โดย John Endicott เป็นชายอังกฤษชาวยุโรปคนแรกที่อพยพมาอยู่ใน Massachusetts สหรัฐอเมริกา เมื่อปี 1630 และด้วยความที่คิดถึงบ้านเกิดที่่ยุโรป เขาจึงตัดสินใจปลูก "ต้นแพร์" ต้นหนึ่งที่เขานำมันเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกมาด้วย เพราะมันทำให้เขารู้สึกได้ว่าอยู่บ้าน

โดย "ต้นแพร์" ต้นนี้ตั้งอยู่ในเมือง Danvers, Massachusetts เดิมมันถูกปลูกภายในฟาร์มขนาดพื้นที่กว้างกว่า 300 เอเคอร์ เขาดูแลรักษามันเป็นอย่างดี จนกระทั่งเขาเสียชีวิตลงในปี 1665 

แม้ว่าเจ้าของจะเสียชีวิตไป แต่ต้นแพร์กลับยังเจริญเติบโตได้ตามปกติ ทั้งออกดอกออกผล จนกระทั่งในปี 1800 ต้นแพร์ต้นนี้ก็กลายเป็นตำนาน เพราะแม้แต่ประธานาธิบดี John Adams ก็บอกว่าเขาเป็นแนพันธุ์แท้ของลูกแพร์เลยทีเดียว

และลูกหลานของ John Endicott ก็ยังคงรักษาต้นแพร์นี้มาตลอด จนกระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ตำนานของต้นแพร์ต้นนี้ก็ได้รับความนิยมอีก หลังจากถูกนำไปเขียนในวรรณคดีอเมริกัน และเรียกมันว่า Endicott Pear Tree

ต้นแพร์ต้นี้เคยรอดชีวิตจากพายุหิมะและพายุเฮอริเคยที่รุนแรงหลายต่อหลายครั้ง แต่แล้วในปี 1964 มันก็ต้องเผชิญกับโศกนาฎกรรม เมื่อมีมนุษย์ป่าเถื่อนทำการตัดต้นแพร์ต้นนี้ทิ้งภายในเวลาชั่วข้ามคืน

หลังจากนั้นชาวบ้านจึงรวบรวมประวัติศาสตร์ของ Endicott Pear Tree รวมถึงก่อสร้างรั้วที่แข็งแรงล้อมรอบต้นแพร์ต้นนี้ไว้ หลังจากที่ฟื้นฟูต้นแพร์เป็นเวลานานกว่า 1 ปี มันก็เริ่มมีสัญญาณของการเจริญเติบโตขึ้น

จนในที่สุดมันก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม และในปี 2011 มันก็กลายเป็นสถานที่สำคัญอย่างเป็นทางการของชาวอเมริกา

วันนี้ Endicott Pear Tree กลายเป็นต้นไม้ที่รอดตายที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยปลูกเอาไว้ในอเมริกา

มันไม่ได้กลับมาชีวิตเท่านั้น แต่มันยังคงออกดอกออกผลเป็นประจำทุกปีอีกด้วย

ตอนที่ John Endicott ปลูกต้นแพร์ต้นนี้ในปี 1630 นั้นเขากล่าวว่า "ผมหวังว่าต้นไม้จะรักดินของโลกเก่า และไม่ต้องสงสัยถ้าเราจากไป แต่ต้นไม้กลับยังมีชีวิตอยู่" ไม่น่าเชื่อว่าผ่านมา 386 ปี ต้นแพร์ต้นนี้ยังคงอยู่ ถ้าเขามีโอกาสได้เห็นคงจะทึ่งน่าดูเลยทีเดียว...

ข้อมูลและภาพประกอบจาก "boredomtherapy"