“อิคคิวซัง” มีตัวตนอยู่จริง !! ไม่ได้แบ๊ว และ ใสซื่อ อย่างที่หลายคนคิด !!!!

“อิคคิวซัง” มีตัวตนอยู่จริง !! ไม่ได้แบ๊ว และ ใสซื่อ อย่างที่หลายคนคิด !!!! | เว็บไซต์ของคนวัยมันอันดับ 1 // //

หากย้อนไปเมื่อราวๆ 20 ปีที่แล้ว ในประเทศไทยมีการในการ์ตูนญี่ปุ่นเข้ามาฉายอยู่ไม่กี่เรื่อง และการ์ตูนที่คนในสมัยนั้นรู้จักกันดี ก็จะมี โดราเอม่อน อาราเร่ เซเลอร์มูน เค็นชิโร่หมัดดาวเหนือ ดราก็อนบอล และเซนท์เซย่า ซึ่งหลาย ๆ คนคงจะจำกันได้ดี ถึงแม้เวลาจะเลยมานับสิบปี แต่เด็กรุ่นใหม่ก็ยังรู้จักการ์ตูนเหล่านี้อยู่ และแน่นอนเรื่อง “อิคคิว ซัง เณรน้อยเจ้าปัญญา“ ก็คือหนึ่งในนั้น ด้วยความน่ารักของตัวการ์ตูน และเนื้อหาที่สนุกสนาน ยังคงกลับมาสร้างความบันเทิง ในบ้านเราได้อย่างไม่มีวันจบสิ้น อิคคิว ซัง จึงเป็นการ์ตูนอมตะนิรันดร์กาลอีกเรื่องหนึ่ง

แต่จะมีใครรู้บ้างว่าที่ญี่ปุ่น พระอิกกีว มีอยู่จริงรวมถึงหลักฐานต่าง ๆ ที่ยืนยันว่า “อิกกีว ซัง” ไม่ได้เป็นแค่การ์ตูน แต่กลับมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นมากเลยทีเดียว ซึ่งภาพลักษณ์ของอิคคิวซังในการ์ตูนคือเป็นเด็กค่อนข้างเรียบร้อย ฉลาด มีไหวพริบเป็นเลิศ แต่พวกเรารู้กันหรือไม่ว่า จริงๆ แล้วพระอิกกัวซังที่มีตัวตนอยู่จริงนั้น ท่านไม่ได้สุขสะบายเลยแม้แต่น้อย (ใครขี้เกียจอ่าน เลื่อนลงไปดูบทสรุปได้ครับ)

 

ยุค Muromachi (ประมาณ พ.ศ. 1338 – 1573) มีพระในนิกายเซน ถือกำเนิดขึ้น ที่ใคร ๆ รู้จักเขาตอนหลังในนามของ “Ikkyū Sōjun (อิกกีว โซจุน)” อิกกีวเกิดที่เมืองเคียวโตะ ชื่อในวัยเด็กคือเซงกิกุมารุ เขาเป็นลูกนอกสมรสของจักรพรรดิโงโคะมะสึ แม่ของอิกกีวถูกกลั่นแกล้งเพราะมาจากราชวงศ์ทางใต้ จึงต้องหนีออกจากราชวัง เซงกิกุมารุถูกส่งมาบวชเณรที่วัดอังโกะกุจิ (วัดเดินได้พังไปแล้วเนืองจากยุคสงคราม ภาพข้างใต้คือที่สร้างมาใหม่เพื่อเป็นสิ่งจารึก) ตอนอายุได้ 6 ขวบ

 

เจ้าอาวาสที่วัดอังโคะคุจิได้ตั้งชื่อใหม่ให้เขาว่า ชูเคง พร้อมทั้งสอนวัฒนธรรมจีน บทกวีจีน ศิลปะและวรรณกรรมต่างๆ อิคคิวตั้งอกตั้งใจศึกษาพระธรรมอย่างมาก ความเจ้าปัญญาฉายแววขึ้นตามอายุในวัยประมาณ 10 ขวบ อิกกีวซังแต่งกลอนวิพากษ์วิจารณ์ความประพฤติที่ไม่เหมะสมของพระภิกษุ นิกายหนึ่งที่กอบโกยทรัพย์สินยศฐาบรรดาศักดิ์บนความทุกข์ยากของชาวบ้าน พออายุ 13 ปี มีโอกาสเข้าพบแม่ทัพใหญ่ชื่อ “อาซิคะงะโยชิมิสึ” หรือ “ท่านโชกุน“ ในการ์ตูน (จากในการ์ตูนที่ได้ดูกันนั้น นี่คือจุดสิ้นสุดที่เราได้รู้จักกับท่าน อิกกีว โซจุน ต่อจากนี้คือเรื่องราวที่เหลือที่แทบจะไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อน)

