7 สค. รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 6 ส.ค.  พ.อ. (หญิง) ขัตติยาพร คำอาจ อายุ 44 ปี อาจารย์ส่วนการศึกษา โรงเรียนนายร้อยจปร.เขาชะโงก ต.พรหมณี อ.เมือง จ.นครนายก ว่า เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารสงสัยถูกแก๊งแสบดูดเงินไปร่วมล้านบาท โดย พ.อ.(หญิง) ขัตติยาพร เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ได้ไปเปิดบัญชีออมทรัพย์กับธนาคารกรุงเทพ สาขาหนองโพธิ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี โดยใช้ชื่อบัญชี พ.อ.(หญิง)ขัตติยาพร มานานหลายปีแล้ว

ต่อมา ได้สมัครบริการบัวหลวง อี แบงกิ้ง ของธนาคารกรุงเทพ เนื่องจากเห็นว่าเวลาโอนเงินเข้าออกผ่านธนาคารจะสะดวก และมีค่าบริการถูกกว่า เอทีเอ็ม อีกทั้งสามารถเบิกจ่ายได้ถึงวันละ 5 หมื่นบาท ซึ่งเริ่มสมัครเมื่อประมาณปี 2551 และไม่มีปัญหาอะไร กระทั่งวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 3 ทุ่มเศษ ได้เปิดเว็บไซต์ของธนาคารกรุงเทพเพื่อตรวจสอบว่ามีเงินเข้ามาอีกหรือไม่ เพราะมีเงินอยู่ในบัญชีอยู่ประมาณ 7 แสนบาท

ทั้งนี้ ปรากฏว่าไม่สามารถเข้าระบบของธนาคารได้เหมือนครั้งที่ผ่านมา โดยผ่านไปครู่เดียว กลับมีข้อความเข้าโทรศัพท์มือถือพร้อมกับบัญชีหมายเลข 5500538706 และหากสงสัยให้โทรฯ หาที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2645-5555 จึงเข้าไปตรวจสอบหมายเลขบัญชีตามที่ได้รับข้อความทางโทรศัพท์มือถือ แต่ปรากฏว่าหมายเลขที่บัญชีดังกล่าวกลับระบุชื่อเจ้าของบัญชี คือ น.ส.สมเกียรติ  ตาสา

จากนั้นตนได้พยายามโทรศัพท์ไปที่หมายเลขดังกล่าว โดยทราบว่าเป็นหมายเลขคอลเซ็นเตอร์ของธนาคารกรุงเทพ แต่ก็ยังไม่ได้ความกระจ่างที่ชัดเจนจึงลงมือตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน จนทราบว่าหมายเลขบัญชีที่ถูกส่งมาทางข้อความมือถือนั้น เป็นของธนาคารกรุงเทพ สาขาพระ  ตำหนัก จ.ชลบุรี ซึ่งได้มีการถ่ายโอนเงินของตนไปเข้าบัญชีของ น.ส.สมเกียรติ  ตาสา จนหมดบัญชี รวมแล้วเป็นเงินประมาณ 7 แสนบาทเศษ

ในวันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา ตนและสามีจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท. ณัฐพงศ์ จิรพฤฒศิริ พนักงานสอบสวน สภ. เมืองนครนายก เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานพร้อมกับกล่าวฝากเตือนไปยังประชาชนว่า หลายคนที่มีธุรกิจและเข้าไปทำธุรกรรมทางการเงินในระบบของธนาคารต่างๆนั้น ควรระมัดระวังไว้ด้วยว่าถ้าภายในระบบมีการขัดข้องจะต้องรีบตรวจสอบ โดยรีบแจ้งให้ธนาคารทราบโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นอาจโชคร้ายเหมือนกับครอบครัวของตน

ขณะเดียวกัน นายมานพ สุภาพจน์ ผจก. ธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาหนองโพ จ.ราช บุรี กล่าวว่า พ.อ.(หญิง)ขัตติยาพร มาเปิดบัญชีกับทางธนาคาร ได้ทำธุรกรรมทางการเงินทางบัวหลวง อี แบงกิ้ง เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.00 น. ได้โอนเงินออกจากบัญชีไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งพบว่าในวันที่ 2 ส.ค. มีเงินถูกโอนออกจากบัญชีไปเกือบ 7 แสนบาท ทั้ง ๆ ที่ พ.อ.(หญิง)ขัตติยาพร ไม่ได้เป็นผู้มีการโอนออกไปแต่อย่างใด

ดังนั้น ขณะนี้ทางธนาคารได้ทำรายงานส่งไปยังสำนักงานใหญ่ เพื่อให้ทางสำนักงานใหญ่ตรวจสอบถึงสาเหตุ โดยตรวจสอบว่ามีการโอนจากเครื่องใดไปยังบัญชี ของผู้ใดบ้าง เบื้องต้นธนาคารพอจะทราบแล้วว่าเงินถูกกดออกไปจากตู้เอทีเอ็มสถานที่ใด

อย่างไรก็ดี ต้องรอผลการตรวจสอบอย่างละเอียดจากทางสำนักงานใหญ่ก่อนว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และธนาคารจะได้เร่งติดตามและสรุปเรื่องดังกล่าวให้เร็วที่สุด ล่าสุดธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่แจ้งว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบและติดตามข้อมูลลูกค้าที่ได้รับความเสียหายอย่างใกล้ชิดแล้ว ต้องรอดูผลตรวจสอบและสาเหตุที่แท้จริงก่อนว่าเป็นอย่างไร

สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นคาดว่าน่าจะเกิดจากลูกค้าไม่มีโปรแกรมป้องกันไวรัสในคอมพิวเตอร์ ส่งผลให้มีความเสี่ยงที่จะถูกโจรกรรมข้อมูลได้ง่าย