ผู้ปกครองนักเรียน ม.1 จี้ตำรวจดำเนินคดีครูสอนดนตรีโรงเรียนใน จ.ภูเก็ต หลังลูกสาวและเด็กอื่น ๆ รวม 18 ราย ถูกครูลวนลาม เบื้องต้นพบประวัติก่อคดีที่โรงเรียนอื่น ๆ มาแล้ว

          เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจากผู้ปกครองของนักเรียนในจังหวัดภูเก็ต ว่า บุตรสาวของตนเองและนักเรียนหญิงอีกมากกว่า 10 ราย ถูกครูประจำวิชาดนตรีโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต ลวนลามทางเพศ โดยขณะนี้ได้มีการเข้าแจ้งความเพื่อเอาผิดกับครูสอนวิชาดนตรีแล้ว แต่ผลทางคดียังไม่คืบหน้าแต่อย่างใด

          โดย ผู้ปกครองได้นำตัว ด.ญ.สายฝน (นามสมมติ) นักเรียนชั้น ม.1 อายุ 13 ปี มาให้การว่า ถูกครูอุ้มไปนั่งบนตักแล้วใช้มือโอบกอดพร้อมกับหอมแก้ม จังหวะนั้นมีเพื่อนโทรมาในมือถือของตน ครูก็เดินจากไป เมื่อตนคุยโทรศัพท์เสร็จและกำลังจะออกจากห้อง ครูก็เดินเข้ามาอีกพร้อมกับเข้ามาโอบกอดหอมแก้มและไซร้ไปตามซอกคอ พร้อมถามว่าจะบอกเพื่อนอย่างไรที่ถูกครูทำแบบนี้
 
          นอกจากนี้ ด.ญ.น้ำหวาน (นามสมมติ) นักเรียนชั้น ม.1 อายุ 14 ปี กล่าวว่า ช่วงที่ตนเรียนอยู่ชั้น ป.6 วันหนึ่งขณะที่กำลังเรียนวิชาดนตรีกับครูคนดังกล่าว ช่วง ที่เพื่อนนักเรียนในชั้นทยอยออกจากห้องเกือบหมด มีตนกับเพื่อนนักเรียนราว 5-6 คนถูกครูกักตัวไว้ทำนองว่ามาสอบถามเรื่องการเรียน หลังจากนั้นก็ได้ลวนลามโดยการใช้มือมาโอบที่เอวแล้วลูบคลำพร้อมกับดึงสาย เสื้อชั้นใน โดยตลอดทั้งเทอมตนเองถูกครูคนดังกล่าวกระทำซ้ำแบบนี้ประมาณ 5-6 ครั้ง และช่วงที่ครูกระทำกับตนเองมีเพื่อนเห็นเหตุการณ์ที่พร้อมจะยืนยันได้ด้วย ซึ่งหลังเกิดเหตุตนได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ผู้ปกครองรับทราบเรื่อง แต่คุณแม่บอกไม่อยากให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต

          ขณะ เดียวกันกลุ่มเพื่อนที่ตนรู้จักและโดนกระทำมีทั้งหมด 4 คน บางรายก็ถูกครูใช้ให้ไปจับหน้าอกของเพื่อนนักเรียนหญิงอีกคน แล้วให้มาบอกครูว่าขนาดใหญ่หรือไม่แค่ไหน มีครั้งหนึ่งครูมาหลอกตนเองให้ไปนวดที่ห้องดนตรีภายในโรงเรียน ซึ่งทั้งห้องมีเพื่อนนักเรียนรวม 3 คน เพื่อนอีกคนก็ไปนวดที่ข้อเท้าตามที่ครูบอกให้นวด ระหว่างที่เพื่อนก้มลง ครูก็จ้องดูไม่ละสายตาแล้วถามว่าวันนี้ใส่เสื้อในสีนั่นสีนี้มาใช่ไหม

          ผู้ปกครองของ ด.ญ.สายฝน ยังระบุด้วยว่า จากการสอบถามผู้ปกครองหลายรายถึงพฤติกรรมลวนลามทางเพศของครูคนดังกล่าวทราบ ว่ามีประมาณ 18 ราย จึงหารือกับคุณครูคนหนึ่งในโรงเรียนเดียวกัน และตัดสินใจร้องเรียนสื่อมวลชน พร้อมเดินทางไปแจ้งความเอาผิดกับครูคนดังกล่าวต่อ พ.ต.ท.ยงยุทธ กรองมาลัย สารวัตรเวร อย่างไรก็ตาม ต่อมามีการขอเจรจาเพื่อไกล่เกลี่ย ซึ่งครูที่ถูกผู้ปกครองจะแจ้งความดำเนินคดีขอร้องอย่าให้เอาผิด โดยยืนยันว่าตนเองมิได้มีเจตนากระทำลวนลามลูกศิษย์แต่อย่างใด อาจเป็นการเข้าใจผิด

          นอกจากนี้ มี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัด และทางสมาคมผู้ปกครองโรงเรียนเดินทางมาพร้อมกับพยายามเจรจาไกล่เกลี่ย เพื่อไม่ให้ผู้ปกครองทั้งหมดแจ้งความดำเนินคดี โดยนัดทั้งสองฝ่ายมาเจรจาเพื่อไม่ให้มีข่าวครึกโครมอาจนำความเสื่อมเสียมา สู่สถานศึกษาด้วยข้อต่อรองว่า จะดำเนินการย้ายครูคนนี้ไปที่อื่น และให้ไปทำงานด้านธุรการ ซึ่งไม่ต้องมาสอนเด็กหรือใกล้ชิดกับเด็กนักเรียนหญิงอีก ทำให้ผู้ปกครองยอมตกลง แต่หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์ การเจรจาไม่เป็นผล โดยไม่มีสถานศึกษาใดยินดีรับครูคนดังกล่าว รวมถึงมีผู้ปกครองที่ทราบข่าวได้มารวมตัวเพิ่มขึ้น มีผู้ปกครองบางรายยืนยันที่จะเอาผิดกับครูคนดังกล่าวให้ถึงที่สุด จึงได้รวมตัวกันมาขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเอาผิดกับครูที่ก่อเหตุ และให้สื่อมวลชนร่วมเป็นพยาน

          จากการสอบถามความคืบหน้าการดำเนินคดีกับทาง พ.ต.ท.ยงยุทธ ได้รับการชี้แจงว่า พนักงานสอบสวนพร้อมจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย หลังจากที่มีผู้ปกครองประสงค์จะมาแจ้งความ ต่อมามีการขอเจรจาเพื่อไกล่เกลี่ยแต่ล่าสุดทราบว่า ไม่สามารถตกลงกันได้ มีผู้ปกครองบางรายนัดหมายที่จะเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับครูคนดังกล่าว ซึ่งพนักงานสอบสวนพร้อมที่จะรับแจ้งและลงบันทึกประจำวันในกรณีที่มีผู้ ปกครองแจ้งความตามที่มีการนัดหมายกัน

          ทั้ง นี้ สำหรับครูสอนดนตรีที่ถูกลูกศิษย์กล่าวหาว่ากระทำลวนลามทางเพศรายนี้ เคยถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาลวนลามลูกศิษย์และถูกศาลจังหวัดภูเก็ต พิพากษาลงโทษจำคุกในข้อหากระทำอนาจารเด็กนักเรียนหญิงอายุ 10 ขวบ รวม 4 คน ตามคดีหมายเลขดำที่637/2548 คดีแดงที่ 2322/2551 พิพากษาว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งมีรายงานว่าขณะนี้คดีดังกล่าวอยู่ในชั้นอุทธรณ์