ยิ้มอิ่มใจกันไปทั้งโลกเมื่อเรื่องราวสุดโรแมนติกอย่างสถานีรถไฟ Kyu-Shirataki ในชนบทอันห่างไกลของญี่ปุ่น ยอมขาดทุนเพื่อให้บริการสาวน้อยวัยมัธยมซึ่งเป็นผู้โดยสารเพียงคนเดียว(และคนสุดท้าย)ได้ไปโรงเรียน โดยสถานีนี้จะปิดให้บริการเมื่อเด็กสาวคนนี้เรียนจบ แต่ก็อิ่มใจ ฝันหวานกันอยู่ได้ไม่นานเพราะเมื่อข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป เด็กสาวคนนี้ก็ถูกโอตาคุรถไฟตามรุมถ่ายรูปไม่เว้นแต่ละวัน (โธ่ หมดกัน)
en.rocketnews24.com

ก่อนจะงงกันไปมากกว่านี้ว่าใครคือโอตาคุรถไฟ โอตาคุรถไฟคืออะไร มินิมอร์ขอบอกเลยว่าโอตาคุเป็นวัฒนธรรมที่ถือกำเนิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นนี่แหละ คำว่าโอตาคุถูกใช้ครั้งแรกในปี 1983 แปลง่าย ๆ แบบไม่ซับซ้อนว่า 'คุณสนใจอะไรอยู่'  

โอตาคุเลยแปลว่าคนที่สนใจ หลงใหลหรือสะสมบางสิ่งที่คนทั่วไปไม่สามารถเข้าใจได้ เพราะฉะนั้นโอตาคุรถไฟก็คือมนุษย์ผู้หลงใหลคลั่งใคล้รถไฟ ตามถ่ายรูป ตามสะสมสิ่งของทุกอย่างที่เกี่ยวกับรถไฟนั่นเอง

indojininjapan.wordpress.com

แต่ไม่ต้องห่วงนะว่าโอตาคุจะหลงใหลแค่รถไฟ เพราะโอตาคุก็มีหลายรูปแบบ สะสมกันสารพัดสิ่งเกินกว่าเราจะจินตนาการได้ อย่างที่เราอาจจะพอได้ยินข่าวกัน ก็เช่นหนุ่มเกาหลีแต่งงานกับหมอน หนุ่มญี่ปุ่นประกาศแต่งงานกับตัวละครในเกม ไปจนถึงโอตาคุที่ชอบการ์ตูนหรือสะสมเทปเสียงแปลก ๆ

เด็กสาวผู้เป็นลูกค้าคนสุดท้ายของสถานีรถไฟ Kyu-Shirataki จึงถือว่าเนื้อหอมยวนใจเหล่าโอตาคุรถไฟชาวญี่ปุ่นมาก พอข่าวแพร่ออกไปโอตาคุญี่ปุ่นเหล่านี้ก็แห่มาตามถ่ายรูป ตามดูชีวิตของเธอและครอบครัวจนไม่มีความเป็นส่วนตัว

Flickr: muratama

Mint Jam ซึ่งเป็นบลอกเกอร์ผู้อาศัยอยู่ในละแวกนั้นถึงกับต้องมาประกาศผ่านทางบลอกของเธอว่าช่วยหยุดรบกวนเด็กสาวคนนี้สักทีเถอะ เพราะหลาย ๆ ครั้งที่เหล่าโอตาคุรถไฟพากันขอให้เธอโพสท่าต่าง ๆ ยืนตรงนั้นตรงนี้เพื่อถ่ายรูปให้ถูกใจ นอกจากละเมิดความเป็นส่วนตัวแล้ว มันยังไปสร้างความลำบากใจให้กับเด็กสาวที่กำลังเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีกด้วย

 

 

มินิมอร์เชื่อว่าโลกเราเต็มไปด้วยความเปิดกว้างที่ใครจะหลงใหลอะไร เป็นโอตาคุสิ่งใดก็ได้ ตราบใดที่ไม่ทำให้ตัวเองและผู้อื่นเดือดร้อน แต่นี่คงเป็นอีกตัวอย่างความไม่พอดีของมนุษย์ ที่ใช้ความหลงใหลของตัวเองในทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนโดยไม่ทันรู้ตัว

ที่มา : rocketnews24.co