5แมตช์ประวัติศาสตร์ หยุดโลก ฟุตบอล ที่อยู่ในความทรงจำตลอดกาล

5.ฟุตบอลโลก 1998 ...“ชิซู” ซีเนอดีน ซีดาน 

 ที่ประเทศฝรั่งเศส หรืออีกชื่อว่า ฟรองซ์ 98 นั้นเองเป็นมหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อทาง ฟีฟ่า ให้มีชาติเข้ารอบสุดท้าย ถึง 32 ทีม และ เพิ่มการแข่งขันขึ้นมาเป็น 64 นัด จากเดิมที่ลงเล่นกันเพียง 52 นัด เมื่อมี 24 ทีม รวมทั้ง ฝรั่งเศส เจ้าภาพยังมีการเปิดสนามแห่งใหม่ คือ สต๊าดเดอ ฟรองซ์ ในกรุงแซงต์ เดอนีย์ ทางตอนเหนือของกรุงปารีส ซึ่งก็เป็นการต้อนรับการเป็นแชมป์โลกสมัยแรกของทัพ “ตราไก่” ที่มาพร้อมกับความสุดยอดของ “ชิซู” ซีเนอดีน ซีดาน จอมทัพเลือดน้ำหอม

 

ในวันที่ 12 ก.ค. 1998 วันแห่งความยิ่งใหญ่ของทีมชาติฝรั่งเศส  เมื่อ “แซมบ้า” บราซิล มีปัญหาภายในทีม และ ไม่สามารถตกลงกันได้ว่าจะเอาใครลงเล่นระหว่าง โรนัลโด้ ที่เจ็บกับ เอ็ดมุนโด้ แต่สุดท้ายก็เข็นเอา โรนัลโด้ ลงสนาม แต่ทีมไม่ได้ออกมาอบอุ่นร่างกายก่อนการลงสนาม จึงเป็นเรื่องง่ายดายของ ฝรั่งเศส ที่เมื่อรวมกับความยอดเยี่ยมของ ซีเนอดีน ซีดาน ส่งให้ฝรั่งเศส ได้คว้าถ้วยฟุตบอลโลกมาครองได้สำเร็จ

ศึกบอลโลก หนนี้ จัดว่าเป็นการแข่งขันที่ประสบความสำเร็จรายการหนึ่ง จากการที่เพิ่มทีมในรอบสุดท้ายมาเป็น 32 ทีม ทำให้ทุกทีมเน้นเรื่องเกมรุกกันมากขึ้น เนื่องจากในรอบแรกอันดับ 3 ของกลุ่มจะไม่มีโอกาสเข้ารอบเหมือนครั้งที่มีแค่ 24 ทีม รวมทั้งศึกแจ้งเกิดของ อาเรียล ออร์เตก้า ของ “ฟ้า-ขาว”อาร์เจนตินา, เธียร์รี อองรี ของ “ตราไก่” ฝรั่งเศส และ ไมเคิล โอเว่น ของ”สิงโตคำราม” อังกฤษ

 

 

4.บราซิลทำสถิติแชมป์โลกสมัยที่ 5 เกาหลีใต้สร้างประวัติศาสตร์ลูกหนังเอเชีย
 
ในขณะที่รอบชิงชนะเลิศระหว่างเยอรมันกับบราซิลนั้นแข่งขันที่เมืองโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น โรนัลโด้ ยิงคนเดียวสองประตูในครึ่งหลังให้บราซิลชนะเยอรมันไป 2-0 ทำให้บราซิลคว้าแชมป์โลกสมัยที่ห้าทีมแรก และโรนัลโด้ จบลงครองดาวยิงสูงสุดรวม 8 ประตู ได้รับรางวัลรองเท้าทองคำ ส่วน คาฟู กองหลังกัปตันทีมชาติบราซิลก็กลายเป็นนักเตะคนแรกที่ได้เล่นรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกสามครั้ง และเขาขึ้นรับถ้วยแชมป์โลกอย่างยิ่งใหญ่
 


 

