8 คำทำนายอนาคตโลกในปี 2015 ที่ CIA เคยทำนายไว้เมื่อปี 2000 (บางเรื่อง)ก็กลายเป็นจริงอย่างน่าทึ่ง

CIA เป็นสำนักข่าวกรองกลางและหน่วยสืบราชการลับของสหรัฐอเมริกา ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับศาสตร์พยากรณ์หรือดวงชะตาเลยสักนิด แต่ในปี 2000 เป็นช่วงเวลาไม่นานก่อนที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ยู บุช จะเข้ามาดำรงตำแหน่ง ทาง CIA ได้เคยทำการวิเคราะห์และทำนายอนาคตของโลกในปี 2015 ไว้ และมันตรงกับความเป็นจริงอย่างน่าทึ่งเลยทีเดียว

 

1. "ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจะได้รับอิทธิพลจากองค์กรบางอย่างที่ทรงอำนาจและยิ่งใหญ่กว่ารัฐบาล" ซึ่งจะเห็นความจริงของการทำนายข้อนี้ได้จาก "กลุ่ม ISIS" (Islamic States) นอกจากนี้ยังมีองค์กรที่ก้ำกึ่งระหว่างอิสระกับรัฐในทางการเมืองอีกด้วย เช่น กลุ่มสนับสนุนการแบ่งแยกรัสเซียในยูเครน แฮกเกอร์จีนที่ขโมยข้อมูลลับจากรัฐบาลสหรัฐฯ และแฮกเกอร์ที่เจาะเข้าระบบของบริษัทโซนี่ เป็นต้น ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกมากมายเลยทีเดียว

 

 

2. "ในปี 2000 - 2015 กลุ่มก่อการร้ายจะขยายอำนาจและเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม" หลังจากนั้นในปี 2001 กลุ่ม ISIS ก็ได้เริ่มปฏิบัติการครั้งยิ่งใหญ่

 

 

3. "อิรักและอิหร่านจะพัฒนาจรวดขีปนาวุธระยะไกล" และต่อมาในปี 2004 อิหร่านก็ได้ทำการพัฒนาขึ้นจริงหลังจากค้นพบของเหลวบางอย่างที่เป็นส่วนประกอบในจรวดมิดไซล์ และมีการเคลื่อนย้ายในปี 2004

 

 

4. "ประชากรโลกจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นถึง 7.2 พันล้านคน" และในปัจจุบันประชากรโลกมีจำนวนสูงถึง 7.4 พันล้านคนเลยทีเดียว

 

 

5. "พลังงานธรรมชาติจะเพียงพอต่อความต้องการ" โดยไม่กี่ปีที่ผ่านมาปริมาณการผลิตน้ำมันของสหรัฐอเมริกาเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ราคาแก๊สธรรมชาติลดต่ำลง

 

 

6. "เศรษฐกิจจีนจะเติบโตกว่ายุโรป และใหญ่เป็นอันดับสองของโลกรองจากสหรัฐฯ" ซึ่ในปัจจุบันเศรษฐกิจจีนนั้นใหญ่กว่าสหรัฐฯ แต่ยังคงเป็นรองทวีปยุโรปทั้งทวีป

 

 

7. "ยุโรปไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ ถ้าสหรัฐฯ เป็นผู้ควบคุมระบบเศรษฐกิจของโลก" ซึ่งก็คงจะจริงส่วนหนึ่งเพราะเศรษฐกิจของยุโรปซบเซาลงไป แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นใหญ่โตอย่างที่ CIA ทำนาย

 

 

8. "โรคเอดส์ ภาวะข้าวยากหมากแพง และความวุ่นวายทางเศรษฐกิจการเมือง จะทำให้ประชากรในแอฟริกาลดลงจนทำให้บางประเทศล่มสลาย" ซึ่งข้อนี้ไม่เป็นความจริงเลย เพราะในปี 2001 ประชากรแอฟริกาเพิ่มจำนวนขึ้นกว่า 800 ล้านคน และในปี 2014 มีประชากรเพิ่มขึ้นถึง 1.1 พันล้านคนเลยทีเดียว 

 

ข้อมูลและภาพประกอบจาก "businessinsider"

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...