 

เมื่ออายุได้ 17 ปี อิ๊กคิวซังได้ออกจากวัดอังโกะกุจิฝากตัวเป็นศิษย์ของ “หลวงพ่อเคนโอ” ที่วัดไซกอนจิ   ได้ฉายาว่า “โชจุน” ที่วัดแห่งนี้หลวงพ่อเคนโอเน้นการปฏิบัติโดยต้องทำงานอย่างหนัก และต้องอยู่กับสิ่งสกปรกเสียเป็นส่วนใหญ่ พออายุได้ 23 พรรษา อิกกีวไปฝากตัวเป็นศิษย์ของ “หลวงพ่อคะโซ” แห่งวัดไดโตคุ อิกกีวสามารถแก้ปริศนาธรรมที่หลวงพ่อคะโซตั้งไว้ได้จึงได้รับฉายาใหม่ว่า “อิกกีว โซจุน“ ขณะที่อยู่ที่วัดไดโตะกุนี้ท่านต้องทำงานทั้งวัน และปฏิบัติอย่างหนักหน่วง นอกจากใช้แรงงานในวัดแล้ว อิกกีวยังต้องสานรองเท้า เย็บเสื้อผ้าตุ๊กตาผู้หญิง และออกไปขายแรงงานในหมู่บ้านละแวกนั้น ซ้ำยังโดนพระรุ่นพี่ที่ไม่ชอบหน้ากลั่นแกล้งอยู่เสมอ แต่ในที่สุดอิกกีวก็สามารถบรรลุธรรมในขณะที่นั่งสมาธิบนเรือริมฝั่งทะเลสาบ “เหตุแห่งความทุกข์และความเศร้าหมองที่เกิดขึ้นในชีวิตล้วนเกิดจากจิตที่ เต็มไปด้วยอัตตา” คือแก่นธรรมที่ท่านค้นพบ หลวงพ่อคะโซมีความประสงค์ที่จะมอบใบสำเร็จเปรียญธรรมให้ และตำแหน่งเจ้าอาวาสให้อิ๊กคิวซังสืบทอด แต่พระอิกกีวปฏิเสธด้วยเหตุผลว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งสมมติ“ และเริ่มออกธุดงค์

กระทั่งอายุ 34 พรรษา  อิกกีวซังมีโอกาสเข้าเฝ้าท่านพ่อ ซึ่งเป็นองค์จักรพรรดิ ชีวิตช่วงนี้เองที่เป็นที่กล่าวขวัญถึง และขยาดหวาดกลัวและเกลียดชังจากภิกษุด้วยกัน อิกกีวซังเคยไปร่วมงานครบรอบวันมณภาพของพระผู้ใหญ่รูปหนึ่งด้วยสภาพมอมแมมสกปรกจีวรหลุดลุ่ย พร้อมทั้งด่าทอพระที่มือถือสากปากถือศีล เพราะในสมัยนั้นมีพระภิกษุชั้นผู้ใหญ่จำนวนมากที่ทำตัวเคร่งพระวินัย ถึงขนาดบอกว่าผู้หญิงเป็นมารศาสนา แต่ว่ากลับลักลอบให้แม่เล้า – แมงดานำโสเภณีมาบำเรอถึงในกุฏิ

 

อิกกีวซังปฏิเสธสังคมพระในขณะนั้นอย่างรุนแรง และทำทุกอย่างที่ถือว่าเป็นอาบัติ เช่น ดื่มสุรา เล่นการพนัน ฉันเนื้อสัตว์ ไม่โกนผมและหนวดเครา เดินเข้าออกซ่องโสเภณีอย่างเปิดเผยเป็นว่าเล่น

