รวบไอ้หื่น ถ่ายคลิปบังคับข่มขืนสองแม่-ลูก มาราธอน 9 ปี

ภาพจากอินเตอร์เนต ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว

 นาง ปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี (องค์กรสาธารณประโยชน์) ได้พาสองแม่ลูกเดินทางไปที่ บก.ภ.สมุทรปราการ พบกับพล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง ผบก.สมุทรปราการ และพ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ ผกก.สภ.บางพลี เพื่อชี้ตัวนายมนต์ชัย เชื้อสุข อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 118 ม.7 ต.บ้านสร้าง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ผู้ต้องหาในคดีข่มขืนกระทำชำเรา
ทั้งนี้ มารดา อายุ 48 ปี ได้พาลูกสาว อายุ 18 ปี เข้าพบนางปวีณา เพื่อขอความช่วยเหลือกรณีทั้งคู่ถูกถ่ายคลิปแบ ล็กเมล์และข่มขืน ตั้งแต่ลูกสาวอายุเพียง 9 ขวบเท่านั้น ต่อเนื่องมาเป็นเวลานานกว่า 9 ปี นอกจากนี้ ยังใช้อุบายอ้างว่าคลิปหลุดและให้บุคคลอื่นร่วมข่มขืน โดยหลอกว่าเป็นการแลกกับคลิปที่หลุดไป จนลูกสาวทนไม่ไหวบอกแม่ พากันเดินทางเข้าพบนางปวีณาเพื่อขอความช่วยเหลือ จับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
เหยื่อสาวที่เป็นแม่กล่าวว่า ตนแต่งงานกับสามีมีบุตรสาวด้วยกัน 1 คน ขณะที่ลูกสาวอายุ 8 ขวบ สามีต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัดกลับมาบ้านเดือนละประมาณ 2 ครั้ง ช่วงเวลาดังกล่าวตนได้รู้จักกับนายมนต์ชัย ซึ่งอยู่บ้านใกล้กับบ้านแม่ของตนที่ จ.ปราจีนบุรี นายมนต์ชัยเข้ามาตีสนิท ตนเห็นว่าเป็นคนดี ชอบถือศีลเข้าวัดทำบุญจึงคบหาพูดคุยด้วย
เหยื่อกล่าวต่อว่า อยู่มาวันหนึ่งนายมนต์ชัยชักชวนตนไปทำบุญไหว้พระ แต่หลังจากที่ได้ไหว้พระเสร็จแล้วระหว่างทางกลับบ้านนายมนต์ชัยได้ใช้อุบาย หลอกว่าปวดท้องต้องเข้าห้องน้ำกะทันหันจึงขอแวะเข้าโรงแรมข้างทางโดยให้ตน นั่งรออยู่ในรถ หลังจากที่นายมนต์ชัยออกจากห้องน้ำก็ได้บอกให้ตนไปเข้าห้องน้ำบ้าง ระหว่างเข้าห้องน้ำนายมนต์ชัยกลับตามเข้าไปล็อกห้องและบังคับข่มขืนตน พร้อมข่มขู่ให้ตนพาเข้าไปอยู่ในบ้านโดยให้หลอกสามีว่าเป็นญาติกัน มิฉะนั้นจะบอกสามีว่าได้เสียกันแล้วและจะทำร้ายทุกคนในครอบครัวด้วย ตนจึงต้องยอมนายมนต์ชัยมาโดยตลอดเพราะกลัวว่าคนในครอบครัวจะถูกทำร้าย
เหยื่อกล่าวต่ออีกว่า ทุกครั้งที่นายมนต์ชัยต้องการหลับนอนจะเอายาผสมน้ำให้ดื่ม และยังถ่ายคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์ไว้ในโทรศัพท์มือถือด้วย ต้องทนทุกข์ทรมานเอาเงินให้นายมนต์ชัยตามที่ต้องการ เพราะหากไม่ให้จะถูกตบตี ทำร้ายร่างกาย และยังขู่จะส่งคลิปที่ถ่ายไว้ขณะมีเพศสัมพันธ์ไปให้สามีและคนอื่นเพื่อ ประจาน แต่เมื่อได้เงินตามที่ต้องการแล้วก็ไม่ยอมไปไหนหนำซ้ำยังบังคับให้ตนมีเพศ สัมพันธ์กับคนอื่นร่วมกับนายมนต์ชัยอีก จนทนไม่ไหวต้องหนีไปอยู่ต่างจังหวัด แต่ก็ถูกนายมนต์ชัยตามกลับมา นายมนต์ชัยกลับมาที่บ้านไม่พบตนและลูกสาว ก็ออกติดตามตนจนเจอ นายมนต์ชัยได้ทุบกระจกรถจนแตกด้วยความโมโห จึงกดโทรศัพท์แจ้งตำรวจ แต่ถูกกระชากโทรศัพท์มือถือและหลบหนีไป ตนได้เดินทางไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.