รักร่วมเพศ "เกย์" ในกองทัพสหรัฐ

  

เป็นที่ทราบกันดีว่า ในกองทัพสหรัฐมีทหารที่มีรสนิยมทางเพศเป็นพวกรักร่วมเพศ หรือเป็นเกย์ จำนวนมาก

เมื่อประมาณก่อนปี 2536 ก่อนที่รัฐบาลของประธานาธิบดีบิล คลินตัน จะออกนโยบาย “don't ask, don't tell” หรือ “ห้ามถาม ห้ามบอก” มาบังคับใช้ มีเกย์เข้าร่วมทำสงครามเพื่อสหรัฐอย่างมากมาย และเปิดเผยตัว ปัญหาไม่ได้เกิดจากที่เกย์ไปทำลายสมรรถภาพหรือกำลังรบให้เสื่อมถอยลงในระหว่างการทำสงคราม แต่เกิดจากการที่รัฐบาลสหรัฐในยุคก่อน และ     ผู้บริหารระดับสูงของกองทัพ มองว่า เกย์  ไม่ควรจะมีสิทธิในการเป็นทหาร เมื่อใช้พวกเขาไปทำสงครามจนชนะแล้วกลับมาสหรัฐแล้ว ก็ไล่ออกจนหมดสิ้น ด้วยข้อหาที่เป็นเกย์
   
รัฐบาลของนายคลินตัน จึงได้ประกาศ นโยบายนี้  และประกาศเป็นกฎหมาย โดยมีหลักการสำคัญ คือ ห้ามบุคคลใดก็ตาม ผู้ซึ่งมีลักษณะเป็นผู้รักร่วมเพศ เปิดเผยลักษณะรสนิยมทางเพศ ในขณะที่ปฏิบัติงานในกอง   ทัพ โดยการพูดหรือเปิดเผยถึงความสัมพันธ์รักร่วมเพศ การแต่งงานกับเพศเดียวกัน หากฝ่าฝืนจะถูกไล่ออกโดยไม่มีการสืบสวนสอบสวน ด้วยเหตุนี้ หากทหารผู้รักร่วมเพศ ไม่ได้เปิดเผยลักษณะรสนิยมทางเพศดังกล่าวแล้ว ผู้บังคับบัญชาก็จะไม่สามารถดำเนิน    การสืบสวนสอบสวนเพื่อลงโทษไล่ออกจาก     ราชการได้โดยลำพัง
   
ในช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง จึงมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อทางศาสนาคริสต์ และรสนิยมทางเพศมาเกี่ยวข้อง ร่วมกับประเด็นการทำสงครามของสหรัฐกับอิรักในปัจจุบัน โดยฝ่ายรีพับลิกัน ซึ่งอ้างตัวเองมาตลอดว่า เป็นผู้เคร่งครัดศาสนา ก็จะต้อง ยกเรื่องนี้ คือ การห้ามทำแท้ง และการต่อต้านสิทธิของเกย์และผู้รักร่วมเพศ เป็นหลัก ในขณะที่ พรรคคู่แข่งอย่างพรรคเดโมแครต ได้วางนโยบายตรงกันข้าม คือต้องเลิกนโยบาย “don't ask, don't tell.” กล่าวคือ จะต้องให้อิสระแก่บุคคลที่จะประกาศตัวเองว่าเป็นผู้รักร่วมเพศ สามารถเข้าเป็นทหารได้ โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ เกี่ยวกับรสนิยมทางเพศมาปิดกั้นโอกาสอีกต่อไป
   
จึงมีนักเคลื่อนไหวจากกลุ่มต่าง ๆ ออกเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐชุดปัจจุบัน ยกเลิกนโยบายนี้ ซึ่งพวกเขามองว่า ขัด ต่อรัฐธรรมนูญในเรื่องของสิทธิความเท่าเทียมกัน
   
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ศาลสหรัฐจึงมีคำพิพากษา ให้รัฐบาลยกเลิกมาตรการปลดทหารผู้มีรสนิยมรักร่วมเพศออกจากกองทัพทันที โดยมีคำสั่งปลดแอกกฎหมายที่บังคับใช้มากว่า 17 ปี โดยในการพิจารณาคดีดังกล่าว เวอร์จิเนีย ฟิลลิปส์ ผู้พิพากษาศาลแขวง มีคำสั่งให้นายโรเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรี    กลาโหม และรัฐบาลสหรัฐ “ระงับและยกเลิก” กระบวนการทั้งหมดภายใต้กฎหมาย “ห้ามถาม ห้ามบอก”
   
ผู้พิพากษาฟิลลิปส์ กล่าวว่า กฎหมาย   “ห้ามถาม ห้ามบอก” ละเมิดสิทธิพื้นฐาน  ของทหารผู้รับใช้ชาติ และผู้ที่ตั้งเป้าจะเข้ามา รับใช้ชาติ
   
ทั้งนี้ มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนาหูต่อข้อกฎหมายดังกล่าวว่าละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของทหารเกย์ ซึ่งร่างขึ้นมาในปี 2536 เพื่อแก้ปัญหาเกย์ในกองทัพ และสร้างความเสียหายให้ความมั่นคงของชาติ โดยการปลดกำลังทหารที่มีความสามารถออกกว่า 14,000 คน
   
การพิพากษาของศาลเมื่อวันอังคาร ยังได้เรียกร้องให้ทางการสหรัฐ หรือทางตำรวจ ยกเลิกการนำกฎเกณฑ์ดังกล่าวไปใช้กับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา นอกจากนี้ ศาลยังสั่งให้เจ้าหน้าที่ของทางการสหรัฐระงับ และยกเลิกการสอบสวนใด ๆ หรือการปลดประจำการทหาร การแบ่งแยก หรือการกระทำอื่นใด ที่อาจนำไปสู่จุดเริ่มต้นของการละเมิดสิทธิ
   
ในช่วงเวลาไม่ถึง 2 เดือนก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมในเดือนพฤศจิกายน ผลการสำรวจความคิดเห็นระบุว่า ชาวสหรัฐส่วนใหญ่ เห็นด้วยกับการล้มเลิกมาตรการดังกล่าว ซึ่งทั้งนายโรเบิร์ต เกตส์ และพลเรือเอกไมค์ มุลเลน ประธานคณะเสนาธิการร่วมสหรัฐ ต่างสนับสนุนการการยกเลิกมาตรการดังกล่าวด้วย.

เลนซ์ซูม

 

17 ต.ค. 53 เวลา 02:15 16,854 26 196
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...