เมื่อท่านอายุได้ 75 พรรษา ระหว่างที่ธุดงค์เร่ร่อนหลบภัยสงครามภายในประเทศมาอยู่ที่เมืองซึมิโยชิ ท่านได้พบกับ “ชินจิชะ“ ศิลปินขอทานตาบอด ซึ่งภายหลังท่านได้รับนางเป็นภรรยาทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันคืนเดียว ชินจิชะก็หนีไปเพราะเกิดความอับอายและเกรงว่าตนเองจะทำให้อิกกีวซังเสื่อมเสียชื่อเสียงแต่นางก็กลับมาหาท่านอีกหน เพราะไม่สามารถดำรงชีวิตลำพังได้ในสภาวะสงครามได้

 

เมื่ออายุได้ 85 พรรษา พระจักรพรรดิแต่งตั้งให้อิกกีวซังเป็น เจ้าอาวาสวัดไดโตะกุซึ่งเป็นวัดหลวงที่สำคัญที่สุดในสมัยนั้น เมื่อไม่สามารถขัดพระราชประสงค์ได้ อิกกีวซังจึงยอมรับตำแหน่ง แต่เพียงแค่วันเดียวก็ลาออกกลับมาอยู่วัดเมียวโชจิที่ท่านสร้างจวบจนวาระสุดท้าย หลังจากกลับมาอยู่วัดนี้ ได้เพียง 2 ปี ท่านก็เป็นมาเลเรีย ท่านละสังขารในท่านั่งสมาธิในอ้อมกอดของชินจิชะ ภรรยาสุดที่รัก ในวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ.2024 เมื่ออายุได้ 88 พรรษา และนี่คือประวัติของ “อิกกีว โซจุน“

 

สรุป : 10 เรื่องเกี่ยวกับอิกกีวซังที่คุณอาจไม่เคยรู้

1. อิกกีวซังเป็นลูกนอกสมรสของจักรพรรดิโงโคะมะสึ แม่ของอิกกีวถูกกลั่นแกล้งเพราะมาจากราชวงศ์ทางใต้
2. อิกกีวซังถูกส่งมาบวชเณรที่วัดอังโกะกุจิตอนอายุ 6 ขวบ
3. ชื่อ อิกกีวซัง ที่เรารู้จักกัน ท่านได้มาตอนอายุ 23 พรรษา โดย “หลวงพ่อคะโซ” ไม่ใช่ตอนเด็ก
4. พระอิกกีวเคยหาเลี้ยงชีพโดยการรับจ้างเย็บตุ๊กตาเด็กผู้หญิงและเย็บรองเท้าฟาง
5. “ฮารุยาชะ” เด็กสาวในคณะละครเร่คือรักแรกที่ไม่สมหวังของพระอิกกีวซังในวัยแตกเนื้อหนุ่ม ทั้งสองเจอกันครั้งแรกตอนที่อิกกีวซังถูกซ้อมแล้วฮารุยะชะเข้าไปช่วย
6. พระอิกกีวทำทุกอย่างที่ถือว่าเป็นอาบัติ ดื่มสุรา เล่นการพนัน ฉันเนื้อสัตว์ ไม่โกนผมและหนวดเครา เดินเข้าออกซ่องเป็นว่าเล่น  เพื่อเป็นการสอนให้ผู้คนได้รู้ว่า พระก็ไม่ได้ต่างจากคนทั่วไป อยู่ที่การกระทำตัว ว่าจะดีหรือชั่ว
7.  พระอิกกีวสวมจีวรสีดำที่พระมารดาเย็บถวายอยู่ชุดเดียวตั้งแต่อายุ 33 ปี จนกระทั่งมรณภาพ
8. พระอิกกีวได้มีภรรยาตอนอายุ 75 พรรษา **พระญี่ปุ่นแต่งงานได้ เป็นแผนของนักปกครองในสมัยนั้นที่ต้องการให้ ศาสนาพุทธเสื่อมลงเพื่อนำเข้าศาสนาใหม่หรือศาสนาคริสเข้ามา เพื่อช่วยในด้านการปกครอง**
9. อายุ 85 พรรษาพระจักรพรรดิแต่งตั้งให้พระอิกกีวเป็น เจ้าอาวาสวัดไดโตะกุ วัดหลวง ท่านจำใจรับ แต่ก็ลาออกมาในวันรุ่งขึ้น
10. ท่านมรณภาพเพราะโรคมาลาเรีย ในวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2024 เมื่ออายุได้ 88 ปี ในอ้อมกอดของภรรษา

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : wikipedia
เรียบเรียงโดย เต็งหนึ่ง ทีม BaaBinz.com

 

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...