บางพลี ต่อมาลูกสาวจึงตัดสินใจเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับตนเองให้แม่ฟังว่าถูกนาย มนต์ชัยข่มขืนตั้งแต่อายุเพียง 9 ขวบ โดยนายมนต์ชัยได้ข่มขืนระหว่างที่ตนไปซื้ออาหารที่ตลาดหรือขณะไม่อยู่บ้าน บางครั้งอ้างว่าไปส่งที่โรงเรียนแต่กลับพาไปข่มขืนที่โรงแรมจนถึงเวลาเลิก เรียนก็พากลับมาบ้าน
แม่เหยื่อเล่าต่อด้วยว่าลูกสาวจะถูกนายมนต์ชัยข่มขืนทุกครั้งที่มีโอกาส แต่ไม่กล้าเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ใครฟังเพราะนายมนต์ชัยข่มขู่ไว้ ว่าหากเล่าให้แม่ฟังก็จะถูกแม่ไล่ออกจากบ้าน และนายมนต์ชัยจะทำร้ายพ่อแม่ และทำร้ายทุกคนในครอบครัวด้วย ลูกสาวกลัวว่าพ่อแม่จะถูกทำร้ายจึงต้องยอมนายมนต์ชัย และทุกครั้งยังได้ถ่ายคลิปขณะข่มขืนไว้ในโทรศัพท์มือถือด้วย  นายมนต์ชัยได้ใช้อุบายหลอกว่าโทรศัพท์ที่มีคลิปขณะร่วมเพศตกไปอยู่กับนาย ต้น ต้องเรียกมาเจรจาเพื่อไม่ให้นำไปเผยแพร่หรือขายต่อให้คนอื่น สุดท้ายก็หลอกลูกสาวไปรุมโทรมร่วมกับนายต้น จนต้องเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.บางพลี
 หลัง รับแจ้งความแล้ว พ.ต.อ.กรวัฒน์ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.ภูวนาถ แก่นจันทร์ สว.สส.พร้อมกำลังชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบเพื่อหาข้อมูลจนทราบว่าผู้ต้องหาเคยมี คดีทำให้เสียทรัพย์อยู่ จึงได้ประสานให้เดินทางมาที่ สภ.บางพลีเพื่อทำธุรกรรม  นายมนต์ชัยได้เดินทางมาที่ สภ.บางพลี ชุดสืบสวนได้วางกำลังซุ่มอยู่และสามารถควบคุมตัวนายมนต์ชัยไว้ได้ตามหมายจับ ก่อนนำตัวมาสอบสวนโดยนายมนต์ให้การว่า ได้ร่วมหลับนอนกับผู้เสียหายทั้งสองจริง แต่เป็นช่วงเวลาประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมาเท่านั้นและที่ถ่ายคลิปไว้นั้นได้ตกลงกับผู้เสียหายว่าจะเก็บไว้ ดูตอนแก่ ส่วนข้อหาทั้งหมดให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
สำหรับสภาพจิตใจของเหยื่อสาวอายุ 18 ปียังไม่ดีขึ้น มูลนิธิปวีณาฯ จึงให้นักจิตวิทยาฟื้นฟูสภาพจิตใจและนางปวีณาได้เชิญคุณพ่อของเหยื่อมารับ ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อพ่อรับทราบเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นแล้วก็ได้เข้าสวมกอดลูกสาวและแม่ ทั้งสามคนพ่อ-แม่-ลูกกอดกันร้องไห้อย่างน่าสงสาร นางปวีณาแนะนำให้พ่อและแม่ดูแลลูกสาวอย่างใกล้ชิด ซึ่งมูลนิธิปวีณาฯ จะดูแลฟื้นฟูสภาพจิตใจของลูกสาว และติดตามความคืบหน้าทางด้านคดีต่อไป
 
 
 
 
 
 
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวสด

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...