เห้ยยจริงดิ๊?? ยาบ้า มีต้นกำเนิดมาจากหญิงไทยคนนี้ โดยเขาใช้วิธีนี้ผลิตมันขึ้นมา หากได้รู้แล้วต้องทึ่งเป็นแน่!!

ผู้ให้กำเนิดยาบ้ารายเเรก

ผู้หญิงชื่อ"กัลยาณี อร่ามเวชอนันต์" ส่งลูกไปเรียนวิชาเคมีที่ไต้หวันเพื่อกลับมาผลิตยาบ้า และเป็นผู้ผลิตยาบ้าคนแรกของประเทศไทย
ยาบ้าถือกำเนิดจากผู้หญิงไทยคนหนึ่ง ที่ส่งลูกไปเรียนวิชาเคมีที่ประเทศใต้หวัน เพื่อกลับมาผลิตยาม้าเป็นรายแรกของเมืองไทย กัลยาณี อร่ามเวชอนันต์ ยังคิดคุกอยู่ลาดยาว ยาบ้า ครั้งหนึ่งใช้ชื่อว่ายาม้า เมทแอมเฟตามิน(METHAMPHETAMINE) สามีและลูกชาย 2 คน เช่าบ้านย่าน อ.บางกรวย จ. นนทบุรี เพื่อผลิตยาม้า เดือนพฤศจิกายน 2530 ภายหลังยาม้าประกาศเป็นยาต้องห้าม แต่ก่อนนั้นยาม้าสามารถนำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อใช้กับม้าแข่งได้ แม้กัลยาณีและครอบครัวจะถูกคุมขัง ยาม้าก็ไม่ได้หยุดไปด้วย คนงานที่ช่วยผลิตได้เรียนรู้สูตรจากลุกชายสองคนของเธอ
คนงานทีช่วยผลิตขยายธุรกิจต่อ บางคนไปทำเองจนสูตรยาบ้าที่กัลยาณีใช้ยี่ห้อเปาปุ้นจิ้น ได้ขยายเป็นยี่ห้อต่างๆ มากมาย แหล่งผลิตที่กระจุกตัวอยุ่ในกรุงเทพฯ เริ่มถูกตำรวจตามทลาย จึงต้องกระจายไปสู่ส่วนภูมิภาค กระทั่งสุดท้าย ประมาณกลางปี 2538 คนงานของกัลยาณีบางคนที่แยกมาผลิต ได้ขยายพื้นที่เข้าสู่ชายแดนประเทศพม่าโดยจ่ายค่าคุ้มครองให้ชนกลุ่มน้อยและทหารพม่าบางกลุ่ม

 

 

โรงงานของคนไทยได้ขยายเพิ่มมากขึ้นในเขตพม่า จนในที่สุดคนกลุ่มน้อยที่แตกตัวมาจากขุนส่าและกลุ่มว้าแดงเริ่มสนใจธุรกิจผลิตยาม้า จึงทั้งขอและบังคับให้เจ้าของบอกสูตรให้
เจ้าของโรงงานคนไทยยอมมอบสูตรให้ และสุดท้ายธุรกิจผลิตยาบ้า ได้ตกอยู่ในมือชนกลุ่มน้อยต่างๆ ของพม่าทั้งหมด การผลิตและการตลาดของชนกลุ่มน้อยโดยใช้ประสบการณ์จากการค้าเฮโรอีน ทำให้ยาบ้าแพร่ระบาดในประเทศไทยอย่างรวดเร็วจนน่าเป็นห่วง 19 กรกฎาคม 2539 เปลี่ยนชื่อจาก "ยาม้า" เป็น "ยาบ้า" เพราะการบริโภคเข้าไปแล้วเป็นบ้าเลย ปี 2520 จำนวน 13,000 เม็ด ปี 2540 จำนวน 24 ล้านเม็ด จับได้ร้อยละ 20 ของยาบ้าที่ผลิตและส่งเข้ามาในประเทศไทย

 

นั่นหมายถึงว่าคนไทยเสพยาบ้า 120 ล้านเม็ดต่อปี ภาคเหนือเชียงรายเป็นแหล่งลำเลียงแต่ไม่สามารถเข้าไปจับในพม่าได้
ทหารไม่สามารถเข้าไปทำลายยาบ้าได้ทั้งที่มองเห็นอยู่ห่างชายแดนไม่กี่ร้อยเมตร โรงงานเคลื่อนที่หลังคาแดงหลังคาเขียว หมู่บ้านป่าสักท่าขี้เหล็กประเทศพม่าซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ อ.แม่สาย ของไทย โรงงานแห่งนี้เป็นของชาวเขาเผ่าอีก้อชื่อ "อาโต่" เป็นแหล่งพักยาบ้า จ่ายให้ทหารพม่าบางคนเดือนละ 150,000 บาท บรรจุหีบห่อ

 


ผู้ใหญ่บ้านบอกว่าลูกบ้านรวยจากการผลิตกาแฟ กลุ่มว้าแดงมีกองกำลังติดอาวุธกว่า 6,000 คน มี เว่ย เซีะกัง เป็นหัวหน้าใหญ่ กลุ่มที่แยกตัวจากขุนส่า คือจ้าวยอดศึก วีรบุรุษของชาวไทย ชาวไทใหญ่ปฏิเสธไม่เคยเกี่ยวข้องกับการค้ายาบ้า แต่ปราบปรามการค้ายาบ้า

 

 
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...