เรื่อง "หลวงปู่จันทราเผชิญเปรตนักบวช"

สมัยหนึ่งหลวงปู่ได้ออกธุดงค์ ไปจนถึงถ้ำจำปา อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี แล้วท่านก็ตัดสินใจหยุดพักที่นั้น ขณะที่ท่านพักอยู่นั้น ในดึกสงัดของคืนวันแรก ก็ได้ปรากฎ มีชาย 3 คน รูปร่างสูงใหญ่ นุ่งห่มจีวรคล้ายพระสงฆ์ มีเครายาวลงมาเกือบถึงหน้าอก พวกเขาเข้ามา แล้วเอามือลูบไปที่ขาซ้าย ของหลวงปู่ แล้วก็เอ่ยปากถามว่า ท่าน ๆ ผมกับท่านใครแก่พรรษากว่ากัน เมื่อหลวงปู่ เห็นดังนั้นก็เลยตอบออกไปว่า หลวงพ่อนั่นแหละที่แก่กว่าผม หนึ่งใน 3 นั้นก็ตอบกลับมาว่า ก็คงจะจริงอย่างที่ท่านว่า แต่ถึงพรรษาของพวกกระผมจะแก่กว่าท่าน แต่คุณธรรมของท่านนั้น ก็คงจะแก่กว่าพวกกระผม หลวงปู่เลยถามว่าจะแก่กว่าได้อย่างไรกัน ?
ชายคนนั้นก็ตอบว่า ท่านแก่ธรรมได้ถูกต้องตามวินัย จากนั้นหลวงปู่ ก็เลยถามกลับไปว่า หมู่ท่านได้บวชในศาสนาอันบริสุทธิ์แล้ว ก็สมควรที่จะเจริญสมณธรรมได้อย่างดี อย่างต่ำก็สวรรค์ อย่างกลางก็พรหม อย่างสูงก็อรูปพรหม และอย่างถึงที่สุดก็วิมุตติ แต่เหตุใดพวกท่านจึงมาตกค้างอยู่ที่นี่เล่า
กลุ่มนักบวชผู้มาเยือนยามวิกาล ก็ตอบว่า
.... " หมู่ข้าพเจ้านั้น เกิดมาได้พบพระศาสนาใน รัชสมัยของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช เมื่อบวชมาแล้ว ก็ไม่ได้ภาวนาอะไร อยู่กันไปสนุกสนาน ฉันเช้า ฉันเพล แล้วก็ ทำไร่ ทำสวน เลี้ยงม้า เลี้ยงวัว เลี้ยงควาย เหมือนอย่างฆราวาสเขาทำ พระวินัยไตรสิกขาน้อยใหญ่ อีกทั้งศีลวัตรทั้งหลาย หมู่ข้าพเจ้าก็ล่วงเกินจนหมดสิ้น ตกยามวิกาล ก็พากันนั่งนอนเสื่อสาดยัดด้วยนุ่นและสำลี พอญาติโยมเขาฆ่าวัวฆ่าควาย ก็สั่งให้เขาเอาเนื้อสันใหญ่ ๆ ตับ ไต มาถวายเพื่อก้อยดิบๆ กินกัน พอชาวบ้านเขาลงจับปลากัน พวกกระผมก็สั่งให้เณรน้อยออกไปขอมาทำอาหาร วันดีคืนดีพวกกระผม ก็เข้าป่าหากระต่ายหาอีเห็นมาฆ่ากิน พอถึงฤดูทำนา ชาวบ้านเขาก็มานิมนต์ไปช่วย ก็มีการเลี้ยงเหล้าเลี้ยงยา พอมึนเมาได้ที่ ก็พูดเกี้ยวผู้หญิง วิ่งไล่จับกัน ก็จับตรงโน่นบ้าง จับตรงนี่บ้าง ถูกบ้างไม่ถูกบ้าง
พอมาถึงวันขึ้นปีใหม่ (5 เม.ย)
พระอุปัชฌาย์ท่านก็บอกว่า เอ้า...พระฤดูนี้เราเป็นนาค เล่นน้ำได้ ไม่เป็นบาปเป็นกรรม ก็สนุกสนานได้เล่นน้ำไล่ปล้ำผู้หญิง จับอกจับก้น จับของลับและกัน ถึงจะได้การขอขมาลาโทษกันแล้วก็ตาม
แต่พวกกระผม ก็เกิดความกำหนัดยินดีในกามอยู่ดี "...............
