ทีมสำรวจนานาชาติ เตรียมออกค้นหา เยติ สัตว์ประหลาดเเดนหิมะในตำนาน

 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กลุ่มนักวิทยาศาสตร์จากนานาประเทศ เตรียม

ร่วมมือออกสำรวจพื้นที่เคเมโรโว ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของแคว้นไซบีเรีย เพื่อตาม

หา เยติ มนุษย์หิมะ หรือ สัตว์ประหลาดเเดนหิมะในตำนาน หลังมีการเล่าขานกันว่า

พบในบริเวณนี้บ่อยครั้ง

โดยการออกสำรวจดังกล่าว เป็นการร่วมมือกันของ นักวิทยาศาสตร์จากประเทศรัสเซีย,

สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, สวีเดน, เอสโตเนีย, มองโกเลีย และจีน ซึ่งจากบันทึกพบว่าใน

ช่วงหลังนี้ มีการบอกเล่าว่าพบเจอเยติเพิ่มขึ้นจากเมื่อ 20 ปีที่แล้วถึง 3 เท่า และยังมีการ

พบหลักฐานหลายๆ อย่าง เช่น รอยเท้าที่เชื่อว่าเป็นของเยติขนาด 35 เซนติเมตร

กระท่อมที่สร้างจากกิ่งไม้ซึงคาดว่าเป็นที่พักอาศัย

ทั้งนี้ หัวหน้าศูนย์วิจัยมนุษยวิทยานานาชาติ ประจำกรุงมอสโก เปิดเผยว่า เขาเชื่อว่า เยติ

อาจจะเป็นมนุษย์ยุคหินหรือโฮโมเนแอนเดอร์ธัล ซึ่งเหลือรอดจากการทำลายล้างเผ่า

พันธุ์โดยมนุษย์ยุคแรกสุดหรือพวกโฮโมซาเปียน และใช้ชีวิตอยู่ตามป่าเขา จนกลายมา

เป็นเยติก็เป็นได้

ภาพ : รอยที่เชื่อกันว่าเป็นรอยเท้าของ เยติ

 

ข้อมูล เยติ จากวิกิพีเดีย


เยติ หรือ มนุษย์หิมะ (อังกฤษ: Yeti, Abominable Snowman) เยติ เป็นชื่อที่ใช้

เรียกสัตว์ประหลาดชนิดหนึ่ง ในความเชื่อของชาวเชอร์ปา ชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่

แถบเทือกเขาหิมาลัย ในประเทศเนปาลและธิเบต โดยเชื่อว่าเยติ เป็นสัตว์ขนาด

ใหญ่ที่คล้ายมนุษย์ผสมกับลิงไม่มีหางคล้าย กอริลลา มีขนยาวสีน้ำตาลแดงหรือ

น้ำตาลดำปกคลุมทั้งลำตัว โดยปรกติแล้ว เยติเป็นสัตว์ที่มีนิสัยสงบเสงี่ยม แต่อาจ

ดุร้ายโจมตีใส่มนุษย์และสัตว์เลี้ยงได้ในบางครั้ง

ภาพ : สิ่งที่เชื่อว่าหนังศีรษะของเยติ ในวัดลามะที่คุมจุงในปัจุบัน

 

เยติ ปรากฏอยู่ในวัฒนธรรมของชาวเชอร์ปามาอย่างช้านาน โดยถูกกล่าวถึงในนิทานและ

เพลงพื้นบ้าน และเรื่องเล่าขานต่อกันมาถึงผู้ที่เคยพบมัน นอกจากนี้แล้วยังปรากฏใน

ศิลปะของพุทธศาสนานิกายมหายานแบบธิเบต โดยปรากฏเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังใน

วัดลามะอายุกว่า 300 ปี และปัจจุบันนี้ ก็มีสิ่งที่เชื่อว่าเป็นหนังศีรษะของเยติถูกเก็บรักษา

ไว้อย่างดีในวัดลามะแห่งหนึ่งในคุมจุง ซึ่งนับว่าเยติเป็นสัตว์ที่ถูกกล่าวอ้างถึงยาวนานกว่า

สัตว์ประหลาดที่มีลักษณะคล้ายกันชนิดอื่นที่พบในอีกซีกโลก เช่น บิ๊กฟุต หรือ

ซาสควอทช์

เรื่องราวของเยติที่โจมตีใส่มนุษย์นั้น ได้ถูกทำเป็นรายงานส่งไปยังเมืองกาฐมาณฑุ เมือง

หลวงของเนปาล ซึ่งปากคำของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อถูกบันทึกโดยอาสาสมัครชาวอเมริกันที่

ทำงานในเนปาล โดยผู้ถูกทำร้ายเป็น เด็กหญิงชาวเชอร์ปาคนหนึ่ง โดยเธอบอกว่าขณะ

กำลังนำจามรีไปดื่มน้ำที่ลำธาร เยติตัวหนึ่งก็โผล่มาทำร้ายเธอ แต่เธอกรีดร้องลั่น จนมัน

ปล่อยเธอ และหันไปทำร้ายจามรีของเธอจนมันถึงแก่ความตายด้วยการบิดเขาและหักคอ

 

 

 
7 ต.ค. 54 เวลา 18:46 7,723 7 120
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...