สาวถูกไฟคลอกทั้งตัว แต่แขนกลับมีสิ่งคล้าย "เกล็ดปลา" ประหลาด พอรู้ความจริงถึงกับอึ้ง!?

        บาดแผลจากไฟไหมต้องการที่จะได้รับการปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง ถ้าใช้การรักษาที่ไม่ถูกต้องอาจนำไปสู่การติดเชื้อและมีผลกระทบรุนแรงมากขึ้น เมื่อเร็ว ๆ นี้สาวชาวบราซิล "มาเรีย" วัย 36 ปีเธอทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟ และที่ร้านของเธอได้เกิดเหตุแก๊สระเบิดเป็นเหตุให้เธอถูกไฟเผาไหม้เป็นแผลใหญ่บริเวณแขน, คอและใบหน้า แต่สิ่งที่น่าแปลกใจคือ ทีมแพทย์ที่ทำหน้าที่รักษาเธอไม่ได้ใช้ "ผ้าก๊อซ" ในการพันแผลเหมือนที่เราเห็นทั่วไปแต่ทีมแพทย์กลับใช้ "สิ่งนี้" ในการรักษาแทน!

 

        ทีมแพทย์ได้ค้นพบนวัตกรรมการรักษาโดยค้นพบว่า "ปลาทิลาเปีย" หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ "ปลานิล" นั้นอุดมไปด้วยคอลลาเจนที่สามารถให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดี จึงทำให้ทีมแพทย์ลงความเห็นว่าเหมาะแก่การรักษาผู้ป่วยที่โดยไฟไหม้

 

        ทีมแพทย์ระมัดระวังในการลอกหนังปลานิล หลังจากนั้นได้นำเกล็ดปลาออกซึ่งวิธีการดังกล่าวต้องคำนึงถึงความสะอาด เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายที่อาจตามมาจากการติดเชื้อ โดยตัดหนังปลาเป็นชิ้นเล็ก ๆ ขนาดประมาณ 10x20 เซนติเมตร ซึ่งหนังปลานิลสามารถเก็บไว้ได้ถึง 2 ปี

 

        ทีมแพทย์ได้ทำการนำ "หนังปลานิล" ที่คัดมาแล้วไปรักษาแผลไฟไหม้ของมาเรีย โดยทำการนำหนังปลานิลไปปิดส่วนที่เป็นแผลแทนผ้าก๊อซ หลังจากนั้น 20 วันผิวส่วนที่เสียหายจะได้รับการฟื้นฟู

 

        ซึ่งการรักษาโดยวิธีนี้อาจจะฟังดูแปลก ๆ แต่เห็นได้ชัดว่ามันมีประสิทธิภาพอย่างมาก มาเรียได้เล่าว่าฉันเจ็บปวดอย่างมากและเกือบที่จะหมดหวัง แต่หลังจากที่ได้รับการรักษาผลกลับเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก เธอยังบอกอีกด้วยว่าหลังจากนี้อยากจะแนะนำวิธีดังกล่าวให้กับผู้ที่ประสบเหตุเช่นเดียวกับเธอ

 

        เมื่อเข้าวันที่ 11 ทีมแพทย์ได้นำหนังปลานิลที่บริเวณคอออก ซึ่งเห็นได้ชัดว่าแผลบริเวณคอได้หายเกือบเป็นปกติแล้ว แต่แผลบริเวณแขนยังคงต้องรับการรักษาต่อไป 

 

มาเรียเป็นคนไข้รายแรกที่ได้ทำการรักษาด้วยวิธีดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันทีมแพทย์ได้ทำการทดลองกับคนไข้อีกกว่า 50 คน และสำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR

Credit: http://www.liekr.com/post_146812.html
7 ม.ค. 60 เวลา 05:46 4,477 30
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...