3.สเปน vs ฮอลแลนด์  1-0   สเปนได้แชมป์โลกสมัยแรกไปครอง

โดยการยิงประตูของ อันเดรส อิเนียสตา ในนาทีที่ 16 ช่วยให้ทีมกระทิงดุ สเปน เฉือนเอาชนะเนเธอร์แลนด์ ที่เหลือ 10 คน 1-0 ในศึกฟุตบอลโลก 2010 นัดชิงชนะเลิศ ทำให้สเปนคว้าแชมป์โลกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ คงไม่ต้องอธิบายคู่นี้มากมายครับเพราะพึ่งผ่านมามีภาพให้ชมครับ

 

 

2.อิตาลี ได้แชมป์บนแผ่นดินเยอรมนี ในปี 2006 

อิตาลี ได้แชมป์บนแผ่นดินเยอรมนี ในปี 2006 ขณะที่ เยอรมนี (ตะวันตก) ก็ได้แชมป์บนแผ่นดินอิตาลี เมื่อปี 1990 นอกจากนี้ อิตาลี ได้อันดับที่ 3 ในการเป็นเจ้าภาพ เมื่อปี 1990 ขณะที่ เยอรมนี คว้าที่ 3 ในการทำหน้าที่เจ้าภาพ

 

ซีเนดีน ซีดาน เพลย์เมกเกอร์กัปตันทีมชาติฝรั่งเศส ปิดฉากการค้าแข้งเกือบ 20 ปีของตัวเองด้วยการถูกไล่ออก ในเกมสุดท้าย หลังไปเอาหัวโขกใส่ มาร์โก มาเตรัซซี่ ในนัดชิงชนะเลิศ

 

และแล้ว ก็มาถึงอันดับ1ครับ......นี้คือคู่หยุดโลก ที่สุดแห่งที่สุด จนต้องมีคนพูดติดหูในตอนนั้นว่า 

ให้ตายเถอะโรบิน มันสุดยอดมาก !

อันดับ1

...........................

.................................

ลิเวอร์พูล พบ เอซี มิลาน 

การแข่งขันศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ ครั้งนี้ ระหว่าง ลิเวอร์พูล -เอซี มิลาน เปรียบกับหนังม้วนเก่าที่นำมาเล่าใหม่ หรือไม่ก็ภาพยนตร์ซีรี่ส์ที่มีต่อภาค 2 หลังจากทั้ง 2 ฝั่งยังค้างคาใจกันในการเผชิญหน้ากันครั้งแรกเมื่อ 2 ปีก่อน

ซึ่งในครั้งนั้น โลกต้องจารึกเอาไว้ว่า เกมระหว่าง "หงส์แดง" กับ "ปีศาจแดง-ดำ" ที่ อตาเติร์ก สตเดี้ยม ในกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี ถือเป็น 1 ในแมตช์ที่เหลือเชื่อที่สุดในประวัติศาสตร์ของศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ

ในเกมนั้น ลิเวอร์พูล ต้องตามหลัง เอซี มิลาน ถึง 0-3 หลังจบครึ่งเวลาแรก แต่กลับสร้างปาฏิหาร์ยพลิกมาตีเสมอ 3-3 ได้หลังจบ 90 นาที ก่อนจะต่อเวลาพิเศษ และดวลจุดโทษเอาชนะไป แบบเหลือเชื่อ "พระเจ้าจ๊อด มันยอดมาก"


และก็เป็นเรื่องเหลือเชื่ออีกเช่นกันที่ ลิเวอร์พูล - เอซี มิลาน ได้มีโอกาสฟาดฟันกันอีกครั้งในเกมรอบชิงดำถ้วย ยูซีแอล ทั้งๆที่ระยะเวลาเพิ่งจะผ่านพ้นไปเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับสาวก "รอสโซเนรี่" หลังจากหลายคนยังข้องใจมาจนทุกวันนี้ว่า "ทีมเราแพ้ได้ไงวะเนี่ย"

7 มี.ค. 54 เวลา 22:26 13,329 5 30
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...