นั่นแหละท่าน ความไม่ดีทั้งหลายที่พวกกระผมทำ จึงได้ส่งผลให้มาเกิดเป็นเปรตตกค้างอยู่ที่นี้ ใช้แต่เท่านี้ ในบริเวณนี้ก็ยังมีเปรตนางชี ตกค้างอยู่ในที่แห่งนี้ อีกจำนวนหนึ่ง หลวงปู่จึงได้ถามว่าเมื่อพวกไหร่พวกท่าน จะพ้นกรรมเล่า เขาก็ตอบว่าพวกกระผม ก็ไม่รู้ หลวงปู่จึงชี้ทางให้ว่า พระพุทธรูปไม้ และหิน ที่อยู่ ณ ถ้ำแห่งนี้ ขอให้ท่านทั้งหลาย อย่าได้ห่วงอาลัยอาวร เมื่อมีใครมาเอา ก็ให้ทานเขาไปเสียเถิด แล้วจะได้หลุดพ้นจากบ่วงบาป บ่วงกรรมแล้วขอให้ท่านทั้งหลาย จงน้อมรับเอาพระไตรสรณคมน์และศีล 5ใหม่ จากอาตมาภาพ เผื่อจะช่วยน้อมนำให้หมู่ท่านทั้งหลายนั้น ได้พ้นสภาพของเปรต แล้วได้ไปเกิดอีกรอบ ....
ซึ่งหลวงปู่เองก็ได้อยู่เทศนาโปรดหมู่เปรตนั้น ถึง 3 เดือน จนในคืนวันหนึ่ง ก็มีเปรตนางชีตนหนึ่ง มาปรากฎกายขึ้นต่อหน้าหลวงปู่ แล้วกล่าวกับหลวงปู่ว่า
...." ท่านอาจารย์ บัดนี้ดิฉันได้พ้นจากกรรมอันชั่วช้าลามกนั้นแล้ว บัดนี้ดิฉันกำลังจะได้ไปเกิดแล้ว ดิฉันจึงมาขอกราบลาท่าน "...
หลวงปู่จึงตอบไปว่า สีกาจงไปดีเถิด ขอสีกานั้น จงหมั่นภาวนาคำว่า พุทโธ ธัมโม สังโฆไปนะ แล้วให้สีกานั้น มุ่งหน้าเดินทางไปเกิดใหม่ที่ อ.บ้านผือเพราะที่นั้น จะมีพระกรรมฐานเดินทางผ่านไป ผ่านมามาก
.......พอล่วงมาถึงเดือนสุดท้าย ที่หลวงปู่ต้องกลับเข้าวัดเพื่อไปจำพรรษา ท่านก็ได้บอก เปรตนักบวชที่เหลืออยู่นั้นว่า อาตมาภาพจะกลับเข้าไปจำพรรษา อยู่ที่ วัดป่าบ้านหนองแซง กับหลวงปู่บัว สิริปุณโณ ถ้าปีหน้าบุญพาวาสนาส่งอาตมาภาพจะกลับมาโปรดพวกท่านอีกนะ แล้วก็อย่าได้ประมาท ขอให้ท่านทั้งหลาย จงพากันเดินจงกรม บูชาพระรัตนตรัย อบรมจิต ให้เป็นไปตามหลักธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วท่านทั้งหลาย จะไปเกิดเป็นมนุษย์อีก ขอให้พวกท่านช่วยตัวเองนะ ...
หลังจากล่ำลากันเสร็จ หลวงปู่ก็ได้ออกเดินทางไปจำพรรษาตามที่หมายไว้ จวบจนออกพรรษา หลวงปู่ก็ได้กลับมาหาเปรตนักบวชกลุ่มเดิมอีก แต่การไปครั้งนี้ หลวงปู่มีความรู้สึกว่า มันเป็นเบา ๆ รออยู่จนหลายคืน ก็ไม่ปรากฎว่ามีหมู่เปรตออกมาหาเหมือนเช่นเคย หลวงปู่จึงกำหนดจิตภาวนาจนเมื่อจิตสงบแล้ว ก็ปรากฎว่า มีรุกขเทวดาปรากฎตนออกมา เพื่อขอรับพระไตรสรณคมน์และศีลจากนั้นนั้นหลวงปู่ ก็ได้ไต่ถามว่า เปรตพระ 3 ตน กับแม่ชีทั้งหลาย หายไปไหนกันหมด รุกขเทวดานั้นก็ตอบว่า ก็ท่านมาโปรดพวกพวกเขา เมื่อปีกลายเขาก็ได้เจริญธรรม ตามอย่างที่ท่านสอน บัดนี้ก็ได้ไปเกิดที่เมืองมนุษย์กันหมดแล้วละท่าน...

2 เม.ย. 59 เวลา 17:30 1,600
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...