22 July 2000.

 
 



Fig. 3.18 ‘The angel’, Great Shelford, Cambridgeshire, 25 July 2001.

 
 



Fig. 3.19 Ribbon design, Stonehenge, Wiltshire, 4 July 2002.

 
 



Fig. 3.20 Petal design, West Overton, 21 May 2003.

The plants in this glyph had been gently brushed over into a near-vertical position, so that from the air the formation is barely visible.
As the undamaged plants recovered and rose towards their normal, upright position,
they did so in alternate bundles, producing a rippling, standing-wave pattern.

 
 
 



Fig. 3.21 Hackpen Hill, Wiltshire, 20 July 2003.

 
 



Fig. 3.22 Huish, Wiltshire, 20 July 2003.

 
 



Fig. 3.23 North Down, Wiltshire, 10 August 2003.

 
 

#Crop #circles #and #their #message
Dhef
นักแสดงนำ
สมาชิก VIP
21 ก.พ. 56 เวลา 10:48 2,114
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...