โยนแม่ทิ้งกลางถนน .. นรกสุดๆ

โยนแม่ทิ้งกลางถนน ลองอ่านกันดูนะคะ ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้อ่านข่าวนี้ค่ะ มันเลวเหนือคำบรรยายจริงๆ


อ่านแล้วน้ำตาร่วงเลย


เรื่องของคุณยายอายุเจ็ดสิบ ชื่อคุณยายสง่า สังข์ทอง พิการ เดินไม่ได้ ต้องนั่งรถเข็น เป็นคนอยุธยา

ได้มาอยู่อาศัยกับลูกคนแล้วคนเล่าในจำนวนสี่คนที่เมื่อก่อนแม่เลี้ยงดูฟูมฟักมากับมือจนเติบใหญ่ทั้งสี่คน

แต่บัดนี้ แม่หาประโยชน์มิได้แล้ว รังแต่จะเป็นภาระ ลูกชาย   ลูกสาวนั้นก็พยายามหาทางผลักไส ให้แม่หนี

ไป ยายแกก็ไม่รู้จะไปไหนไปสุดท้ายมาขออาศัยลูกชาย ชื่อสุเทพ ก็เจอลูกสะใภ้ด่าว่าเข้าให้อีก

กินข้าวแต่ละมื้อกับน้ำพริก แม่ก็ต้องกินข้าวเคล้าน้ำตา ในที่สุด ทั้งลูกชาย และลูกสะใภ้ก็เรียกรถแท็กซี่มา

อุ้มแม่ไปทิ้งที่ซอยอ่อนนุช 46 เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พร้อมกับหมาหนึ่งตัวที่คุณยายแกเหลืออยู่...... คนที่

ช่วยเอาไว้ ก่อนจะนำส่งที่สถานสงเคราะห์ เล่าว่าคุณยายแกไม่กล้ากลับไปอยู่กับลูก เพราะกลัวจะถูกด่าว่า

รังแก เอาแต่ร้องไห้ และบอกว่า ถ้าลูกสำนึกได้แกก็ให้อภัยเสมอ โธ่เอ๋ย......... ผมไม่ทราบว่าท่านได้อ่าน

ข่าวเรื่องราวอย่างนี้ จะคิดอย่างไรกัน เทคโนโลยีก้าวหน้าไป คนไทยช่างทันสมัย   ไม่นึกถึงพระคุณผู้ที่ให้

กำเนิดแม้แต่น้อย ใจโหดร้ายพอที่จะโยนแม่ทิ้งกลางถนนพร้อมกับหมาหนึ่งตัวได้อย่างไม่อายฟ้าอายดิน   

คนไทยครับ.....เราเป็นอะไรกันไปแล้วหรือ ?? อีกความเห็นหนึ่ง คนเราทุกวันนี้ ก็แปลก มองเห็นเพื่อนๆ ที่

ทำงาน หลายคน มุ่งมั่นที่จะมีคู่ครองกันมาก ไม่เคยเห็นใครที่จะมุ่งมั่นเพื่อพ่อ แม่บ้างเลย ทุกคน อยากทำ

งาน เก็บเงิน ซื้อรถ เพื่อจะได้ขับไปทำงานอย่างสบาย อยากซื้อบ้านเพราะต้องการแยกตัวออกจาก พ่อ แม่

อยากแต่งงาน เพื่อเหตุผลแห่งการสืบพันธุ์อันเป็นธรรมชาติแห่งสัตว์โลก ทำงานหนักเพื่อความฟุ่มเฟือย ของ

ตนเอง ไม่ว่างานหนักแค่ไหนทนได้..แต่ไม่เคยทำงานบ้านเพราะอ้างว่าเหนื่อยมากพอแล้ว ทุกสิ่งในเนื้องาน

จำได้หมด...แต่ไม่เคยจำได้ว่าพ่อแม่ชอบกินอะไร เจ้านาย อยากได้อะไรทำให้ได้หมด...แต่ไม่เคยทำอะไร

ให้พ่อแม่ คุณพาคู่รักไปท่องเที่ยว หาอาหารอร่อยๆกินได้ทุกที่...แต่ไม่เคยแม้แต่ซื้อกับข้าวกลับบ้าน ทุกคน

ลืม มองข้ามคนที่รักเรามากที่สุด   
 

ขอบคุณที่มาwww.fwdder.com

10 มิ.ย. 54 เวลา 11:39 5,309 44 200
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...